Sick nurses (2007)
สวยลากไส้
นำแสดง: พลอย ชิดจันทร์ รุจิพรรณ, ตาล กัญญา รัตนเพชร, ดลรส เดชะประทุมวัน, โอซา วัง, บี อำไพรัตน์, เอ็ม อำไพวรรณ เตชะภูวภัทร, ชล วจนานนท์
กำกับ: ทศพล ศิริวิวัฒน์,พีระพันธ์ เหล่ายนตร์
ประเภท: Horror
เนื้อเรื่องย่อ: 7 คืนหลังความตาย คนที่ตายไปแล้วจะกลับมาหาคนรัก และในคืนนั้นผู้หญิงสวยทั้ง 7 คนนี้ กำลังถูกตาม…ลากไส้
หญิงสาว…เซ็กซี่แสนสวย
หญิงสาว…ร่ำรวยแบรนด์เนม
หญิงสาว…ผู้ปรีเปรมกับการกิน
หญิงสาว…อินเทรนด์กับการออกกำลังกาย
หญิงสาว…ผู้หลงใหลในรูปรสของกันและกัน
หญิงสาว…ผู้มั่นคงและบูชาในความรัก
ในคืนวันที่ 7 คนที่ตายไปแล้วกำลังจะกลับมาหา…พวกเธอ
กลางดึก เวลา 23.45 น. ณ โรงพยาบาลลึกลับแห่งหนึ่ง เกิดเหตุการณ์สยองขวัญขึ้นกับเหล่านางพยาบาลสาวสวยทั้ง 7 คน อันได้แก่ พยาบาลนุ๊ก(พลอย ชิดจันทร์ รุจิพรรณ) สาวหวาน สวยและเซ็กซี่, เอ๊ะ (ตาล กัญญา รัตนเพชร) พยาบาลสาวมาดไฮโซ, โจ้ (ดลรส เดชะประทุมวัน)สาวสุดเซ็กซี่ หุ่นดีแต่ชอบการกินเป็นชีวิต, ยิ้ม (โอซา วัง) สาวที่รักการออกกำลังกาย, อรและแอม (บี อำไพรัตน์, เอ็ม อำไพวรรณ เตชะภูวภัทร) ฝาแฝดที่หลงใหลในรูปร่างหน้าตาของกันและกัน สุดท้ายคือพยาบาลตาหวาน (ชล วจนานนท์) หญิงขาว หมวยน่ารัก กำลังถูกตามล่าอย่างโหดเหี้ยม
ดังนั้น สิ่งที่นางพยาบาลทั้งเจ็ดต้องทำ คือมีชีวิตรอดให้พ้นสิบห้านาทีสุดท้ายของคืนนี้ให้ได้ แต่ท่าทางจะยากเหลือเกิน เพราะเรื่องราวความสยองขวัญมันสุดวิปริตพิสดารเหนือความคาดหมาย “จะมีใครมั้ยที่จะรอดพ้นเวลาแค่สิบห้านาทีของคืนนี้ไปได้”
สวยชิบเป๋ง!
ผมเพิ่งได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้จากดีวีดีที่ทำ package ออกมา (สวยงาม น่าสะสมดีครับ) หลังจากที่ได้ร่วมฟังการสนทนาของเพื่อนๆ แฟนหนังสยองถึงเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ เมื่อครั้งที่ “สวยลากไส้” กำลังฉายอยู่ตามโรงภาพยนตร์ มีทั้งแง่บวก และแง่ลบ (มาก) คละเคล้ากันไป ตามแต่ทัศนคติ ความนิยมชมชอบเป็นการส่วนตัว แต่ยังไงก็ตามผมนั่งอยู่ในวงสนทนาครั้งนั้นไม่นานครับ กลัวพวกมันจะสปอยให้ฟังซะก่อน ดูหนังไม่มันกันพอดี
โอ้…สวยครับ สวยสมชื่อหนังกันเลยทีเดียว สาว ๆ ทั้ง 7 คน กับอีก 6 บุคลิกลักษณะที่เป็นตัวแทนของสาวสมัยใหม่ พล๊อตเรื่องทำได้เข้าท่าดีครับ บอกถึงพฤติกรรมของสาวสมัยใหม่ได้ชัดเจนและเห็นภาพ การดำเนินเรื่องใช้เวลาเพียง 15 นาทีเป็นตัวบอกเรื่องราวความสยดสยอง สอดแทรกด้วยภาพเหตุการณ์ในอดีตย้อนให้เห็นถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวตามแบบฉบับพิมพ์นิยมหนัง thriller / horror ยุคใหม่ ถ้าหากมองในเรื่องราวของบทภาพยนตร์ การที่ต้องการจะสื่อ หรือ บอกเตือนสาว ๆ สมัยนี้ ผมว่าถ้าใครดูหนังแล้วย้อนมองดูตัวเอง ก็คงจะได้แง่คิดสอดแทรกกันไปจากความบันเทิงของหนังเรื่องนี้ครับ แต่หากผู้รับชม เป็นหนุ่มๆ ที่ต้องการจะดูสาวๆ สวย ๆ มาเล่นสีกันอย่างสนุกสนานก็ต้องบอกว่า สนองความต้องการของท่านได้ เพราะแม่นางทั้งเจ็ดนั้นสวยหลากสไตล์จริงๆ ! สวยชิบเป๋ง!
