the House That Screamed (2000)
บ้านผีหวง
นำแสดง: Bob Dennis, Robert Thomas, Steven Anselmi
กำกับ และ เขียนบท: John Polonia, Mark Polonia
ประเภท: Horror, Ghost, Suspense
“เรื่องสยองขวัญที่คุณอาจเจอ…โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชื่อ” คำโปรยบทหน้าปกแผ่นวีซีดีเรื่อง “บ้านผีหวง” ครับ
สำหรับใครที่ชอบค้นกระบะวีซีดี ดีวีดีตาม Big C, Tesco คงจะทราบครับว่ามีหนังเจ๋งๆ หลายเรื่องที่ถูกนำมาทำลงกระบะหนังราคาถูกบ้านเราอยู่มากมายหลายเรื่อง
เรื่องไหนที่ไม่รู้จักก็สุ่มหยิบเอาบ้าง อ่านคำโปรยหน้าปกดูบ้าง the House that Screamed ก็อ่านจากคำโปรยนี่แหละครับ ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
จะว่าไปแล้วคำโปรยบทหน้าปกแผ่นวีซีดี/ดีวีดีของภาพยนตร์เนี่ย ถ้าเขียนให้น่าสนใจได้มากเท่าไร ก็ทำให้คนดูอย่างซื้อไปดูมากเท่านั้น โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ไม่ได้ฉายตามโรงหนังทั่วไป ที่เป็นภาพยนตร์ฮอลิวู๊ดทุนสร้างหลายร้อย หลายพันล้านบาท และโดยเฉพาะคนประเภทเดียวกันกับผม ที่คอยเสาะหาหนังแปลกๆ มาดู
กลับมาพูดกับถึงเรื่อง House That Screamed กันต่อ ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเรื่องราวพล๊อตเรื่องเดิม ๆ ที่หลาย ๆ เรื่องใช้ นั่นคือ ใช้บทบาทของนักเขียนนวนิยายสยองขวัญเป็นตัวดำเนินเรื่องราวทั้งหมด สำหรับในเรื่องนี้ มีนักเขียนนวนิยายสยองขวัญชื่อ มาร์ตี้ ( Bob Dennis) ต้องการให้ได้บรรยากาศในการเขียนเรื่องราวสยองขวัญให้สมจริงมากที่สุด จึงหาบ้านเช่าที่มีคนลือกันว่ามีผีสิง ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองไม่เคยเชื่อเรื่องผีเลย เขาจึงไม่มีความกลัวในการที่จะอยู่บ้านหลังนี้ พูดมาถึงตรงจุดนี้แล้ว หลาย ๆ คนคงจะเดาเรื่องราวออกกันแล้วนะครับ…แน่นอน พล๊อตเรื่องเดิม ๆ ที่เจ้ามาร์ตี้ นักเขียนนวนิยายต้องเจอเรื่องราวแปลกประหลาด ภาพหลอน รวมไปถึงสิ่งที่ถูกเรื่องว่าผี ตามหลอกหลอน…เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรนั้น ใครสนใจก็ลองไปหาซื้อมาดูละกัน
หนังเรื่องนี้ทำออกมาในปี 2000 ครับ ถ้าใครได้อ่านเนื้อเรื่องคร่าวๆ น่าจะนึกถึงภาพยนตร์อย่าง 1408 หนังผีสยองขวัญที่ได้ดารานำอย่าง John Cusack และ Samuel L. Jackson นำแสดง หนังเรื่อง 1408 ทำออกมาในปี 2007 เนื้อหาไม่ได้แตกต่างไปจาก the House that Screamed เลย ไม่แน่ใจว่าได้รับแรงบันดาลใจจากพล็อตของเรื่องนี้หรือไม่ ยังไงก็ลองไปพิสูจน์กันเอานะ
สำหรับตัวผมเอง ค่อนข้างจะผิดหวังกับ the House that Screamed พอสมควรเลย…การตัดต่อภาพ การดำเนินเรื่องเป็นไปด้วยความขัดแย้งและไม่ลื่นไหล บทหนังเดิมๆ ที่ดูแค่สิบนาทีแรกก็พอจะเดาเรื่องทั้งหมดได้อย่างไม่น่าแปลกใจ เมื่อยิ่งได้รู้ว่าเรื่องนี้ถูกกำกับและเขียนบทโดยนาย John Polonia ทำให้นึกถึงหนัง Terror House ในปี 1998 ที่เขาเคยสร้างโดยใช้บ้านผีเป็นตัวเอกของเรื่องมาแล้ว หนังไม่ได้มีการพัฒนาหรือเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากเดิมเลย ผมว่าหนังใหม่ๆ ของ Polonia คงจะมีพัฒนาการมากขึ้นกว่าเก่า คงต้องรอคอยติดตามดูกันต่อไปครับ สำหรับผู้กำกับและผู้เขียนบทคนนี้
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 1.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: รีวิวหนัง The House that Screamed, รีวิวหนังผี, หนังผี, หนังสยองขวัญ
House on Haunted Hill (1999)
นำแสดง: Geoffrey Rush (Stephen H. Price), Famke Janssen (Evelyn Stockard-Price), Taye Diggs (Eddie Baker), Peter Gallagher (Donald W. Blackburn, M.D.), Chris Kattan (Watson Pritchett), Ali Larter (Sara Wolfe), Bridgette Wilson (Melissa Margaret Marr), Max Perlich (Carl Schecter), Jeffrey Combs (Dr. Richard Benjamin Vannacutt)
กำกับ: William Malone
เขียนบท: Robb White (story) และ Dick Beebe (screenplay)
ประเภท: Horror/Thriller
หนังที่นำเอาเนื้อเรื่องของ Robb White นักเขียนผู้นิยมเรื่องราวของภูติผีปีศาจชนิดเข้าใส้ ผลงานของเขาถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์สยองหลายๆ เรื่อง และเรื่องนี้ก็เช่นกัน…เรื่องราวนี้เคยถูกนำไปสร้างเป็นหนังขาว – ดำในปี 1959 มาแล้ว นักวิจารณ์ภาพยนตร์สยองยกย่องให้หนังในปี 1959 เป็นต้นแบบหนังจำพวก “บ้านสยอง” ทั้งหลายแหล่ ในยุค 90’s เรื่องราวนี้ถูกหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นสร้างใหม่อีกครั้งในปี 1999 โดยผู้กำกับ William Malone (ผู้กำกับ FearDotCom) รับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่ White เขียน…
เรื่องย่อ…
มหาเศรษฐื Price เจ้าของสวนสนุกสุดเสียว เพี้ยน สยอง จัดงานวันเกิดให้กับ Evelyn ภรรยาสาวสวยสุดเซ็กส์ซี่ ที่นิยมความวิปริตจิตไม่ปกติของเขา Evelyn เห็นสถานที่แห่งหนึ่งจากในทีวี สถานที่ที่เหมาะกับการจัด Party ของเธอ Price และ Evelyn ได้เลือกสถานที่ที่เป็นสถาบันสำหรับฆาตรกรโรคจิต สถาบันที่เคยเป็นที่ทดลองทางการแพทย์ที่น่ากลัวสุดสยอง สถานที่ที่บริหารงานโดยนายแพทย์วิกลจริตชื่อว่า Dr. Vannacutt สถานที่ที่มีชื่อว่า Vannacutt Psychiatric Institiution
ในขณะที่ Price กำลังพิมพ์รายชื่อของแขก Private ที่เขาและภรรยาต้องการเชิญมาร่วมปาร์ตี้นี้ด้วย หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีรายชื่อแขกของ Price ก็ถูกลบออกไป และดูเหมือนว่า คอมพิวเตอร์กำลังพิมพ์รายชื่อแขกให้ใหม่!…รายชื่อที่มีใครสักคนต้องการให้ไปรวมตัวกัน…รายชื่อที่เฉพาะเจาะจง!
แขกทั้งหมดเดินทางมาถึงอาคารที่จัดงาน Priceและภรรยางงมากที่มีแต่แขกที่เขาไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ส่วนบรรดาแขกที่มีบัตรเชิญเข้างานก็งงเช่นกันว่า ทำไมถึงถูกเชิญให้มางานนี้ Price เองก็ไม่ปฏิเสธการจัดปาร์ตี้ เขาจึงได้ตั้งรางวัลก้อนโตถึง $1,000,000 สำหรับผู้ที่อยู่ค้างคืนที่นี่ได้จนถึงเช้า…แขกผู้ร่วมงานนึกถึงเงินก้อนโต ก็ไม่ปฎิเสธที่จะอยู่เล่นเกมส์ ความหายนะสยองขวัญจึงได้เริ่มต้นขึ้น ความลับในสถาบันโรคจิตแห่งนี้มี อะไรซ่อนอยู่ ใต้ผนัง เพดาน อาคาร มีอะไรซ่อนอยู่…เชิญคุณค้นหาได้เลย!
ไม่ขำ!…สยองตามมาตรฐาน
ผมเห็นหนังที่มีผีเดินเรื่องอยู่ในบ้านสยอง โรงพยาบาลสยอง อาคาร ตึกสยอง มาก็หลายเรื่อง ส่วนใหญ่ถ้าไม่เน้นสยองตลกโปกฮา ก็ออกแนวไร้สาระ ไร้เหตุผลและน้ำหนักของหนังไปเลย ไม่ค่อยจะเจอไอ้ที่มันสยอง และเดินเรื่องได้น้ำหนักเท่าไรนัก…แต่เรื่องนี้ทำได้ดีครับ House on Haunted Hill ในฉบับของปี 1959 (หนังขาว-ดำ) ที่เคยดูนั้น ถูกยกย่องให้เป็นหนังคัลต์อย่างที่ผมเกริ่นไว้ในช่วงแรก ซึ่งสำหรับผมแล้วรู้สึกว่าหนังเดินเรื่องแบบไม่ค่อยกระชากอารมณ์สยองเท่าไร มีเพียงหน้าตาของ Price ที่ไม่รู้ตั้งใจเลือกนักแสดงให้หน้าเหมือนกันหรือเปล่า หน้าของ Frederick Loren กับ Geoffrey Rush หน้าตาคล้ายกันมากทีเดียว หนังในเวอร์ชั่นใหม่ทำได้สยองน่าติดตามดีไม่แพ้เวอร์ชั่นเก่า แต่กระตุกอารมณ์สยองได้มากกว่าเวอร์ชั่นเก่าครับ อาจจะเนื่องด้วย ภาพสี เทคนิค ความทันสมัยจึงทำให้ออกมาดูดีมีสีสัน
ใครที่นิยมความสยอง ดูเรื่องนี้ก็คงไม่ผิดหวัง ความวังเวงและ อารมณ์ของสถานที่ สร้างสถานการณ์ได้น่าติดตาม ฉากโหดๆ มีอยู่ให้เห็นเป็นระยะๆ บทถูกเขียนให้เห็นถึงอารมณ์วิปริตและสันดานดิบที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน..ผมว่า White เขียนเรื่องดี และ Malone ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีทีเดียว
หนังชนะเลิศรางวัล Blockbuster Entertainment Award สาขา Favorite Supporting Actor – Horror (Taye Diggs) ในปี 2000 และได้เข้าชิงรางวัล Golden Trailer ในปี 2001 ด้วย ใครที่เบื่อกับหนังจำพวก “บ้านสยอง” ก็ลองหาหนังเรื่องนี้มาดูได้นะ..ผมว่าอาจเปลี่ยนทัศนคติของคุณได้ไม่น้อย…หนังในแบบ “บ้านสยอง” ดีๆ ก็มีให้เห็นอยู่เหมือนกันครับ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: House on Haunted Hill (1999), รีวิว House on Haunted Hill, รีวิวหนังบ้านสยองขวัญ, หนังผี, หนังสยองขวัญ
The Hill Have Eyes (Remake:2006)
นักแสดง: Ted Levine (Big Bob), Kathleen Quinlan (Ethel), Dan Byrd (Bobby), Emilie de Ravin (Brenda), Aaron Stanford (Doug), Vinessa Shaw (Lynn). Maisie Camilleri Preziosi (Baby Catherine)
กำกับ: Alexandre Aja
เขียนบท: Wes Craven (1977), Aja
ประเภท: Horror/Thriller
หนังรีเมคสุดคลาสสิกจากผลงานเดิมของผู้กำกับ Wes Craven ในปี 1977 ที่สร้างตำนาน “เขามรณะ” มาจนโด่งดังในยุคนั้น กลับมาอีกครั้งในปี 2006 Alexandre Aja ผู้สร้างตำนานหนังคัลต์สุดสยอง Haute Tension (High Tension) จนมีชื่อเสียง เขานำ The Hill Have Eyes กลับมาทำใหม่อีกครั้ง…
เรื่องย่อ…
ครอบครัวอเมริกันชนที่เดินทางข้ามประเทศในโอกาสฉลองครบรอบแต่งงานของนักสืบรุ่นใหญ่ Big Bob (Ted Levine) กับภรรยาสุดที่รัก Ethel (Kathleen Quinlan) พร้อมด้วยครอบครัวของลูกสาวคนโต และลูกสาวคนรอง น้องชายคนเล็ก และสุนัขสองตัว เจ้าบิ้วตี้และเจ้าบีสต์ การเดินทางครั้งนี้พวกเขาเดินทางโดยรถบ้านปรับอากาศสุดคลาสสิกของ Big Bob ที่ จริงๆ แล้ว ไม่มีใครอยากเดินทางมาในทริบครั้งนี้ด้วย
เหตุการณ์สยองเริ่มเกิดขึ้น เมื่อ Big Bob ตัดสินใจเดินทางออกจากนอกเส้นทางในแผนที่ พวกเขาต้องเจอกับสิ่งประหลาดหลาย อย่างในทะเลทราย ซึ่งพวกเขาไม่รู้เลยว่า กำลังเดินทางมาสู่ขุมนรก ทะเลทรายที่เคยเป็นพื้นที่ทดลองนิวเคลียร์มาก่อน
สิ่งที่พวกเขาต้องเจอ ไม่ใช่ธรรมชาติอันสวยงาม กลับเป็นอสูรกายที่แปรสภาพเผ่าพันธุ์จากคนที่ถูกสารเคมี ในการทดลอง นิวเคลียร์จนทำให้พันธุกรรมของคนเหล่านี้ บิดเบี้ยว แปลงพันธุ์เป็นอสูรกายกระหายเลือดและเนื้อสดๆ
พวกเขาต้องทำอย่างไรให้พ้นจากชะตากรรมเหล่านี้ คงต้องติดตามดูกันเองครับ…
สไตล์ Aja…
ไม่ผิดหวังครับ…Aja ทำหนังรีเมคซึ่งเคารพต้นฉบับเดิมที่ Wes Carven ทำไว้ได้น่าชื่นชม ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างหนัง และ บท ที่ยังคงความขลังของเขาอยู่ สิ่งที่ผู้กำกับคนนี้เสริมเข้าไปในหนัง นั่นคือ สไตล์ในเรื่องของจิตวิทยา ที่เขามักจะใส่เข้าไปใน ผลงานทุกเรื่อง สำหรับในเรื่องนี้ Aja พยายามฉาย “สัญชาติญาณดิบของมนุษย์” ที่มีอยู่ในทุกคนให้เห็น ด้านมืดที่ถูกนำมาใช้ ในยามคับขัน สิ่งที่เขาพยายามแสดงให้เห็นว่า ความเป็นคน ความสงสารจะมีอยู่ในตัวคนเราเสมอ แต่หากมีสภาพการณ์ บางอย่างไปกระตุ้นต่อมสัญชาติญาณดิบนั้นแล้ว ความรุนแรงที่มีอยู่ในตัวเราจะปรากฏขึ้น…
หนังเปิดฉากในช่วงขึ้นเครดิตนักแสดง ด้วยเหตุการณ์ระเบิดนิวเคลียร์ ปรมาณู ความบกพร่องทางพันธุกรรม เป็นการฉายภาพ บอกให้เห็นถึงสิ่งที่ตามมาหรือผลจากเหตุการณ์เหล่านี้ นั่นคือ เหตุผลของความเป็น “อสูรกาย” จากเหตุการณ์ ทดสอบนิวเคลียร์ จนทำให้คนในบริเวณนั้นถูกล้างเผ่าพันธุ์ ผู้รอดชีวิตและผู้กำเนิดใหม่ กลายพันธุ์เป็นอสูรกายที่ต้องการเลือด และเนื้อสดของสิ่งมี ชีวิตทุกประเภท…นั่นเป็นช่วงเกือบหนึ่งชั่วโมงแรกของหนังที่ Aja สื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของตัวละคร และปูพื้นฐานให้ หนังมีน้ำหนักมากขึ้น
ความรุนแรงของหนังถูกประเคนใส่การรับรู้ของคนดูอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ฉากเจ้าบิวตี้ โดนควักไส้ Big Bob โดนเผาทั้งเป็น ฉากกินนกสดๆ เจ้าอสูรกายพยายามชำเราลูกสาวทั้งสองคน แม่และพี่สาวคนโตโดยยิงสมองกระจาย จวบจนถึงครึ่งชั่วโมงสุด ท้ายของหนังที่ ผู้รอดชีวิตที่เหลือคือ เบรนด้า ลูกสาวคนรอง บ๊อบบี้ น้องชายคนเล็ก ดั๊ก สามีของลูกสาวคนโต ลูกของดั๊ก และเจ้า บีสต์สุนัขที่เหลืออยู่ พยายามจะเอาชีวิตให้รอดจากพวกอสูรกาย…สัญชาติญาณดิบในการเอาตัวรอดเริ่มขึ้น Aja ใส่พานถวาย ความโหดให้คนดูอย่างไม่ยั้ง ในทุกๆ ฉาก…
คงไม่ต้องบรรยายอะไรกันมากครับ ใครเคยชม และชื่นชอบ Haute Tension หนังรีเมคเรื่องนี้ ก็คงไม่ผิดหวังแน่นอน…
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.60 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: The Hill have eyes remake 2006, The Hill have Eyes รีวิวหนัง, ผลงานของ Alexandre Aja, ผู้กำกับ Alexandre Aja, หนังรีเมค The Hill have eyes, หนังสยองขวัญ
Dumplings: Three…Extremes (2004)
เกี๊ยวอาถรรพ์
นำแสดง: Bai Ling, Miriam Yeung และ Tony Leung Ka-Fai
กำกับ: Fruit Chan Gor
เขียนบท: Fruit Chan, Lilian Lee
โปรดิวเซอร์: Peter Chan Ho-Sun
ประเภท: Horror
“ถ้าคุณจำได้…ความกลัวนั้น กำลังจะกลับมาอีกครั้งใน…ฉบับสมบูรณ์” “เกี๊ยวอาถรรพ์” ภาพยนตร์หนึ่งในสามเรื่องของ Three…extremes นี่คือภาพยนตร์เรื่องเต็มความยาว 90 นาที ที่แฟนหนัง Horror ได้เสพกันอย่างเต็มอิ่มแน่นอน จากเรื่องสั้นของ Lillian Lee ทางผู้กำกับ Chan Gor และ โปรดิวเซอร์ Peter Chan นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เขย่าขวัญที่นำเรื่องใกล้ตัวของคนทั่วไป ก็คือเรื่องของอาหาร ความสวยงาม จนถึงอารมณ์ความอยากสาวสองพันปีของผู้หญิงทั่วโลก งานนี้ได้นักแสดงฝีมือระดับคุณภาพอย่าง Miriam Yeung และนักแสดงหญิงชาวเอเชียที่ไปโด่งดังในฮอลิวู้ดอย่าง Bai Ling มาร่วมโชว์ฝีมือการแสดงอย่างเต็มที่
…ว่ากันด้วยเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องการรักษาความสาวสวยให้อยู่คงทนถาวรตลอดไป ซึ่งแน่นอนในความเป็นจริงคงไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้ “กิง” อดีตดาราสาวสวยรุ่งเรืองเจิดจรัสในวงการมายา ก็มีความต้องการเช่นนั้นเหมือนหญิงสาวอื่นทั่วไป อยากที่จะรักษาความสาวเอาไว้ เพื่อมัดใจสามีมหาเศรษฐีจอมเจ้าชู้ที่ไม่เคยพอในเรื่องตัณหาราคะ…ดังนั้นเธอจึงยอมทำทุกวิถีทางเพื่อเหนี่ยวรั้งสามีของเธอไว้ไม่ให้ไปหาหญิงอื่น และนี่แหละ คือที่มาของอาหารเพื่อรักษาความสาว…เกี๊ยว…คือเมนูอาหารดังกล่าวนั่นเอง
ต้องยอมรับว่า ครั้งแรกที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จากหนึ่งในสามเรื่องของ Three Extremes Dumpling แล้ว เนื้อเรื่องยังไม่เคลียร์ และการตัดต่อภาพยังดูไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถูกทำให้เคลียร์ และลื่นไหลจากหนังภาคเต็มเรื่องนี้ การตัดต่อภาพโดยรวมนั้นถูกใจผมเป็นที่สุดสำหรับเรื่องนี้ การวางโครงสร้างเนื้อเรื่อง รวมถึง เนื้อหาที่คิดไม่ถึงว่าภาคเต็มเรื่องราวจะออกมาเป็นแบบนี้ ผมว่าเนื้อหาสำคัญๆ หลายส่วนถูกเฉลยกันก็ในหนังภาคเต็มนี่แหละ…ผมคงไม่เล่าเนื้อเรื่องอะไรให้มากมาย อยากให้ไปซื้อหามาดูกันเองมากกว่า บอกใบ้ไว้สักนิดละกันว่าในภาพยนตร์เต็มเรื่องนี้ คุณจะคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องอายุของ ป้าเหมย (ไป่หลิง), สัมพันธ์สวาทจากฉากอันสุดร้อนแรงของมิสเตอร์ หลี่ กับป้าเหมย จนถึงชะตากรรมสุดท้ายกับบันทึกของมาดาม หลี่ ถวิลหาความสาว (มีเรียม เหยิง)
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลม้าทองคำครั้งที่ 41 ปี 2004 ในรางวัลตัวประกอบหญิงยอดเยี่ยม (Bai Ling) รวมทั้งยังถูกเสนอชื่อในรางวัล Best Director (Fruit Chan Gor), Best Editing (Tin Sam-Fat, Chan Ki-Hop) และ Best Make-up and Costume Design (Hai Chung-Man, Pater Wong) นับเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมของภาพยนตร์เรื่องนี้ ใครยังไม่เคยดูหรืออาจจะเคยดูมาแล้วใน Three Extremes ผมขอแนะนำว่าแฟนหนังสยองห้ามพลาดกันเลยครับ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: three extremes หนัง, รีวิวหนัง Dumpling, รีวิวหนังสยอง, หนังสยองขวัญ, เกี๊ยวอาถรรพ์ หนัง
Dead Birds (2004)
นำแสดง: Henry Thomas (William), Nicki Aycox (Annabelle), Isaiah Washington (Todd), Michael Shannon (Clyde), Patrick Fugit (Sam), Mark Boone Junior (Joseph)
กำกับ: Alex Turner
เขียนบท: Simon Barrett
ประเภท: Horror / Thriller
เรื่องราวที่ฉายภาพความโหดร้ายของสงครามกลางเมือง อเมริกา โดยที่มีพวกทหารนอกรีต วางแผนปล้นทอง หวังหนีไปเสวยสุขในแม็กซิโก โดยผู้กำกับ Alex Turner พยายามปูภาพ ของความสัมพันธ์ของตัวเอกแต่ละคนก่อนที่จะผูกเรื่องเข้าสู่ความสยองในแบบที่ทำให้คุณแหวะ ผวาเป็นระยะๆ ในหนังช่วงหลังของเรื่องที่เป็นฉากในบ้านพักกลางทุ่ง ตัวเอกของเรื่องแต่ละคน เริ่มพบเจอกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่พวกเขาเองไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นมันคืออะไร กันแน่ ตัวบทเขียนให้นักแสดงแต่ละคนที่มีคาเร็คเตอร์ต่างกันพบเจอสิ่งสยองในแบบต่างๆ กัน ซึ่งรับรองได้ว่าฉากสยองของแต่ละคนที่สร้างออกมานั้น มันต้องติดตาคุณอย่างแน่นอน เช่น ฉากที่ Clyde (Michael Shannon) ถูกจับตรึงกางเขน ฉากที่ Todd (Isaiah Washington) เจอภาพหลอน จนตัวเขาเองถึงกับบอกตัวเองว่า “ไม่สามารถที่จะเชื่อในสิ่งที่ เขาเห็นได้อีกต่อไปแล้ว” ถ้าเป็นหนังแนวเอเซียผมเชื่อว่า อาจมีการนำเอาเรื่องของผลกรรมมา ผสมการลงโทษในแบบต่างๆ ที่ตัวละครต้องพบเจอ…
คงไม่ต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังนะครับ อยากให้ลองติดตามผลงานของผู้กำกับคนนี้ดู ผม ว่าเขามีไอเดียในการสร้างฉากสยองขวัญได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว อย่างในเว็บไซต์ imdb.com นักวิจารณ์บางท่านถึงกับบอกว่า Dead Birds เป็นหนังในแบบ ‘Modern Horror’ ที่เป็น ตัวอย่างที่ดีในการสร้างสรรฉากสยองในแบบยุคใหม่ที่ควรจะเป็น หรือควรจะเดินตามรอยของ Alex Turner หลายคนหากได้ดูหนังเรื่องนี้ ผมว่า Alex เอง น่าจะได้รับอิทธิพลจากหนังซีรี ย์จำพวก X-Files มาไม่น้อย ส่วนผีฟันแหลม ตาโบ๋ หน้าขาว หรือผีเด็กเนี่ย ผมนึกถึงผีญี่ปุ่น/ เกาหลี พวกจู ออน ครับ ผมว่า เขาก็ทำออกมาได้สยองดี แม้จะมีกลิ่นอายคาเร็กเตอร์ของผีญี่ปุ่น ไม่น้อย แต่สิ่งที่เขานำมาผสมคือ กลิ่นความเป็นหนังในแบบซอมบี้ และอารมณ์หนังแหวะที่เน้น เลือด! เลือด! และเลือด! ผสมพันธุ์กันออกมาจนได้อารมณ์สยองแหวะในแบบของ Alex เอง
พูดถึง Alex Turner เขาเป็นผู้กำกับหนังสั้นที่สร้างชื่อจากเรื่อง Disposal (2003) หนัง Drama/Comedy สุดคลาสสิกที่ถูกขึ้นหิ้งให้เป็น Best Short Film และ Chuck (2000) ใครสนใจฝีมือของผู้กำกับไฟแรงคนนี้ล่ะก็ ลองหาดูกัน…
โดย ศร-รณ (aka กระตุกจัง)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: รีวิวหนัง Dead Bird, รีวิวหนังผี, รีวิวหนังสยอง, หนังสยองขวัญ
Blood Sucking Freaks (1976)
Heritage of Caligula | Sardu, Master of the Screaming Virgins | The Heritage of Caligula: An Orgy of Sick Minds | The House of the Screaming Virgins | The Incredible Torture Show
นำแสดง: Seamus O’Brien (Master Sardu), Viju Krem (Natasha D’Natalie), Niles McMaster (Tom Maverick), Dan Fauci (Sergeant John Tucci), Alphonso DeNoble (Creasy Silo (as Alphonso)), Ernie Pysher (The Doctor) Luis De Jesus (Ralphus), Helen Thompson (Master’s Assistant), Saiyanidi (Master’s Assistant)
กำกับและเขียนบท: Joel M. Reed
ประเภท: Horror / Gore / S&M
หนังจำพวก S&M (Sadism & Masochism) ที่ Joel M. Reed สร้างสรรค์ขึ้น ถึงแม้จะเป็นหนังทุนน้อย เกรด B ก็ตาม แต่หนังเรื่องนี้กลับเป็นต้นฉบับความโหดให้กับหนัง Horror / S&M / Gore กับหนังรุ่นต่อมาอีกหลายๆ เรื่อง พูดถึง Joel M. Reed นอกจาก Blood Suckin Freaks แล้ว หากใครอยากตามผลงานของผู้กำกับคนนี้ ก็ขอแนะนำ Blood Bath และ Night of the Zombies ด้วยครับ…
เรื่องย่อ: Sardu และ Ralphus ผู้กำกับ และผู้ช่วยผู้กำกับตัวแคระ ผู้นิยมความซาดิสต์ และมาโซคิสต์อย่างรุนแรง สร้างโรงละครที่เอาไว้แสดงวิธีการทรมานสารพัดหมื่นพันล้านวิธีกับหญิงสาวเปลือย..ทว่า ผู้ชมที่เข้ามาชม (ผู้ชมเป็นระดับดารา ผู้มีชื่อเสียงในวงการ หรือนักกีฬาผู้มีชื่อเสียง) กลับคิดว่า สิ่งที่ Sardu ทำให้เห็นนั้น เป็นแค่มายากล หรือสเปเชียลแอ็ฟเฟ็กที่ทำขึ้นมาหลอกตาเท่านั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่า สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้น…มันเป็นเรื่องจริง
ฉากสยองในหนังเกรดบี… หนังต้นฉบับความโหด…
Blood Sucking Freaks เป็นหนัง Horror ที่พยายามจะผ่อนคลายด้วยมุขในแบบ Comedy แต่ทว่า ด้วยลีลาการทรมานหลากหลายวิธี ไปจนถึงการฆ่าเหยื่อ / นักแสดง ที่ดูราวกับชีวิตมนุษย์มันไร้ค่านั้น มันทำให้หนังเรื่องนี้ ขำไม่ออกครับ หาก Blood Sucking Freaks ถูกนำมาทำในยุคนี้ ด้วยแสงสี อุปกรณ์ ที่สามารถทำให้ทุกๆ อย่างดูเหมือนจริงได้ราวฝัน ผมว่าหนังเรื่องนี้จะถูกทำเป็น snuff film ที่ต้องมีคนคิดว่า สิ่งที่เห็นนั้น มันเป็นเรื่องจริงหรือไม่… จะเริ่มต้นยังไงดีล่ะ..ก็ไอ้หนังเรื่องนี้ มันสมควรจะใช้สโลแกนของหนังไทยเรื่องหนึ่งที่ประมาณว่า “เสียวสยอง ทุกสองนาที” ประมาณนี้ได้เลยครับ เพราะ ฉากทรมานสารพัดวิธีมีให้เห็นในเรื่อง ตั้งแต่ ห้านาที แรก ยันไปจนจบเรื่องก็ว่าได้ ว่าแล้วมาเรียกน้ำย่อยด้วยฉากสยองในหนังเรื่องนี้กันครับ
– ว่าด้วยเรื่องของเครื่องมือการทรมานที่หลากหลายมากมาย อาทิ เครื่องบดขยี้ นิ้ว มือ หัวสมอง เครื่องกิโยติน เครื่องทรมานด้วยการช้อตไฟฟ้า ไปจนถึงแท่นบูชาที่สามารถจับเหยื่อแหวกขา แขนให้ฉีกออกจากกันได้
– เริ่มต้นฉากการทรมานด้วยการบดขยี้หัวสมองของเหยื่อ โดยฝีมือของเจ้า Ralphus ผู้ช่วยแคระของ Sardu เจ้าแคระที่นิยมควักลูกตาของเหยื่อมากัดกินเป็นอาหารจานโปรด
– ลักษณะของเจ้า Sardu ผู้กำกับที่นิยมความซาดิสต์และมาโซคิสต์ทั้งการเป็นผู้ทรมาน และเป็นฝ่ายถูกทรมาน เขาให้สาวรับใช้ จับตัวเขาเองขึง และใช้แส้โบยเฆี่ยนตีอย่างมีความสุข
– ฉากการช้อตไฟฟ้าผ่านหัวนมของเหยื่อ (สตรีเปลือยเปล่าล้วน!) ด้วยไฟฟ้าแรงสูง แค่เสียงครวญครางของหล่อนก็ทำให้ Sardu และ Ralphus มีความสุขสุดยอดแล้ว
– ฉากที่มีหมอโรคจิตอีกคน จับเหยื่อมานั่งถอนฟันเล่น เห็นแล้วเสียวแทน อดนึกถึงหมอฟันโรคจิตใน The Dentist ไม่ได้ ไม่รู้เรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้ Yuzna ผู้กำกับ The Destist หรือไม่ นอกจากหมอโรคจิตคนนี้จะจับเหยื่อมาถอนฟันแล้ว เขาก็ยังจับเหยื่อมาโกนหัวบริเวณกลางกะโหลก แล้วใช้สว่านไฟฟ้า เจาะลงไปตรงกลางศรีษะจนทะลุ ทะลุกถึงสมองทุกส่วน เท่านั้นยังไม่พอ หมอสุดโหดยังทำพฤติกรรมโคตรเพี้ยนวิปริตโดยการ เอาหลอดมาทิ่มลงไปในกระโหลก แล้วดูดเลือด (ผสมเนื้อสมอง) อย่างเอร็ดอร่อย เป็นน้ำเลือดบำรุงสมองดีแท้!
– ฉากเหยื่อมนุษย์ที่ Sardu และ Ralphus เลี้ยงไว้ ราวกับสัตว์เลี้ยงที่หิวกระหาย ใครลองเข้ากรงที่เต็มไปด้วย สัตว์มนุษย์เหล่านี้ ล่ะก็ มีสิทธิ์ถูกฉีกกินเป็นชิ้นๆ ได้ไม่ยากเลยแหละ…
โอ้ว..ฉากสยอง / Gore / เพี้ยน โรคจิต วิปริต ยังมีอีกเพียบครับ หากเปรียบเทียบหนังในปี 1976 (หนังปีเดียวกับ Snuff และ Shogun’s Sadism ) ที่ออกมาในแนวนี้แล้ว ต้องห้ามพลาด Blood Sucking Freaks หนังสยองเกรดบี ต้นตำรับความทรมานทุกสายเหล่าพันธุ์เรื่องนี้เลยเชียวแหละ เหอ เหอ เหอ !!!
โดย ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร
Rating: 4.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: review หนัง blood sucking freak, ต้นตำหรับความโหดสยอง, หนังของ Joel M. Reed, หนังซาดิสต์, หนังสยองขวัญ, หนังโหดเลือดสาด
The Task (2011)
มิติสยอง 7 ป่าช้า : เรียลลิตี้ท้าตาย
กำกับ: Alex Orwell
เขียนบท: Kenny Yakkel
นำแสดง: Alexandra Staden, Victor McGuire, Adam Rayner, Antonia Campbell-Hughes, Ashley Mulheron, Tom Payne, Texas Battle
หนัง Reality show สยองขวัญ ส่งเข้าประกวดโดยค่าย After Dark หนึ่งใน 8 เรื่องสยองประจำปี 2011 เมื่อประทับตรา After Dark ก็ต้องขอหยิบมาดูหน่อยละครับ
แม้ว่าเราจะผิดหวังจากหนัง After Dark มาหลายครั้งหลายครา แต่มันก็น่าจะมีสักเรื่องที่โดนบ้างล่ะวะ!
The Task มิติสยอง 7 ป่าช้า : เรียลลิตี้ท้าทาย
ภารกิจที่ผู้กล้าท้าตาย 6 คนต้องเข้าไปในเรือนจำร้างที่มีประวัติสยองโชกโชนมาก่อน ใครปฏิบัติภารกิจสำเร็จในแต่ละฐานก็จะได้เงินรางวัลก้อนโตล่อใจ…เนื้อเรื่องก็มีอยู่เท่านั้นแหละครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก
เนื้อเรื่องสั้นง่าย แต่การดำเนินเรื่องอืดอาดปานยานอนหลับชั้นดี เรื่องดำเนินไปจนเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่ง มีหักมุมตอนท้ายในช่วง 5 นาทีท้ายสุด ก่อนที่จะหักมุมอีกต่อในแบบที่คาดเดาได้ไม่ยาก
ส่วนความสยอง ระทึกขวัญ โหด เลือดสาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงครับ! คือไม่ต้องพูดถึงมันเลยครับ เพราะไม่ได้เร้าอารมณ์ให้ความรู้สึกเป็นหนังจำพวกนั้นเลย แต่หากท่านอยากซื้อหามาดูเพลินๆ ไปหาหนังตลกน่ารักๆ มาดู ยังจะเพลินกว่าครับ
หรือหากท่านอยากดูหนังจำพวก Reality Show ก็ขอแนะนำหนังสยองระทึกของพี่ไทยจะดีกว่าครับ
Reality Show สยองของบ้านเรา
พูดถึงเรื่องนี้ ก็ต้องเอาหนังโชว์แขกของบ้านเรามาพูดถึงสักหน่อย ซึ่งต้องบอกว่าดูดี มีคุณภาพมากกว่าเยอะ โดยเฉพาะหากเปรียบเทียบกับ The Task อย่างเรื่อง Ghost Game ล่า-ท้า-ผี หนังไทยสยองขวัญที่นำนักแสดงจาก Academy fantasia ในยุคแรก (AF1) แสดงนำ ตอนนั้นรายการ Reality Show เพิ่งเป็นที่นิยมในเมืองไทย ก็สนองตอบกระแสความแรงของนักแสดงบ้าน AF ซึ่งสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ในขณะนั้นก็ถือว่าทำออกมาใช้ได้นะครับ เรื่อง Ghost Game แม้จะไม่เด่น ไม่ดัง ไม่ขึ้นหิ้งหนังสยองทรงคุณค่า แต่ก็ไม่เน่าเท่า The Task แน่นอนครับ
หนังพี่ไทยอีกเรื่องที่ต้องบอกว่าเป็นแนว Reality Show ระทึกขวัญที่ขึ้นแท่นหนังพี่ไทยสยองทรงคุณค่าอีกเรื่อง นั่นคือ 13 เกมสยอง หรือ 13 Beloved หนังไทยจากฝีมือการกำกับของชูเกียรติ นำแสดงโดยน้อย วงพรู ใครยังไม่ได้ดูสองเรื่องนี้ ก็ไปหาซื้ออุดหนุนหนังไทยเราดีกว่าเยอะเลยครับ
โดย ศร-รณ
Rating: 1.00 / 5.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies S - U Tagged with: รีวิวหนัง The Task, รีวิวหนังค่าย After Dark, รีวิวหนังสยอง, หนังผี, หนังสยองขวัญ
Trick ‘r Treat (2008)
กำกับ และเขียนบท: Michael Dougherty
นำแสดง: Dylan Baker (Steven), Rochelle Aytes (Maria), Quinn Lord (Sam / Peeping Tommy), Lauren Lee Smith (Danielle), Moneca Delain (Janet), Tahmoh Penikett (Henry), Brett Kelly (Charlie), Britt McKillip (Macy), Isabelle Deluce (Sara), Jean-Luc Bilodeau (Schrader), Alberto Ghisi (Chip), Samm Todd (Rhonda), Anna Paquin (Laurie), Brian Cox (Mr. Kreeg), Leslie Bibb (Emma)
ประเภท: Horror / Comedy
Plot หนังจากเว็บไซต์ mangpong.co.th – ผลงานสยองขวัญพร้อมอารมณ์ขันชวนขนลุกเพื่อเฉลิมฉลองค่ำคืนที่น่ากลัวที่สุดของปีเรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย ไบรอัน ซิงเกอร์ (ผู้กำกับ X-Men และ Superman Returns) และ เขียนบท-กำกับโดย ไมเคิล ดอเฮอร์ตี้ (ผู้ร่วมเขียนบท X-Men และ Superman Returns)
“กระตุกขวัญวันปล่อยผี” คือการนำหนังในสไตล์ Creepshow / Tales from the Crypt สู่ความเขย่าขวัญอันหลอนลึกของสี่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนวันฮัลโลวีน อันได้แก่ ครูใหญ่ไฮสคูลคนหนึ่ง (ไดแลน เบเกอร์) ใช้เวลาว่างในยามดึกดื่นเป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง / สาวน้อยที่หวังเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนพิเศษ (แอนนา พาควิน) อาจต้องเสียทั้งตัวและชีวิต / แก๊งวัยรุ่นสุดซ่าส์ที่เล่นแกล้งกันอย่างไม่ปราณีต้องเจอดีกลับมาแบบเข็ดจนตาย และชายแก่อารมณ์ร้าย (ไบรอัน ค็อกซ์) ต้องต่อกรกับผีเด็กที่เล่นหลอกเขาแบบไม่ตายไม่เลิกรา!
Trick ‘r Treat เคารพประเพณีกันหน่อยดิ ^ ^
สี่เรื่องราวฮาสยองที่นำมาโยงใยเกี่ยวพันกันได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ หนังบอกเพียงว่า ..เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น, เหตุการณ์หลังจากนั้น เหตุการณ์ในระหว่างนั้น…หนังยุคใหม่ที่ทำออกมาสไตล์หนังสยองยุค 80’s ครับ ทั้งภาพ มุมกล้อง บรรยากาศ และตัวละคร รวมไปถึง “ปีศาจเด็ก…ผีฟักทอง”
เนื้อหาที่ต้องการจะบอกให้เคารพประเพณีในวันปล่อยผี ที่ปัจจุบันคนยุคใหม่ส่วนใหญ่แทบจะหลงลืมขนบ หรือประเพณีดั้งเดิม อาทิ การแจกจ่ายขนมหวาน ลูกอม ลูกกวาด การประดับประดาไฟจากตะเกียงฟักทอง เป็นต้น เมื่อประเพณีมีไว้ให้ทำ แต่หากท่านไม่ทำ หนังเรื่องนี้แหละคือบทสั่งสอน!
ความสยอง อารมณ์ร่วมแบบยุค 80’s ชวนให้หนังมีสเน่ห์อย่างยากที่จะปฏิเสธครับ เสริมด้วยตอนท้ายของหนังทั้งสี่เรื่องมีประเด็นการหักมุมที่สยองดูชม อาทิ ครูใหญ่ใจดีที่มีพฤติกรรมนิยมฆ่า และถ่ายทอดพฤติกรรมนั้นสู่ลูกชายตัวเปี๊ยกที่ชอบทำกิจกรรมร่วมกับคุณพ่อ! สาวน้อยสุดน่ารักกับพี่สาวและชาวแก๊งค์แปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าขย่ำเหยื่ออย่างสนุกสนาน ชายแก่อารมณ์ร้ายที่รอดตายเพราะหยิบยื่นขนมให้ปีศาจฟักทอง เป็นต้น ผมว่าถ้าทำออกมาแบบปรับบทภาพยนตร์ให้กลายเป็นหนังสยองแบบซีเรียสๆ เรื่องนี้คงจะโหดไม่น้อยเลยแหละ (หามาดูกันเองนะ) ส่วนใครที่หวังจะดูฮาโลวีนเลือดสาดอะไรทำนองนี้ ก็คงดูแล้วเฉยๆ หน่ะครับ ส่วนตัวผมชอบหนังสั้นอารมณ์ Creepshow / Tales from the Crypt อยู่แล้ว พอได้ดูเรื่องนี้ก็เลยถูกใจ
สนุกดีครับ หามาดูกัน
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies S - U Tagged with: รีวิวหนังสยอง, รีวิวหนังสยองขวัญ Trick 'r Treat (2008), หนังสยองขวัญ
Scar (2007)
กำกับ: Jed Weintrob
เขียนบท: Zack Ford
นำแสดง: Angela Bettis (Joan Burrows), Kirby Bliss Blanton (Olympia Burrows), Devon Graye (Paul Watts), Christopher Titus (Jeff), Al Sapienza (Delgado), Bill Baksa (Melvin Gray), Ashley Chomik (College Kid), Ben Cotton (Bishop), Emma Duncan (Principal), Carey Feehan (Brian),
James D. Hopkin (Mr. Watts)
ประเภท: Horror / Thriller
…ไม่รู้จะห่วยไปถึงไหนครับ กับการเซ็นเซอร์บ้านเรา ขอระบายความห่วยของหนังลิขสิทธิ์เรื่องนี้ก่อนที่จะเข้าเรื่อง Scar นะครับ ดีวีดีลิขสิทธิ์เรื่องนี้ถูกทำออกมาเป็น 2 เวอร์ชันครับ เป็นเวอร์ชัน 3D กับเวอร์ชันภาพธรรมดา ผมเลือกแบบ 3D มาดู (หนังจากค่าย Happy Home ซึ่งผมดูแล้วน่าจะเปลี่ยนใหม่เป็น Sad Home!) สิ่งที่น่าผิดหวังอย่างแรกคือ ระบบการทำ 3D ครับ โดยปกติเท่าที่ดูมา ตัวหนังสือ subtitle เนี่ย น่าจะทำออกมาเป็น 3D ด้วย แต่นี่ไม่…ไม่รู้ว่าชุ่ยหรือจงใจ อย่างที่ 2 คือ ระบบเซ็นเซอร์ครับ นอกจากจะหั่นห้วนแล้วยังเซ็นเซอร์จนเสียอรรถรสในการดูอีกต่างหาก สูบบุหรี่ที ก็ขึ้นเตือน…สูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดื่มเหล้าทีก็ขึ้นเตือน…การดื่มสุราเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อ่อ งี้ถ้าค่ายหนัง Sad ออกหนังประเภทที่มันสูบบุหรี่ทั้งเรื่อง คงขึ้นคำเตือนมันทั้งเรื่อง หรือไม่ก็ทำเบลอมันทั้งเรื่อง…แย่ครับ ผมจำได้ว่าเคยอ่านข่าวตอนหนังเรื่องนี้ลงโรงฉายบ้านเราว่า ตัวหนังผ่านการเซ็นเซอร์มาได้ และสร้างความสยดสยองในโรงแบบ 3D ได้อย่างน่าดู ผมไม่ทราบนะครับตอนนั้นไม่ได้ไปดู ใครมีโอกาสได้ไปดูตอนนี้ก็ลองมาแชร์กัน
ถ้าใครจะซื้อเป็นรูปแบบดีวีดี 3D ผมก็เตือนไว้แบบนี้ก่อนนะครับ ส่วนรูปแบบอื่น ผมไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ที่แน่ๆ ต่อไปก่อนซื้อหนังทุกครั้ง สังเกตก่อนนะครับ ว่าเป็นของค่าย Sad Home หรือเปล่า เพราะเสียตังไป แล้วเดี๋ยวจะ sad กันไปใหญ่ -_-“
Scar เรื่องราวของ Bishop สัปเหร่อ หรือฆาตรกรต่อเนื่องสุดโหดที่ก่อคดีลักพาตัว ทรมาน เฉือน เชือด ชำแหละเหยื่อมากมายหลายศพ มีเพียง Joan Burrows เหยื่อเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้ และฆ่าเจ้า Bishop ด้วยมือของเธอเอง สิ่งที่ Bishop ฝากไว้กับ Joan Burrows นอกจากฝันร้ายสุดสยองแล้ว ยังมีรอยแผลเป็นบนใบหน้าสวยๆ ของเธอที่โดนเจ้า Bishop กรีดเอาไว้ เธอทิ้งอดีตไว้ที่เมืองนี้ และไม่หันกลับมาอีกเลย
16 ปีต่อมา Joan ต้องกลับมาเมืองนี้อีกครั้ง เพื่อจะมาแสดงความยินดีกับหลานสาว Olympia Burrows สำหรับตำแหน่งราชินีงานพรอม ความน่ายินดีกลับกลายเป็นความน่าสะพรึงเมื่อมีข่าวการตายของคนในเมืองด้วยลักษณะการฆ่าที่เหมือนกับที่ Bishop ทำไว้เมื่อ 16 ปีที่แล้ว “นี่เป็นผลงานของ Bishop แน่ ๆ แล้วเจ้าฆาตกรโหดเหี้ยมคนนี้มันตายไปแล้วหรือยังไม่ตาย” Joan คิด และพยายามค้นหาคำตอบ ลองไปหาดูกันต่อนะครับ น่าจะคาดเดากันได้ไม่ยากแล้วว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรต่อ
Scar คลั่ง แค้น หวีด
หนังสยองขวัญที่มาพร้อมกับคำโปรย “ครั้งแรกที่ฆาตกรบ้าคลั่ง จะมานั่งข้างคุณ” ด้วยเทคโนโลยี Hi-Definition 3D จึงกลายมาเป็นจุดขายของหนังเรื่องนี้ แต่หากมาดูกันที่เนื้อเรื่อง และความสยองที่ทาง Scar มีให้นั้น กลับธรรมดามากครับ แล้วยิ่งตัวหนังเองพยายามทำภาพออกมาให้อารมณ์เหมือนหนังสยองย้อนยุค แต่ผมว่าอารมณ์มันยังไม่ถึงหน่ะ อาจด้วยตัวบทภาพยนตร์หรือเนื้อหาที่มันแสนจะธรรมดาด้วยหรือเปล่าไม่รู้ เลยทำให้รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มันขาด ๆ ยังไงชอบกล
ด้วยเรื่องที่บ่นข้างต้น ไปจนถึงเนื้อเรื่อง และความสยองขวัญที่แสนจะธรรมดา จึงไม่แนะนำให้ไปหาเรื่องนี้มาดูแต่อย่างใดครับ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 1.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies S - U Tagged with: รีวิวหนังสยอง Scar, รีวิวหนังสยองขวัญ, หนังสยองขวัญ
Captivity (2007)
กำกับ: Roland Joffe
เขียนบท: Larry Cohen และ Joseph Tura
นำแสดง: Elisha Cuthbert (Jennifer Tree), Daniel Gillies (Gary Dexter), Pruitt Taylor Vince (Ben Dexter)
ประเภท: Crime / Thriller / Horror
“เฮ้ย นาย Dexter Morgan แห่งซีรีส์วายจิตสุดฮิต ‘Dexter’ มาทำอะไรในหนังเรื่อง Captivity วะเนี่ย!?!?” ก็เจ้าตัวละครเอกในเรื่องนี้ ดันเป็นสองพี่น้องที่มีชื่อว่า Ben กับ Gary Dexter ผมได้ยินชื่อของตัวละครทั้งสองคนแล้ว อดนึกขำไม่ได้ว่า ทีวีซีรีส์มันฮิตขนาดแพร่พันธุ์กันไปสู่การสร้างบุคลิกของตัวละครโรคจิต กับนามจิตๆ ที่กลายเป็นแบรนด์จิต ๆ ว่า “Dexter” ไปแล้ว อันนั้นผู้กำกับ Roland Joffe อาจจะมีเจตนาจงใจในการใช้ชื่อนี้ก็เป็นได้…ใครอยากทราบก็ลองไปสืบค้นข้อมูลดูครับ
ผมเคยอ่านข่าวก่อนหน้าที่หนังเรื่องนี้จะเข้าฉายในปี 2007 ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากข่าวจริงตามหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับคนหาย โดยเฉพาะผู้หญิงหลายรายที่หายสาบสูญไปโดยไม่ทราบสาเหตุ และไร้ร่องรอย ซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้แหละเป็นที่มาของหนังเรื่อง Captivity ที่จะมาในแนวเขย่า + สยองขวัญ + จิตวิทยา
หากแต่…
เพื่อนๆ ที่เป็นผู้ชายทั้งหลายครับ คุณเคยอยากจีบหญิงโดยแสร้งทำตัวเป็นฮีโร เป็นพระเอกที่จะคอยช่วยเหลือและปกป้องหญิงคนนั้นมั้ยครับ วิธีการก็เช่น ให้เพื่อนเราอีกคนแกล้งมาแซว มารุมจีบ คุกคามเธอก่อนที่เราจะเข้าไปห้าม หรือปกป้อง แสดงบทบาทของพระเอกขี่ม้าขาวราวละครทีวีน้ำเน่าหลังข่าว
นี่แหละครับ คือพล็อตของเรื่องนี้ที่ผมจับต้องได้…เพียงแต่มันเพิ่มความรุนแรงในการคุกคาม ลักพาตัว กักขัง จนถึงทรมานเข้าไปเท่านั้นเอง นอกนั้นในส่วนของบทภาพยนตร์ต้องบอกเลยว่า เป็นบทที่ไม่ได้มีน้ำหนักหรือให้ความสำคัญอะไรกับเรื่องคนหายโดยไม่ทราบสาเหตุที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำเรื่องนี้แม้แต่น้อย…โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อบทหนังดำเนินไปถึงจุดที่นางเอกไว้วางใจฮีโร่ขี่ม้าขาวของเธอที่เข้ามาช่วยเธอ ปกป้องเธอไว้ ซึ่งแม้ยามในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน เลือด เนื้อ จะท่วมจออยู่แล้ว พวกท่านทั้งสองก็ยังมีอารมณ์ที่จะมี Sex ได้อย่างถึงพริกถึงขิง…เป็นการยัดเยียดฉากเหล่านี้กันเกินไปหรือเปล่า…หนังไร้เหตุผลสิ้นดี!
พูดถึงฉากสยองกันหน่อยครับ Captivity มาในสไตล์ Torture ตามแบบฉบับของหนัง Torture ยุคใหม่ๆ อย่าง Hostel, Saw (บางสำนักสื่อนำหนังเรื่องนี้ไปเทียบชั้นกับ Silence of the Lambs…ไม่รู้มันเอาอะไรคิด -_-“) ฉากชวนแหวะจึงมีให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ ครับ ทั้งฉาก ถอนเล็บ ถอนฟัน ให้เหยื่ออาบน้ำ(กรด) หรือฉากอาหารการกินอย่าง พวกอวัยวะที่ฆาตกรเฉือนเก็บไว้ในตู้เย็น อาทิ หู ตา ไส้ใน ถูกนำมาบดใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้แล้วจับกรอกลงในปากของนางเอกอย่างไร้ความปราณี..มีสารพัดครับ ใครอยากหามาดูเพื่อความบันเทิงทรมาน ก็ลองดู
หนังสร้างมาจากผลงานการเขียนของ Larry Cohen ผู้สร้างความอึดอัดผ่านโทรศัพท์ในหนัง Thriller เรื่อง Cellular (2004), Phone Booth (2002) ซึ่งผมว่าหนังที่เขาเขียนก่อนหน้านี้ไม่ได้ขี้เหร่เลย แต่พอมาเรื่องนี้…จากหน้ามือกลายเป็นหลังเท้า สงสัยแกจะไม่ถนัดหนังสไตล์นี้หรือเปล่า แต่ทำออกมาเอาใจตลาด ผมว่าแกน่าจะกลับไปเขียนบทหนังในสไตล์ที่ถนัดดีกว่า
ลืมบอกไป…สาวสวยผู้รับบทเป็น Jennifer Tree ผู้ตกเป็นเหยื่อของพี่น้อง Dexter นั้น รับบทโดย Elisha Cuthbert แห่งซีรียส์ 24 และ The Girl Next Door ครับ ใครเป็นสาวกของเธอก็หาหนังเรื่องนี้มาดูความน่ารัก สดใส และเซ็กส์ซี่เล็กๆ ได้ แต่อย่าไปคาดหวังกับฝีมือในการแสดงล่ะนะ
ไม่ค่อยจะหลงเหลือข้อดีให้ชวนไปหามาดูเลย…เอาเป็นว่าดูได้เพลิน ๆ กับหน้าสวย ๆ น่ารักๆ ของสาว Cuthbert ละกัน
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: รีวิวหนังสยอง Captivity (2007), รีวิวหนังสยองขวัญ, หนังสยองขวัญ