สวยไส้ลาด!
นางพยาบาลครับ นางพยาบาล…เหอ เหอ เล่นเอาสาวสวยๆ มาใส่ชุดนางพยาบาล เดินในโรงพยาบาล (เทียม) แล้วเล่นเลือดให้ไส้ลาด! เซ็กส์ซี่ สยอง เป็นหนึ่งในพล๊อตหนังสยองที่ใช้ทีไรก็ได้ผล..ไม่ว่าจะเป็นแฟนหนังสยอง หรือเฒ่าหัวงู ต่างชูชัน ไปหา ไปคว้ามาดูกันได้อย่างเพลิดเพลิน…
ฉากโหดๆ ฉากสยองๆ ของหนังเรื่องนี้ก็ทำได้กระชับ ฉับไว ไม่ต้องลุ้นให้เสียเวลา เพราะฉากดังกล่าวมันมาตั้งแต่เริ่มเรื่องกันเลย มุมกล้องอาจจะดูแปลกใหม่สำหรับแฟนหนังทั่วไปที่ไม่ค่อยได้ดูหนังสยอง แต่อาจจะเป็นมุมกล้องธรรมดาๆ ของแฟนหนังสยองที่ดูมันแต่หนังสยอง ภาพการตายของพยาบาลสาวทั้ง 6 บุคลิกถูกกำหนดให้ตาย ด้วยความชอบส่วนตัวของแต่ละคน อาทิ ใครชอบกิน ก็ตายเพราะกิน ใครชอบของหรู ก็ตายเพราะของหรู ใครชอบออกกำลังกาย ก็ตายเพราะออกกำลังกาย เป็นต้น คงไม่ต้องบรรยายอะไรมากครับ คิดว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะนึกพล็อตกันออก
ผมชอบการดำเนินเรื่องของสาวที่ชื่อ “โจ้” มากที่สุดครับ สาวบ้ากิน กินทุกอย่างที่ขวางหน้า…ฉากการตายของโจ้ จะจบชีวิตลงในห้องดองอวัยวะ หากผู้กำกับบ้าเลือดมากกว่านี้ ผมแนะนำให้สาวโจ้เดินเปิดขวดหยิบอวัยวะดองขึ้นมากินทีละขวด ทีละขวด กรุ๊บ ๆ ก่อนให้ซัดใบมีดหมอที่เลาะขากรรไกร จนกรามหลุด ลิ้นห้อย ตายอย่างสวยงามกันไป น่าจะเข้าท่าไม่น้อย
ส่วนฉากที่ผมไม่ชอบ และคิดว่าแฟนหนังสยองของ Takashi Miike หลายคนคงไม่ชอบ ก็คือฉากตอนจบของเรื่อง ที่สาวตาหวานคลานออกมาจากช่องคลอดของพยาบาลนุ๊ก โอ้ว…ทั้งมุมกล้อง ทั้งซาวนด์ ทั้งท่าทางของตัวแสดง มันช่าง….เหลือเกิน ไม่น่าครับ ไม่น่าเลย…ผมว่า เดี๋ยวนี้คนไทยไม่ได้อยู่แค่ในกะลาครับ สื่อมากมาย มีให้เลือกสรร หนังมากมายมีให้เลือกหา การกระทำแบบนี้ ใครได้ดูก็คงคิดได้ครับว่าหมายถึงอะไร..ถือเป็นความคิดเห็นของคนดูคนนึงละกันนะครับ ผมมันแฟนหนังน้า Miike เค้า เลยดูแล้วมันหงุดหงิดพิลึก!
หนังสยองของไทยอีกเรื่องที่ตั้งใจทำออกมาให้คนไทยแฟนหนังสยองได้เสพกันครับ…ใครอยากเสพหนังสยองสอนใจหญิง ก็ลองหามาดูได้เพลิน ๆ ครับ หรือใครอยากดูหนังสยองเซ็กส์ซี่ น่ารัก ก็หามาดูกันได้ไม่ว่าจ้า ^^
ตัวอย่างหนังสวยลากไส้
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies S - U Tagged with: Sick nurses 2007, หนังสยองไทย, หนังสวยลากไส้
The Letters of Death (2006)
เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย
นำแสดง : มหาสมุทร บุณยรักษ์, ชลลดา เมฆราตรี, กรรชัย กำเนิดพลอย, ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์, แอนดี้ เขมภิมุก, อโณมา ศรันย์ศิขริน
กำกับ : กพล ทองพลับ
ประเภท :Horror
เรื่องย่อ: เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อชัยวัฒน์ เพื่อนร่วมรุ่นตายไปต่อหน้าต่อตาเสรี เหลือเพียงซีดีที่ชัยวัฒน์ ให้เป็นข้อมูล ในซีดีแผ่นนี้ มีแต่ภาพคนตาย ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนนักเรียนตอนอยู่ ป.6 ห้องเดียวกับเขาทั้งสิ้น แต่น่าแปลกใจคือ ผู้ตายได้รับ “จดหมายลูกโซ่ปริศนา” ทุกคน !!!
เสรีและนาตยาเริ่มสืบหาสาเหตุจากข้อมูลที่มีอยู่ และถ้าไม่สามารถแก้ปริศนาได้ภายในเวลาที่กำหนดในจดหมาย ความตายเท่านั้นที่เป็นคำตอบสุดท้าย ตอนนี้ นาตยา เพื่อนสาวร่วมรุ่นได้รับจดหมายแล้ว และเพื่อนที่เหลืออยู่ ทุกคนก็ได้รับจดหมายเช่นกัน เสรีได้บอกทุกคนเรื่องความตายจากจดหมายปริศนาที่ทุกคนได้รับ แต่ไม่ใครเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง น่าจะเป็นเหตุบังเอิญมากกว่า จนกระทั่งพวกเขาทุกคนได้เผชิญหน้ากับความตายไปทีละคนอย่างไม่มีทางเลือก
การค้นหาคำตอบเริ่มชัดเจน เมื่อพฤกษ์ตั้งข้อสันนิษฐานว่า จดหมายปริศนาน่าจะเกี่ยวข้องกับ “ไอ้แว่น” เพื่อนคนหนึ่งสมัย ป.6 ที่มักถูกเพื่อนๆ แกล้งเสมอ ขณะที่ปมปริศนากำลังจะถูกคลี่คลาย เวลาของพฤกษ์ก็หมดลง เช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆ เหลือแต่เสรีกับนาตยา สองคนสุดท้ายในรุ่น ที่จะต้องแก้ปมปริศนาต่อไป พวกเขาจะสามารถหาคำตอบได้ทันหรือไม่ เพราะเวลาของพวกเขาทั้งสองกำลังจะหมดลงเหมือนกับเพื่อนของเขาอีกในไม่ช้า…….
หนังไทยที่โปรโมตมากมาย…
หนังจาก “เจ้าพ่อผีเมืองไทย ดีเจ ป๋อง กพล ทองพลับ…ดีเจ ป๋อง เดอะ ช็อก…ผู้รู้จริงเรื่องผี ผู้คร่ำหวอดในเรื่องภูตผีวิญญาณมานานร่วม 20 ปี…” และอีกมากมายคำโปรโมตที่ หรืออาจจะเรียกว่า บุคคลที่หากินกับผี ก็คงจะว่าได้ (แซวเล่นนะครับ ^^ หนังจะคุณภาพสนุกสยองดั่งคำยกย่องหรือเปล่า เพื่อนๆ คงต้องไปพิสูจน์เองนะ)…
นอกจากทางค่ายหนัง เอ จี เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จะใช้ชื่อเสียงของผู้กำกับกระพือโปรโมตหนังเรื่องนี้แล้ว ทาง AG ยังใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เล่นกับเรื่องราวความเชื่อของคนไทย กับ “จดหมายลูกโช่” ที่เป็น theme หลักของหนังเรื่องนี้ จนกระทั่งมีคนไม่พอใจถึงกับว่ากันไปถึงเรื่องราวของกฏหมาย ซึ่งทางบริษัทฯ เองก็ออกมาขอโทษเป็นที่เรียบร้อย (หลังจากสร้างกระแสได้อย่างล้นหลาม…จนเรียกว่าคุ้มค่า และยอมโดนด่า) สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร ผมก็ขอนำข้อความข่าวจากเว็บไซต์ Manager Online มาลงให้อ่านกันบางส่วนครับ
“กลายเป็นปัญหาขึ้นมาอีกจนได้สำหรับวิธีการโปรโมตหนังในบ้านเรา ล่าสุดเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่อง “เดอะ เลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย” ของบริษัทเอจี เอนเตอร์เทนเม้นท์ กำกับโดย “ป๋อง กพล ทองพลับ” ที่ได้มีนักศึกษาส่วนหนึ่งเข้าร้องเรียนไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคภายหลังได้รับจดหมายลูกโซ่มีเนื้อหาใจความในลักษณะที่ว่าจดหมายฉบับที่ว่าเขียนมาจากเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าตนคงจะตายไปแล้วที่จดหมายฉบับนี้มาถึงมือผู้รับ และคนที่ได้รับจดหมายนี้จะต้องเขียนจดหมายส่งต่อไปอีกจำนวน 29 ฉบับ มิเช่นนั้นก็จะต้องจบชีวิตเช่นเดียวกับตน พร้อมกับลงท้ายเป็นรูปลายเส้นภาพแขวนคอและข้อความว่าแล้วเจอกันวันที่ 23 พ.ย….
ทั้งนี้หลังจากการได้รับการร้องเรียน ในวันนี้(16)ทางผู้บริหารค่ายเอจี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ โดยนาย “สมศักดิ์ ทรงธรรมากุล” ประธานบริหาร พร้อมด้วยทนายความส่วนตัว และ “ป๋อง กพล ทองพลับ” ในฐานะของผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจึงได้เข้าไปชี้แจงต่อนายนพปฎล เมฆเมฆา ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงสายที่ผ่านมา โดยบอกว่าจดหมายที่ว่านั้นถูกทำออกมาเพื่อเป็นการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง “เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย” จำนวนทั้งสิ้น 2,000 ฉบับด้วยกัน เน้นไปที่กลุ่มนักเรียน – นักศึกษา และมิได้มีเจตนาที่จะสร้างความตกใจให้กับผู้รับแต่อย่างใด เนื่องจากจะมีการส่งโปสการ์ดบอกรายละเอียดแนบไปกับจดหมายที่ว่านี้ด้วยทว่าได้เกิดการผิดพลาดต่อการจัดส่งจึงทำให้โปสการ์ดไม่ได้ถูกส่งไปพร้อมกับจดหมายพร้อมกับกล่าวขอโทษในความผิดพลาดดังกล่าว…”
ใครอยากอ่านเต็ม ๆ ก็เข้าไปได้ที่ http://www.manager.co.th/entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9490000141608 ครับ เอาเป็นว่า เพื่อนก็ใช้วิจารณญาณตัวเองดูนะครับ ว่าการกระทำแบบนี้สมควรหรือเปล่า
หนังจำพวกเอะอะก็ตาย…เอะอะก็จะฆ่า
เนื้อเรื่องชี้ไปที่เด็กนักเรียนที่เข้ามาใหม่กลางเทอมคนหนึ่ง โดยถูกแกล้งจากกลุ่มเพื่อนนักเรียนด้วยกัน แกล้งซะจนทำให้เด็กนักเรียนใหม่คนนั้นได้รับอุบัติเหตุตกบันได ชนิดที่เรียกว่า สาหัสจนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อีกต่อไป เด็กนักเรียนใหม่คนนั้นก็มีแต่ความแค้น เกลียดชัง ประกอบกับเด็กน้อยคนนั้นชอบเล่นเกมแฮงค์แมนเป็นชีวิตจิตใจ สุดท้ายจึงจบชีวิตลงพร้อมกับฝังความแค้นลงในจดหมายลูกโช่ พร้อมทิ้งปริศนาให้เพื่อนๆ ในห้อง ป.6 ที่เคยแกล้งเขาได้แก้ไขปริศนานั้นดู
ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ส่วนตัวผมก็มีเรื่องขำๆ เล็กน้อยมาเล่าให้ฟัง เรียกน้ำย่อย เผื่อผู้ที่ไปชมจะร่วมสังเกตไปกับผมด้วย เริ่มต้นที่…หน้าตาเจ้าเด็กนักเรียนใหม่ที่ตอนสมัยเรียนอยู่ ป.6 ก็น่ารักดีนะครับ แต่พอแกประสบอุบัติเหตุ หรือประสบเคราะห์จากการกลั่นแกล้งของเพื่อน ๆ ร่วมชั้น และโตขึ้นมาชนิดที่เรียกว่า พกความคาดแค้นมาเต็มกระเป๋านั้น หน้าตาแกดูไม่ได้เลยครับ ดูไม่ได้อย่างมากมาก แตกต่างจากเพื่อนร่วมชั้นที่โตขึ้นมานั้น หน้าตา หล่อ สวย เป็นนายแบบ นางแบบสบายๆ ผมว่าการสร้างบุคลิกตัวละครได้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซะขนาดนั้นเนี่ย มันออกจะดูจงใจให้เกิดความแตกต่าง ระหว่าง คน กับ ผี(ที่มีแต่ความแค้น) ช่างไม่สมจริง และน่าขำ(เล็กน้อย) อย่างที่สุด ผมว่าการสร้างหนังจำพวกนี้ไม่จำเป็นต้องสร้างความแตกต่างในเรื่องของหน้าตาของตัวละครในลักษณะนี้ก็ได้ครับ
พระเอก จีน มหาสมุทร (จากภาพยนตร์เรื่อง หมานคร) ของพี่ป๋อง ที่ผมเห็นแกให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวหนังว่า ต้องพระเอกคนนี้แหละ มีลักษณะในแบบ anti – hero คือลักษณะที่ว่าไม่น่าเป็นพระเอก แต่ก็เป็นพระเอกได้ ผมว่าพระเอกคนนี้มีความสามารถในระดับนึงครับ แต่แกต้องพัฒนาฟิลลิ่งในการเล่นภาพยนตร์จำพวกนี้อีกเยอะครับ เพราะเสียงแก ชวนง่วงนอน(มาก) นิ่ง ราบ เรื่อย เอื่อย ขนาดจุดสุดยอดของเรื่องที่พระเอกจีน ต้องตะโกนให้ นางเอกเก๋ เขียนจดหมายลูกโซ่ต่อนั้น มันยังดูไร้อารมณ์เหลือเกิน…
อย่างที่บอกไปครับ หนังเรื่องนี้เข้าข่าย หนังเอะอะก็ฆ่า เอะอะ เอ็งก็ต้องตายครับ…ซึ่งน้ำหนักในการประพันธ์หนังในเดอะ เล็ตเตอร์ให้เกิดการฆ่าล้างแค้นยกห้องแบบนี้ มันเบาหวิวมากครับ ไม่รู้แค้นอะไรนักหนา จะฆ่ามันล้างโคตร ทำนองนั้นเลย มันเสียดายนักแสดงที่อุตสาห์ตั้งใจมาโปรโมตหนัง มาร่วมแสดงครับ ออกมาฉาก สองฉาก ก็โดนฆ่าซะสยดสยอง หรือพี่ป๋อง ต้องการจะขายหนังในลักษณะ Gore ก็ไม่อาจทราบได้
กลิ่นหนังฝรั่งที่พี่เค้าอาจได้รับอิทธิพลมาก็คุกรุ่นอยู่หลายเรื่อง หนังจำพวกค่อยๆ ตายไปทีละคน ทีลคน ผมว่าเพื่อนๆ คงจะนึกออก ยิ่งหากได้ดูผลงานของพี่ป๋องในเรื่องนี้แล้ว คงจะร้อง ‘อ๋อ’ กันได้ไม่ยาก
ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ “เจ้าพ่อผีเมืองไทย” ผมก็ขอเอาใจช่วยให้พี่ “เจ้าพ่อผี” สร้างผลงานคุณภาพออกมาอีกเยอะๆ นะครับ
..ใครใคร่อยากดูหนังโรง ก็เชิญครับ
..ใครใคร่อยากรอดูหนังแผ่น (ก็แนะนำนะ) ^^
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: The Letters of Death (2006), รีวิวหนังผีไทย, หนังของกพล ทองพลับ, หนังผีพี่ป๋อง, หนังผีไทย, หนังสยองไทย, เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย