Dead Birds (2004)
นำแสดง: Henry Thomas (William), Nicki Aycox (Annabelle), Isaiah Washington (Todd), Michael Shannon (Clyde), Patrick Fugit (Sam), Mark Boone Junior (Joseph)
กำกับ: Alex Turner
เขียนบท: Simon Barrett
ประเภท: Horror / Thriller
เรื่องราวที่ฉายภาพความโหดร้ายของสงครามกลางเมือง อเมริกา โดยที่มีพวกทหารนอกรีต วางแผนปล้นทอง หวังหนีไปเสวยสุขในแม็กซิโก โดยผู้กำกับ Alex Turner พยายามปูภาพ ของความสัมพันธ์ของตัวเอกแต่ละคนก่อนที่จะผูกเรื่องเข้าสู่ความสยองในแบบที่ทำให้คุณแหวะ ผวาเป็นระยะๆ ในหนังช่วงหลังของเรื่องที่เป็นฉากในบ้านพักกลางทุ่ง ตัวเอกของเรื่องแต่ละคน เริ่มพบเจอกับสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่พวกเขาเองไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นมันคืออะไร กันแน่ ตัวบทเขียนให้นักแสดงแต่ละคนที่มีคาเร็คเตอร์ต่างกันพบเจอสิ่งสยองในแบบต่างๆ กัน ซึ่งรับรองได้ว่าฉากสยองของแต่ละคนที่สร้างออกมานั้น มันต้องติดตาคุณอย่างแน่นอน เช่น ฉากที่ Clyde (Michael Shannon) ถูกจับตรึงกางเขน ฉากที่ Todd (Isaiah Washington) เจอภาพหลอน จนตัวเขาเองถึงกับบอกตัวเองว่า “ไม่สามารถที่จะเชื่อในสิ่งที่ เขาเห็นได้อีกต่อไปแล้ว” ถ้าเป็นหนังแนวเอเซียผมเชื่อว่า อาจมีการนำเอาเรื่องของผลกรรมมา ผสมการลงโทษในแบบต่างๆ ที่ตัวละครต้องพบเจอ…
คงไม่ต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังนะครับ อยากให้ลองติดตามผลงานของผู้กำกับคนนี้ดู ผม ว่าเขามีไอเดียในการสร้างฉากสยองขวัญได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว อย่างในเว็บไซต์ imdb.com นักวิจารณ์บางท่านถึงกับบอกว่า Dead Birds เป็นหนังในแบบ ‘Modern Horror’ ที่เป็น ตัวอย่างที่ดีในการสร้างสรรฉากสยองในแบบยุคใหม่ที่ควรจะเป็น หรือควรจะเดินตามรอยของ Alex Turner หลายคนหากได้ดูหนังเรื่องนี้ ผมว่า Alex เอง น่าจะได้รับอิทธิพลจากหนังซีรี ย์จำพวก X-Files มาไม่น้อย ส่วนผีฟันแหลม ตาโบ๋ หน้าขาว หรือผีเด็กเนี่ย ผมนึกถึงผีญี่ปุ่น/ เกาหลี พวกจู ออน ครับ ผมว่า เขาก็ทำออกมาได้สยองดี แม้จะมีกลิ่นอายคาเร็กเตอร์ของผีญี่ปุ่น ไม่น้อย แต่สิ่งที่เขานำมาผสมคือ กลิ่นความเป็นหนังในแบบซอมบี้ และอารมณ์หนังแหวะที่เน้น เลือด! เลือด! และเลือด! ผสมพันธุ์กันออกมาจนได้อารมณ์สยองแหวะในแบบของ Alex เอง
พูดถึง Alex Turner เขาเป็นผู้กำกับหนังสั้นที่สร้างชื่อจากเรื่อง Disposal (2003) หนัง Drama/Comedy สุดคลาสสิกที่ถูกขึ้นหิ้งให้เป็น Best Short Film และ Chuck (2000) ใครสนใจฝีมือของผู้กำกับไฟแรงคนนี้ล่ะก็ ลองหาดูกัน…
โดย ศร-รณ (aka กระตุกจัง)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: รีวิวหนัง Dead Bird, รีวิวหนังผี, รีวิวหนังสยอง, หนังสยองขวัญ
Bone Sickness (2004)
นำแสดง: Kevin Barbare (Inspector Seacrest), Griff Brohman (Zombie as Griffen Brohman), Brian DeClercq (Swat & Zombie), Rich George (Alex McNetti), Ernest Hutcherson (Chief Inspector), Lorna Hutcherson (Mrs. Clancey), Ruby Larocca (Andrea Granger), Anthony Menna (Swat & Zombie), Brian Paulin (Thomas Granger), Christopher P. Reilly (Graveyard Cop), Darya Zabinski (Kristen McNetti)
กำกับและเขียนบท: Brian Paulin
ประเภท: Horror / Zombie
เรื่องของสองสามีภรรยา ที่สามีนั้นป่วยเป็นโรคกระดูกติดเชื้อ สภาพร่างกายเสื่อมโทรม ต้องให้ภรรยาดูแลอยู่ตลอดเวลา ทางด้านภรรยาผู้รักสามีสุดหัวใจ ก็ต้องคอยเฝ้าดูแล และหาทางเยียวยารักษาทุกวิถีทาง แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาโรคดังกล่าวได้ เธอจึงต้องหันไปเพิ่งบางสิ่งบางอย่างตามคำแนะนำของเพื่อนคนหนึ่ง โดยที่ไม่รู้เลยว่า ผลกระทบจากวิธีรักษาที่เพื่อนเธอแนะนำนั้นจะเกิดผลข้างเคียงอะไรบ้าง?!?
หนังซอมบี้ยุคใหม่ที่ถูกสร้างจากความเชื่อที่ว่า กระดูก และชิ้นส่วนของศพจะช่วยเยียวยารักษา อาการ หรือ โรคที่ไม่สามารถรักษาหายได้ จากหลักความเชื่อตรงนี้นี่เอง เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ห้องผ่าศพต้องคอยขโมยชิ้นส่วนบางอย่างเพื่อนำมาทดลองรักษา และนี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นของการเพาะพันธุ์เชื้อนรก!
Bone Sickness หนังซอมบี้ ที่ไม่ได้สร้างอะไรใหม่ไปกว่าสิ่งที่ผู้กำกับหนังซอมบี้ยุคเก๋าที่เรารู้จักกันดีได้ทำเอาไว้ Bone Sickness มีทั้งฉากโป๊ เปลือย (ถึงแม้กระนั้น หุ่นสาวเจ้าเนื้อ เปลือยกายก็ไม่ได้สร้างให้หนังเบี่ยงเบนไปในทาง Zombie Nudity หรอกนะ…อย่าคาดหวังอะไรมาก ฮ่า ฮ่า) ไปจนถึงฉากความรุนแรง Gore เสือดสาด สับ แหวะ ทั้งความสยอง รวมถึงแหวะด้วยเจ้าหนอน ไส้เดือน ที่ผู้กำกับขนมาทั้งพันธุ์เล็ก พันธุ์น้อย กระดึบ ๆ ให้สาวน้อย สาวใหญ่ได้คลื่นเหียนไปตาม ๆ กัน
ผมว่า Bone Sickness มีเนื้อเรื่องใช้ได้นะครับ แต่การดำเนินเรื่องค่อยข้างช้า ฉากบางฉากเรื่องตัวหนังบางตอนไม่มีความจำเป็นต้องใส่มาเลยก็ได้ เพราะไม่ได้ช่วยในความต่อเนื่อง ของหนัง แถมยังไม่มีความเกี่ยวพันอะไรกับหนังอีกต่างหาก สำหรับเจ้าตัวซอมบี้ในเรื่องนี้ ทั้งหน้าตา ทั้งการแต่งตัว พาลให้ผมคิดไปถึงนาย Ghost Rider แห่งค่าย Marvel Comics ซะงั้น ฮ่า ฮ่า
แฟนหนังซอมบี้ ซื้อหนังเรื่องนี้เก็บคงไม่เสียหายครับ อาจจะได้อารมณ์ซอมบี้อีกแบบถึงแม้จะไม่แตกต่างแต่ก็ดูได้เพลิน ๆ ทีเดียว แต่สำหรับใครที่เป็นแฟนหนัง Horror ที่ไม่ได้คลั่งไคล้ซอมบี้มากนัก เก็บเงินในกระเป๋าท่านไปซื้อหนังสยองเรื่องอื่นน่าจะดีกว่านะ…
ใครดูเรื่องนี้คงจะเกลียดหนอน ไส้เดือน กันไปเลยทีเดียว…แต่ใครที่รักหนัง Horror คงต้องขอสั่งสปาเก็ตตี้หนอนอีกที่..แล้วอย่ากินคนเดียวล่ะ แบ่งให้กินบ้างนะจ้ะ^^
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: review Bone Sickness, รีวิวหนัง Bone Sickness, รีวิวหนังซอมบี้, รีวิวหนังสยอง, หนังซอมบี้โหด
Bikini Party Massacre (2002)
นำแสดง: Joseph D. Clark (Jeff), Rockford Varcoe (Ghost Dad), Peter Mehren (Creepy Guy), Kesta Graham (Linda), Naomi Vondell (Randy), Elizabeth Innes (Mandy), Neil Kulin (Brad), Jessica Psaila (Sandy), Sean Clement (Jake as Sean Clements), Phil Jacob (Rick), Kelly Mehren (Witch)
กำกับและเขียนบท :Joseph D. Clark
ประเภท: Horror / Nudity / Gore / Thrash
“..เป็นสุดสัปดาห์ที่พวกเราจะไม่มีทางลืมมันได้ลงเลย…”
เมื่อหนุ่มสามคน และสาวสามคน วางแผนเดินทางไปตั้งแคมป์ จัดปาร์ตี้แบบสุดสวิง คุณคิดดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง…ถ้าไม่ใช่เรื่องราวเกี่ยวกับเซ็กส์ วิสกี้ เบียร์ และปาร์ตี้แบบสุดกึ๋น หนังใช้ภาพซ้อนกันไปซ้อนกันมาระหว่างเหตุการณ์จริง กับภาพหลอนในหัวของนักแสดง หนังสี่สิบนาทีกว่าที่พยายามจะบอกให้เห็นถึงบุคลิกที่แตกต่างของตัวละครหกคน พาลเอาเบื่อไปได้ไม่น้อย ยิ่งหากดูจนจบเรื่องแล้ว การปูบุคลิกลักษณะของตัวละครที่กินเวลาเกือบชั่วโมงนั้น ไม่ได้มีผลอะไรกับบทภาพยนตร์ตอนท้ายของหนังเรื่องนี้ ที่ดันไปเน้นแต่การฆ่าอย่างไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง
สิ่งเดียวของหนังเรื่องนี้ที่ทำได้แบบพอทำใจ นั่นคือ เพลงประกอบที่ใช้เพลงร็อคเก่าๆ ยุค 70’s – 80’s เพลง ambient เน้นซาวนด์อิเล็กโทรนิกส์หลอกหลอนผสมกับภาพบรรยากาศที่มีแต่ป่าได้เข้ากัน ที่ทำสำคัญในบางฉาก ผู้กำกับเลือกที่จะใส่ ชื่อวง ชื่อเพลง ลงไป เหมือนเรากำลังดู มิวสิก วีดีโอ ยังไงยังงั้น และก็ทำออกมาแปลกตา น่าสนใจดีครับ
ในเรื่องของฉากความรุนแรงตั้งแต่การร่วมเพศกันอย่างถึงพริกถึงขิง ระหว่างชาย-หญิง และหญิง-หญิง ก็ทำออกมาในสไตล์หนังเกรดบีดิบเถื่อน ในฉาก Gore เลือดสาด ก็สาดกันจริงๆ ครับ สาดกันจนเกินงาม (ว่างั้น) เปลืองซอสมะเขือเทศไปหลายปิ๊ปเป็นแน่..
หนังสยองเกรดบี ต้นทุนต่ำ โปรดักชั่นเน่า นักแสดงสมัครเล่น น้ำซอสแดงฉานเต็มเรื่อง ใครชอบหนังขยะประมาณนี้ ห้ามพลาดครับ!!!
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 1.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: รีวิวหนัง Bikini Party Massacre, รีวิวหนังสยอง, รีวิวหนังโหด, หนังเลือดสาด, หนังโหด
The Task (2011)
มิติสยอง 7 ป่าช้า : เรียลลิตี้ท้าตาย
กำกับ: Alex Orwell
เขียนบท: Kenny Yakkel
นำแสดง: Alexandra Staden, Victor McGuire, Adam Rayner, Antonia Campbell-Hughes, Ashley Mulheron, Tom Payne, Texas Battle
หนัง Reality show สยองขวัญ ส่งเข้าประกวดโดยค่าย After Dark หนึ่งใน 8 เรื่องสยองประจำปี 2011 เมื่อประทับตรา After Dark ก็ต้องขอหยิบมาดูหน่อยละครับ
แม้ว่าเราจะผิดหวังจากหนัง After Dark มาหลายครั้งหลายครา แต่มันก็น่าจะมีสักเรื่องที่โดนบ้างล่ะวะ!
The Task มิติสยอง 7 ป่าช้า : เรียลลิตี้ท้าทาย
ภารกิจที่ผู้กล้าท้าตาย 6 คนต้องเข้าไปในเรือนจำร้างที่มีประวัติสยองโชกโชนมาก่อน ใครปฏิบัติภารกิจสำเร็จในแต่ละฐานก็จะได้เงินรางวัลก้อนโตล่อใจ…เนื้อเรื่องก็มีอยู่เท่านั้นแหละครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก
เนื้อเรื่องสั้นง่าย แต่การดำเนินเรื่องอืดอาดปานยานอนหลับชั้นดี เรื่องดำเนินไปจนเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่ง มีหักมุมตอนท้ายในช่วง 5 นาทีท้ายสุด ก่อนที่จะหักมุมอีกต่อในแบบที่คาดเดาได้ไม่ยาก
ส่วนความสยอง ระทึกขวัญ โหด เลือดสาดนั้น ไม่ต้องพูดถึงครับ! คือไม่ต้องพูดถึงมันเลยครับ เพราะไม่ได้เร้าอารมณ์ให้ความรู้สึกเป็นหนังจำพวกนั้นเลย แต่หากท่านอยากซื้อหามาดูเพลินๆ ไปหาหนังตลกน่ารักๆ มาดู ยังจะเพลินกว่าครับ
หรือหากท่านอยากดูหนังจำพวก Reality Show ก็ขอแนะนำหนังสยองระทึกของพี่ไทยจะดีกว่าครับ
Reality Show สยองของบ้านเรา
พูดถึงเรื่องนี้ ก็ต้องเอาหนังโชว์แขกของบ้านเรามาพูดถึงสักหน่อย ซึ่งต้องบอกว่าดูดี มีคุณภาพมากกว่าเยอะ โดยเฉพาะหากเปรียบเทียบกับ The Task อย่างเรื่อง Ghost Game ล่า-ท้า-ผี หนังไทยสยองขวัญที่นำนักแสดงจาก Academy fantasia ในยุคแรก (AF1) แสดงนำ ตอนนั้นรายการ Reality Show เพิ่งเป็นที่นิยมในเมืองไทย ก็สนองตอบกระแสความแรงของนักแสดงบ้าน AF ซึ่งสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ในขณะนั้นก็ถือว่าทำออกมาใช้ได้นะครับ เรื่อง Ghost Game แม้จะไม่เด่น ไม่ดัง ไม่ขึ้นหิ้งหนังสยองทรงคุณค่า แต่ก็ไม่เน่าเท่า The Task แน่นอนครับ
หนังพี่ไทยอีกเรื่องที่ต้องบอกว่าเป็นแนว Reality Show ระทึกขวัญที่ขึ้นแท่นหนังพี่ไทยสยองทรงคุณค่าอีกเรื่อง นั่นคือ 13 เกมสยอง หรือ 13 Beloved หนังไทยจากฝีมือการกำกับของชูเกียรติ นำแสดงโดยน้อย วงพรู ใครยังไม่ได้ดูสองเรื่องนี้ ก็ไปหาซื้ออุดหนุนหนังไทยเราดีกว่าเยอะเลยครับ
โดย ศร-รณ
Rating: 1.00 / 5.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies S - U Tagged with: รีวิวหนัง The Task, รีวิวหนังค่าย After Dark, รีวิวหนังสยอง, หนังผี, หนังสยองขวัญ
1408 (2007)
นำแสดง: John Cusack (Mike Enslin), Samuel L. Jackson (Gerald Olin), Mary McCormack (Lily Enslin), Tony Shalhoub (Sam Farrell), Jasmine Jessica Anthony (Katie), Len Cariou (Father), Isiah Whitlock Jr. (Engineer), Paul Birchard (Mr. Innkeeper), Margot Leicester (Mrs. Innkeeper), Walter Lewis (Cashier)
กำกับ: Mikael Hafstrom
เขียนบท: Matt Greenberg (screenplay), Scott Alexander (screenplay)
ประเภท: Drama / Horror / Thriller
เรื่องย่อ: หนุ่มนักเขียนนิยายสยองขวัญ “ไมค์” (จอห์น คูแซ็ค) ที่ไม่เชื่อว่าผีมีจริง จนกว่าจะได้เห็นกับตา เขาเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ที่เคยว่าเฮี้ยนและมีผีหลอก เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าความเชื่อเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิด จนกระทั่งเขาได้มาลองของยังห้องพัก 1408 ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งใครก็ตามที่เข้าไป ไม่เคยได้รอดกลับออกมา แล้วทุกคนล้วนตายอย่างสยอง ในระหว่างที่ไมค์ได้พยายามพิสูจน์ว่าผีไม่มีจริงอยู่ได้ไม่นานนั้น ไมค์ก็ได้เห็นกับสิ่งที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อนกับตา และอาจต้องตาย ถ้าไมค์หนีออกมาไม่ได้…ความสยองขวัญในห้องพัก 1408 กำลังเริ่มต้นขึ้น!!!
ลีลาสุดเพี้ยนของเฮีย John Cusack !
หนังสนุกครับ…ในความเห็นของผม ต้องบอกว่า หนังสนุกเพราะลีลาการแสดงใน acting สุดบ้าคลั่งแบบฉายเดี่ยว ของ John Cusack นั้น เล่นเอาผมประทับใจ จริงๆ ก็ต้องบอกว่า ชอบเฮีย John ในหลายๆ บทบาทจากภาพยนตร์หลายๆ เรื่องที่เฮียแกแสดงเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น High Fidelity (เฮียจอห์นรับบทเป็นเจ้าของร้านแผ่นเสียงที่ชอบจัดอันดับความนิยมชมชอบเป็นชีวิตจิตใจ หนังในปี 2000), Runaway Jury (บทบาทของลูกขุนที่เพียรพยายามกลับมาแก้แค้นธุรกิจค้าอาวุธ เป็นหนึ่งในหนังเกี่ยวกับศาล ทนายความ ดังแปลงมาจากนวนิยายเรื่องเยี่ยมของ John Grisham ฉายในปี 2003) จนมาถึง 1408! ดูหนังเรื่องนี้ แล้วพาลให้นึกถึงน้า Tom Hanks ที่เล่นกับตัวเองบนพื้นมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ในเรื่อง Cast Away (2000) ซึ่งทำได้เยี่ยมเลยแหละ เพียงแต่ความแตกต่างระหว่างสองเรื่องนั้นคือ เนื้อที่ที่เฮีย John อยู่ในพื้นที่ห้องอันจำกัด แต่น้า Tom อยู่ในมหาสมุทรสุดเหงา ความสามารถในการแสดงบทกับตัวเอง ผมว่ายากที่จะทำให้คนดูเข้าใจ และอินไปตามอารมณ์ของตัวละคร ซึ่งในเรื่องนี้ สำหรับผมแล้ว เฮียจอห์นทำสำเร็จครับ พาผมตะลุยไปกับตัวละครที่ชื่อ ไมค์ เอ็นสลินได้ชะงักงัน
เลข 13 นำความสยอง!
จากนวนิยายสยองขวัญของลุงสตีเฟ่น คิง ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนต์สั่นประสาทชื่อ “1408” ตัวเลขที่บอกสื่อความหมายถึงตัวเลขสยอง “13” หากคุณจำฉากที่ไมค์ เอ็นสลิน นั่งอยู่ในร้านกาแฟ นั่งดูจดหมายแนะนำโรงแรมสยอง จนมาพบกับโปสการ์ดแนะนำโรงแรม ดอลฟิน กับห้องหมายเลข 1408…ไมค์นั่งดูโปสการ์ดแล้วยิ้ม พร้อมหยิบปากกามาเขียน “= 13” คุณคงจะพอนึกออก นอกจากนี้ หากคุณลองสังเกตตัวเลขที่เกิดขึ้นทั้งหมดในเรื่องก็จะพบว่า บทภาพยนตร์ในเรื่องต้องการจะใช้ตัวเลข “13” เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจไม่น้อย อาทิ ที่อยู่ของโรงแรม เลขที่ 2245 ซึ่งหากนำมารวมกันแล้ว ก็จะได้เลข 13 เช่นกัน หรือห้องเลขที่ 1408 (ชั้น 14 ห้องที่ 8) นั้น ก็เล่นกับตัวเลข 13 เช่นกัน เหมือนลิฟท์ ที่มักจะเว้นชั้นที่ 13 ไว้ ซึ่งความจริงแล้วชั้นที่ 14 ก็คือชั้นที่ 13 นั่นแหละ และมีอีกหลายตัวเลขในเรื่องที่เล่นกับเลข 13 ครับ หากคุณสนใจลองไปหาอ่านเพิ่มเติมตามลิงค์นี้เลย “หมายเลข 1408”
คิดไปเอง…หรือเรื่องจริง!
ความจริง หรือภาพหลอนแห่งอดีตอันขมขื่น หรือภาพจินตนาการที่เราสร้างขึ้นมาเองกันแน่…นั่นคือสิ่งที่ “1408” ได้ถ่ายทอดให้ผู้ชมได้คิดกัน…สมแล้วครับ เป็นนวนิยายของเจ้าพ่อสยองขวัญอย่าง สตีเฟ่น คิง บทภาพยนตร์ที่ทำออกมาจึงได้ชวนให้เราคิด และติดตามอยู่ตลอด ไม่อยากจะเล่าเรื่องราวของเนื้อเรื่องให้มากความ อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองไปหาดูกันเอาเอง บางคนอาจเบื่อ บางคนอาจเซ็ง บางคนอาจเสียดายเงิน แต่ผมว่าต้องมีคนไม่น้อยชอบ “1408” เป็นแน่ ลองดูหนังเรื่องนี้ให้จบ ปล่อยวางทัศนคติแย่ๆ จากคำวิจารณ์ของคนอื่น แล้วเดินตามตัวละครของไมค์ ผมว่า คุณอาจจะกลับมานั่งคิดถึงตัวคุณเองในการดำเนินชีวิตประจำวันก็ได้…ไอ้อดีตที่ขมขื่น แล้วคุณยังเอามาทับถม เหยียบย่ำตัวคุณเองให้จมลงดิน โดยไม่คิดจะเดินหน้าหรือปล่อยวาง การกระทำเช่นนั้น มันดีแล้วหรือ?!?
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies 0 - 9 Tagged with: รีวิวหนังผี, รีวิวหนังสยอง, รีวิวหนังสยองขวัญ 1408, หนังผี
Vacancy 2: The First Cut (2009)
กำกับ: Eric Bross
เขียนบท: Mark L. Smith
นำแสดง: Agnes Bruckner (Jessica), David Moscow (Gordon), Scott G. Anderson (Smith), Arjay Smith (Tanner), Trevor Wright (Caleb), Beau Billingslea (Otis), Brian Klugman (Reece), Juanita Jennings (Doris),
Nelson Lee (Groom), Gwendoline Yeo (Bride), Judy Durning (Wife), David Shackelford (Truck Driver),
Lola Davidson (Woman)
ประเภท: Horror / Thriller
จากเสียงตอบรับใน Vacancy ที่ออกฉายในปี 2007 ทำให้กำเนิด Vacancy 2 : The First Cut ออกฉายในปี 2009 ตามเทรนด์หนังใหม่เล่าเรื่องราวกำเนิดหนังเก่า ที่นิยมมากในช่วงสองปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น The First…, The Begin…อะไรก็ตาม ทยอยออกมากันอย่างต่อเนื่อง The Fist cut ของ Vacancy จึงถือกำเนิดขึ้นด้วย (เพื่อไม่ให้ตกกระแส)
เรื่องราวเล่าย้อนไปในปี 2004 ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของโรงแรมสยอง ติดกล้อง ถ่ายหนังสด ใครที่หลงเข้ามาพักไม่วายที่จะกลายเป็นพระเอกนางเอกโดยไม่รู้ตัว เรื่องกำเนิดมาจากวันหนึ่ง ณ โรงแรม Meadow View Inn ที่เจ้าของติดกล้องไว้ถ่ายหนังสด เพื่อนำปล่อยออกขาย กำลังนั่งดูชาย หญิงที่เพิ่งจะมาเช่าห้องพัก ผู้ชายกำลังปูผ้าพลาสติก หญิงสาวหน้าตาเซ็กส์ซี่ลงไปนอนคว่ำหน้าโชว์ก้นงามงอน ชายหนุ่มขึ้นคร่อมด้วยทีท่ากระหายตัณหา…พร้อมด้วยมืดคมวาว บรรจง เสียบ เสียบ แทง แทง แทง! เข้าอย่างไม่ยั้งมือ…ชิบหาย จากหนังสด กลายเป็น Snuff Film เจ๋ง ๆ ไปแล้ว
เจ้าของโรงแรมและคู่หูจับเจ้าฆาตรกรสุดเหี้ยมที่ใช้ชื่อว่า Smith ได้ แต่ก็ต้องปล่อยตัวเพราะไอเดียสุดบรรเจิดของฆาตรกร Smith ที่เสนอขายบริการฆ่าเพื่อให้ได้ Snuff Film นำไปปล่อยขายในตลาดผู้นิยมความซาดิสต์ เงินกลายมาเป็นปัจจัยในการทำธุรกิจถ่ายหนังฆ่าร่วมกัน
Jessica และแฟนหนุ่ม Caleb กับเพื่อนสนิท Tanner กำลังเดินทางไกลไปยังบ้านของ Jessica เพื่อเริ่มต้นชีวิตคู่ที่นั้น กลับ ต้องมาประสบเหตุการณ์สุดสยองในโรงแรม Meadow View Inn พวกเขาจะหาทางเอาตัวรอดอย่างไร ใครจะรอด ใครจะอยู่ คงต้องไปหาดูกันครับ
ห้องว่างให้เชือด 2: หนังเล่าที่มากับความโหดคูณ 2
Vacancy 2 มาพร้อมกับความโหดคูณ 2 จาก Vacancy ภาคแรกที่ออกฉายในปี 2007 สนองความต้องการคอหนังเชือดเลือดสาดตามยุคของหนัง Horror เลือดสาดในช่วงปี สองปีที่ผ่านมาครับ เราจะเห็นอารมณ์แบบ Thriller ที่โดดเด่นใน Vacancy ภาคแรก แต่สำหรับ The First Cut ชูโรงด้วยความเป็น Horror ในสไตล์หนังต้นทุนต่ำอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะการปูบทของนางเอก Jessica ที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบชนบท และการล่าสัตว์เป็นหนึ่งในวิถีชีวิตของเธอ ดังนั้น ฉากในช่วงท้ายที่ Jessica พยายามเอาชีวิตรอดจากพวกฆาตกร จึงไม่น่าแปลกใจเลยครับว่าผู้หญิงคนนี้เธอเก่ง และแกร่งจริงๆ (ไม่ได้ประชดนะ อิอิ)
นอกจากความเก่งกาจในการเอาตัวรอดของ Jessica แล้ว เจ้าฆาตรกร Smith ก็มาในแบบเหนือความเป็นจริง จำพวกโดยเท่าไรก็ไม่ตาย…ไม่เหมือนกับข้อดีของ Vacancy ภาคแรกที่เรื่องราวยังดูมีความเสมือนจริงอยู่ จึงทำให้ Vacancy 2: The First Cut กลายเป็นหนังเชือดตลาด ๆ ตามเทรนด์ไปโดยปริยาย
ใครชอบหนังโหดสะใจ ดู Vacancy ภาคแรกอาจไม่ถูกใจ ก็ลองหา The First Cut ภาคนี้มาดูครับ น่าจะถูกใจ แต่สำหรับผมนั้น คงพูดได้แค่ว่า ดูได้เพลินๆ ครับ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies V - X Tagged with: รีวิวหนังสยอง, รีวิวหนังสยองขวัญ Vacancy 2: The First Cut (2009)
Trick ‘r Treat (2008)
กำกับ และเขียนบท: Michael Dougherty
นำแสดง: Dylan Baker (Steven), Rochelle Aytes (Maria), Quinn Lord (Sam / Peeping Tommy), Lauren Lee Smith (Danielle), Moneca Delain (Janet), Tahmoh Penikett (Henry), Brett Kelly (Charlie), Britt McKillip (Macy), Isabelle Deluce (Sara), Jean-Luc Bilodeau (Schrader), Alberto Ghisi (Chip), Samm Todd (Rhonda), Anna Paquin (Laurie), Brian Cox (Mr. Kreeg), Leslie Bibb (Emma)
ประเภท: Horror / Comedy
Plot หนังจากเว็บไซต์ mangpong.co.th – ผลงานสยองขวัญพร้อมอารมณ์ขันชวนขนลุกเพื่อเฉลิมฉลองค่ำคืนที่น่ากลัวที่สุดของปีเรื่องนี้อำนวยการสร้างโดย ไบรอัน ซิงเกอร์ (ผู้กำกับ X-Men และ Superman Returns) และ เขียนบท-กำกับโดย ไมเคิล ดอเฮอร์ตี้ (ผู้ร่วมเขียนบท X-Men และ Superman Returns)
“กระตุกขวัญวันปล่อยผี” คือการนำหนังในสไตล์ Creepshow / Tales from the Crypt สู่ความเขย่าขวัญอันหลอนลึกของสี่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนวันฮัลโลวีน อันได้แก่ ครูใหญ่ไฮสคูลคนหนึ่ง (ไดแลน เบเกอร์) ใช้เวลาว่างในยามดึกดื่นเป็นฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง / สาวน้อยที่หวังเสียความบริสุทธิ์ให้กับคนพิเศษ (แอนนา พาควิน) อาจต้องเสียทั้งตัวและชีวิต / แก๊งวัยรุ่นสุดซ่าส์ที่เล่นแกล้งกันอย่างไม่ปราณีต้องเจอดีกลับมาแบบเข็ดจนตาย และชายแก่อารมณ์ร้าย (ไบรอัน ค็อกซ์) ต้องต่อกรกับผีเด็กที่เล่นหลอกเขาแบบไม่ตายไม่เลิกรา!
Trick ‘r Treat เคารพประเพณีกันหน่อยดิ ^ ^
สี่เรื่องราวฮาสยองที่นำมาโยงใยเกี่ยวพันกันได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ หนังบอกเพียงว่า ..เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น, เหตุการณ์หลังจากนั้น เหตุการณ์ในระหว่างนั้น…หนังยุคใหม่ที่ทำออกมาสไตล์หนังสยองยุค 80’s ครับ ทั้งภาพ มุมกล้อง บรรยากาศ และตัวละคร รวมไปถึง “ปีศาจเด็ก…ผีฟักทอง”
เนื้อหาที่ต้องการจะบอกให้เคารพประเพณีในวันปล่อยผี ที่ปัจจุบันคนยุคใหม่ส่วนใหญ่แทบจะหลงลืมขนบ หรือประเพณีดั้งเดิม อาทิ การแจกจ่ายขนมหวาน ลูกอม ลูกกวาด การประดับประดาไฟจากตะเกียงฟักทอง เป็นต้น เมื่อประเพณีมีไว้ให้ทำ แต่หากท่านไม่ทำ หนังเรื่องนี้แหละคือบทสั่งสอน!
ความสยอง อารมณ์ร่วมแบบยุค 80’s ชวนให้หนังมีสเน่ห์อย่างยากที่จะปฏิเสธครับ เสริมด้วยตอนท้ายของหนังทั้งสี่เรื่องมีประเด็นการหักมุมที่สยองดูชม อาทิ ครูใหญ่ใจดีที่มีพฤติกรรมนิยมฆ่า และถ่ายทอดพฤติกรรมนั้นสู่ลูกชายตัวเปี๊ยกที่ชอบทำกิจกรรมร่วมกับคุณพ่อ! สาวน้อยสุดน่ารักกับพี่สาวและชาวแก๊งค์แปลงร่างเป็นมนุษย์หมาป่าขย่ำเหยื่ออย่างสนุกสนาน ชายแก่อารมณ์ร้ายที่รอดตายเพราะหยิบยื่นขนมให้ปีศาจฟักทอง เป็นต้น ผมว่าถ้าทำออกมาแบบปรับบทภาพยนตร์ให้กลายเป็นหนังสยองแบบซีเรียสๆ เรื่องนี้คงจะโหดไม่น้อยเลยแหละ (หามาดูกันเองนะ) ส่วนใครที่หวังจะดูฮาโลวีนเลือดสาดอะไรทำนองนี้ ก็คงดูแล้วเฉยๆ หน่ะครับ ส่วนตัวผมชอบหนังสั้นอารมณ์ Creepshow / Tales from the Crypt อยู่แล้ว พอได้ดูเรื่องนี้ก็เลยถูกใจ
สนุกดีครับ หามาดูกัน
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies S - U Tagged with: รีวิวหนังสยอง, รีวิวหนังสยองขวัญ Trick 'r Treat (2008), หนังสยองขวัญ
The Amityville Horror (2005)
ผีทวงบ้าน
กำกับ: Andrew Douglas
เขียนบท: Scott Kosar (screenplay) และ Jay Anson (novel)
นำแสดง: Ryan Reynolds (George Lutz), Melissa George (Kathy Lutz), Jesse James (Billy Lutz), Jimmy Bennett (Michael Lutz), Chloe Moretz (Chelsea Lutz as Chloe Grace Moretz), Rachel Nichols (Lisa), Philip Baker Hall (Father Callaway), Isabel Conner (Jodie Defeo)
Brendan Donaldson (Ronald Defeo)
ประเภท: Horror / Mystery / Thriller
ภาพยนตร์ที่สร้างจากนิยายที่มาจากเหตุการณ์จริงในปี 1974 เมื่อตำรวจพบเหตุอาชญกรรมสุดสั่นประสาท ขย่มขวัญคนทั้งเมือง เหตุการณ์ที่ครอบครัวตระกูลเดฟิโอ ถูกสังหารหมู่ 6 ศพอย่างเลือดเย็นไม่เว้นแม้แต่น้องสาวคนเล็กที่หลบอยู่ในตู้เสื้อผ้า และฆาตกรเลือดเย็นนั้นก็คือ โรนัล เดฟิโอ จูเนียร์พี่ชายคนโต คนในครอบครัวนั้นเอง! เขาให้การสารภาพว่าได้ยิงพ่อแม่ และพี่น้องทุกคนตายด้วยปืนไรเฟิลขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับ และอ้างว่ามีเสียงประหลาดที่สั่งให้เขาก่อเหตุสยองขวัญนี้
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น ส่วนคำให้การเรื่องของ “เสียง” ประหลาดที่สั่งให้เกิดการฆาตกรรมหมู่นั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่อย่างกว้างขวางว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แม้แต่ในบ้านเราเองที่หนังเรื่องนี้ออกฉายก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันถึงเรื่องจริงที่เกิดขึ้นอยู่เหมือนกัน ใครสนใจก็ลองหาข้อมูลติดตามอ่านกันดูนะครับ
The Amityville Horror ฉบับปี 2005
กลับมาว่าด้วยเรื่องราวของภาพยนตร์กันต่อ หนัง Amityville Horror เคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ก่อนหน้านี้เมื่อปี 1979 โดยฝีมือการกำกับของ Stuart Rosenberg ซึ่งนำงานเขียนขายดีของ Jay Anson มาสร้างเป็นหนังเช่นกับในฉบับปี 2005 นี้
เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อย่างที่เกริ่นให้อ่านถึงเหตุการณ์จริงข้างต้น ซึ่งหลังจากนั้นประมาณหนึ่งปีต่อมา George Lutz (Ryan Reynolds) และ Kathy Lutz (Melissa George) และลูกๆ ได้ย้ายเข้ามาในบ้านที่พวกเขาคิดว่าคือบ้านในฝัน แต่หลังจากย้ายเข้ามาไม่นาน เหตุการณ์ประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็เกิดขึ้น นั่นคือ ภาพสยองและเสียงหลอนจากปีศาจ ที่ยังคงสิงสู่อยู่ในบ้าน
ตัว George มีสภาพที่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก เขาถูกสิงโดยผีที่ยังอยู่ในบ้าน ส่วนตัว Kathy ผู้เป็นแม่ พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องลูกๆ ที่น่ารักของเขาทั้ง 3 คน เมื่อ Kathy เริ่มค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวที่ต้องคำสาปในบ้านที่เธอและลูกๆ อาศัยอยู่ ก็พบความจริงว่าภายใต้บ้านหลังใหญ่นั้น มีห้องลับที่ไว้ใช้สำหรับการทรมาน และฆ่าพวกอินเดียนแดง ทางเดียวที่จะพ้นสภาพการถูกหลอกหลอนแบบนี้คือ พวกเขาต้องหนีไปให้ไกล และอย่าคิดที่จะหันกลับมามองบ้านหลังนี้อีกเลย!
Katch ‘em! Kill ‘em!…3:15
หนังผีเป็นอะไรที่ใกล้ตัวคนเราอยู่แล้ว วิญญาณอยู่รอบ ๆ ตัวเรานี่แหละ เพราะงั้นหนังผีที่ถูกสร้างจากเรื่องจริง จึงเป็นอะไรที่เข้าถึงคนดูได้ง่ายมาก ฉากอย่างเช่น เจ้าลูกชายคนเล็กปวดฉี่จะราด แต่ไม่กล้าเข้าห้องน้ำเพราะกลัวผี ก็เป็นอะไรที่ใกล้ตัว คุณอาจจะนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆ ได้ หนังผีที่เราเห็นหลาย ๆ เรื่อง จะพบว่า เด็กนี่แหละที่มีความใสบริสุทธิ์ที่จะ”เข้าถึง” วิญญาณได้ เราจะเห็นเด็กในหลายเรื่องที่เห็นผี เห็นวิญญาณ หรือแม้แต่พูดคุยกับมัน!
The Amityville Horror ไม่ได้พลาดในรายละเอียดของความน่ากลัวใกล้ตัวที่คนเราจะสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน หนังผีเรื่องนี้ยังได้ผสมผสานเหตุการณ์ฆาตรกรรม ภาพการถูกทรมานน่าสยดสยอง รวมถึงความเป็นดราม่าที่แสดงออกโดยสัญชาตญาณของผู้เป็นแม่ ก็เรียกได้ว่าครบรสความเป็นหนังผีครับ
ใครที่เบื่อหนังผีที่โผล่มา…แฮ่! โผล่มา…แฮ่! หยิบเอาหนังผีเรื่องนี้มาดูได้นะ ผมว่าไม่น่าผิดหวังหรอกครับ เป็นอะไรที่ดูได้สนุกกันทั้งครอบครัว
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: รีวิวหนัง The Amityville Horror (2005), รีวิวหนังผี, รีวิวหนังสยอง, หนังผี, หนังสยองขวัญ
All Night Long: Initial O (2003)
All Night Long 5
Ooru naito rongu: Inisharu O
กำกับ: Katsuya Matsumura
เขียนบท: Rusher Ikeda, Katsuya Matsumura
นำแสดง: Sakura Kobayashi (as Sakura), Kadu Koide, Ayumu Saito, Salmon Sakeyama (as Sakeyama Saamon)
ประเภท: Horror
ในฐานะที่เป็นแฟนหนังของ Katsuya Matsumura และติดตามหนังค่ำคืนอันยาวนาน “All Night Long” มาตั้งแต่ภาคแรกจนถึง Atrocity และ Final Chapter ในปี 1996 ที่ตอนนั้นหนังเรื่องนี้ออกมา ถือว่าเป็นการจบค่ำคืนอันแสนนานได้สวยงามมาก หลังจากนั้นก็มีข่าวว่าเขากลับมาทำหนัง All Night Long อีกครั้งในภาค 4 หรือ All Night Long R (Ooru naito rongu R) ในปี 2002 และ Inisharu O หรือ All Night Long 5 ในปีถัดมา ผมก็ไม่มีโอกาสติดตามและหามาดูเลย จนเมื่อคืนนี้ล่ะครับ…
ตอนหาข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ ก็ไปเห็นชื่อของมือเขียนบทจิตเข้าขั้นอีกคนของญี่ปุ่นที่เคยเห็นผลงานผ่านตามาแล้วคือ Rusher Ikeda ที่ฝากผลงานกับหนังสวยสยอง “Ki-re-i” หรือ The terror of Beauty (กำกับโดย Katsuya เช่นกัน) นอกจากนั้น Rusher Ikeda ยังเป็น Producer ให้กับการ์ตูนอิโรติกสยองแหกแข้งแหกขาชื่อดังอย่าง Twin Angels, La Blue Girl, Venus 5 ผมก็ไม่เคยดูนะครับ ลองให้เซียนหนังการ์ตูนแนะนำกันดูครับ
มาในภาคนี้ ไม่ได้เล่าเรื่องของเด็กหนุ่มโรคจิตเหมือนใน 3 ภาคแรกที่หยิบยกพฤติกรรม ความคิดจิตวิปริตของเด็กหนุ่มในสังคมญี่ปุ่นมาบอกเล่าได้น่าสนใจ งานนี้เปิดเรื่องของ Sakura ที่ไม่ใช่อาหารปลา แต่เป็นสาวออฟฟิศหุ่นเซ็กส์ซ่อนรูปมีพฤติกรรมชอบอม…(อมไรไปดูกันเอาเอง) ที่กำลังเดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน ระหว่างทางเธอพบเหตุชายออฟฟิศกระโดดตึกฆ่าตัวตายหัวเบะต่อหน้าต่อตา เพื่อนร่วมทางต่างวิ่งหนี แต่เธอของหยุดมองสร้างจิตนาการ ก่อนที่จะวิ่งไปหลบหลังเสาและกระทำชำเราตัวเอง…เห็นเลือดแล้วคงเกิดอารมณ์ ไถนาบนภูเขาพร้อมทั้งทำร้ายพื้นนาน้อยๆ หน่อยท่าจะดี ทว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นโดยมีคนเฝ้าสังเกตติดตามอยู่ตลอดเวลา ภาพตัดไปที่บาร์แห่งหนึ่ง Sakura นั่งเหงาคนเดียวและก็มีชายหนุ่มแต่งตัวดีมาเชื้อเชิญให้ไปทานอาหารค่ำด้วย…หลังจากอิ่มหนำสำราญกับอาหารและเครื่องดื่ม…เธอกลับหมดสติสลบไป และตื่นเข้ามาอีกทีในห้องขัง และเรื่องราวแบบจิต ๆ ก็เริ่มต้นขึ้นในห้องนี้นี่เอง!
สรุปกันหน่อย…
– เรื่องราวในภาคนี้มีจุดเด่นจากการนำพฤติกรรมแบบ Sado-masochistic มาเล่น ผลัดเปลี่ยนกันทรมาน ถึงกับจ้างมาทรมานกันเลย การเกิดกามกำหนัดจากการถูกทำให้เจ็บปวดและทำให้คนอื่นเจ็บปวด ฉากตอนท้ายๆ ที่เล่นเสียวกันอย่างเดียวไม่พอต้องเอามีดปักอกกระตุ้นอารมณ์ให้เกิดความใคร่ขีดสุด (น่าทำ bondage รัดคอเล่นเสียวและเอามีดปักอกไปพร้อม ๆ กัน เหอ เหอ)…นี่แหละครับ พล็อตอย่างเดียวที่นำมาขายในเรื่องนี้ ส่วนเรื่องฉากจิตหลุด ขายความเสียวมากมายมั้ย…ไม่เลยครับ เฉยๆ มาก แถมบทพูดยังฟุ่มเฟือยอีกต่างหาก
– All Night Long O หรือภาค 5…อย่างที่บอกครับ เห็นชื่อมือเขียนบทที่เราคุ้นเคยและฝากงานไว้กับ Ki-re-i ที่ผมว่าทำออกมาใช้ได้เลย ก็เลยคิดว่างาน “O” น่าจะมีบทเพี้ยนๆ วิปริต จิตๆ ให้ได้ดูกัน…แต่ก็ผิดหวังกันไป
– ความวิปริต จิต เพี้ยน และเสื่อมไม่ได้มาตรฐานของแบรนด์ Katsuya Matsumura เลยแม้แต่น้อย (ไว้ต้องหา All Night Long 6 หรือ Daredemo Yokatta มาดูครับ งานนี้ได้มือเขียนบทชั้นดีอย่าง Daisuke Yamanouchi นายคนนี้กำกับและเขียนบทหนังสยองขวัญจิตเพี้ยนไว้หลายเรื่องครับ หนึ่งในนั้นคือ Akai misshitsu หรือ Red Room ทั้ง 1 & 2 ที่คุณ nana_idol หยิบขึ้นมารีวิวนั่นเอง…หรือใครได้ดูภาค 6 แล้วก็เขียนรีวิวเอามาเล่าสู่กันฟังได้ครับ)
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: รีวิวหนัง All Night Long, รีวิวหนังของ Katsuya Matsumura, รีวิวหนังสยอง, รีวิวหนังสยอง All Night Long 5, หนังโรคจิตญี่ปุ่น
28 Days Later (2002)
28 วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน
กำกับ: Danny Boyle
เขียนบท: Alex Garland
นำแสดง: Cillian Murphy (Jim), Toby Sedgwick (Infected Priest), Naomie Harris (Selena), Noah Huntley (Mark), Christopher Dunne (Jim’s Father), Emma Hitching (Jim’s Mother), Alexander Delamere (Mr. Bridges), Kim McGarrity (Mr. Bridges’ Daughter), Brendan Gleeson (Frank), Megan Burns (Hannah)
ประเภท: Horror / Sci-Fi / Action / Thriller
เนื้อเรื่องจาก pantip.com: หลังจากกลุ่มผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิสัตว์ ได้บุกเข้าไปยังสถาบันวิจัยสัตว์เจริญพันธุ์ พวกเขาได้พบกับชิมแปนซี ที่ถูกขังและล่ามโซ่ ไว้เบื้องหน้าจอภาพจำนวนมหาศาล ที่แสดงผลของความรุนแรงอันน่าสยดสยอง พวกเขาเพิกเฉยต่อคำเตือนของนักวิจัยผู้ตื่นตระหนก ที่ว่าลิงชิมแปนซีเหล่านั้น ‘ติดเชื้อ’ และได้ปลดปล่อยพวกมันให้เป็นอิสระ จนเป็นเหตุให้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีอย่างบ้าเลือด ของบรรดาสัตว์ที่กำลังเดือดดาล
28 วันต่อมา… จิม (ซิลเลียน เมอร์ฟีย์) หนุ่มส่งเอกสาร ฟื้นคืนสติจากอาการโคม่า และพบตนเองในห้องไอซียู ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในลอนดอน ในความงุนงงและสับสน เขาออกเดินสำรวจหาผู้คน ตามวอร์ดคนไข้และระเบียงทางเดิน จนในที่สุด ออกไปถึงถนนด้านนอก เพื่อเสาะหาความช่วยเหลือ จวบกระทั่งเงาเริ่มทอดยาว เขาจึงมาถึงยังโบสถ์แห่งหนึ่ง และได้พบกับซากศพจำนวนมาก ที่ถูกกองสุมไว้บนพื้นวิหาร เสียงที่ดังขึ้นอย่างฉับพลัน พร้อมกับการปรากฎตัวราวสายฟ้าแลบ ของพระรูปหนึ่ง ซึ่งมีเลือดกลบตา และกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ทำให้จิมต้องวิ่งกลับออกไปยังถนน และพบกับ ‘ผู้ ติดเชื้อ’ คนอื่นๆ ซึ่งถูกดึงดูดมาด้วยเสียงนั้น จิมออกวิ่งหนีอย่างตื่นตระหนกและสับสน ในขณะที่ฝูงชนทวีจำนวนขึ้นเรื่อยๆ วิ่งไล่ตามเขาไปตามท้องถนนอันมืดมิด
เสียงระเบิดกึกก้อง เป็นเหมือนการประกาศการมาถึงของเพื่อน ‘ผู้รอด ชีวิต’ เซเลน่า (นาโอมี แฮร์ริส) และ มาร์ค (โนอา ฮันท์ลีย์) หลังได้รับการช่วยชีวิตอย่างกล้าหาญ จิมถูกพาไปยังที่ปลอดภัย และได้รับคำอธิบายจากพวกเขา ถึงสมุฏฐานของการติดเชื้อ ซึ่งถ่ายทอดได้โดยเลือด และจะเข้าครอบงำในช่วงเวลาไม่กี่วินาที ประเทศอังกฤษทั้งประเทศต้องติดเชื้อ และไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่า เชื้อนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกแล้วหรือไม่
เซเลน่าและมาร์คยอมรับอย่างไม่เต็มใจ ที่จะช่วยพาจิม ซึ่งตกอยู่ในสภาวะช็อค ในการเดินทางกลับไป เพื่อหาบิดามารดาที่บ้านที่เดพท์ฟอร์ด อันจะเกิดผลที่น่าสะพรึงกลัวตามมา หลังจากนั้น เมื่อพวกเขาลัดเลาะไปตามถนนที่ไร้แสงไฟ เซเลน่าและจิมก็พบเห็นแสงลอดมาจากตึกแห่งหนึ่ง จึงเข้าไปตรวจค้น และพบกับผู้รอดชีวิตอีกสองคน ซึ่งเป็นพ่อลูก แฟรงค์ (เบรนแดน กลีสัน) และ ฮานนาห์ (เมแกน เบิร์นส) ซึ่งกำลังแร้นแค้นน้ำกินน้ำใช้อย่างสาหัส จนต้องกระเสือกกระสนหาที่อยู่ใหม่
เมื่อทุกคนย้ายเข้าไปพักพิงที่ตึกนั้น พวกเขาได้ค้นพบสัญญาณวิทยุอัตโนมัติ ที่คอยคนตอบรับ จากกองทหารในแมนเชสเตอร์ ซึ่งบัญชาการโดย นายพล เฮนรี่ เวสท์ (คริสโตเฟอร์ เอคเคลสตัน) ผู้อ้างว่ามี ‘คำตอบ’ ของการติดเชื้อ และเชื้อเชิญให้ผู้รอดชีวิตทุกคน เข้ารวมกลุ่มกับพวกเขาที่ฐานทัพปิด เมื่อไม่ทางเลือกอื่นใดอีก ทั้งกลุ่มจึงมุ่งหน้าเดินทางขึ้นเหนือ ด้วยรถแท็กซี่สีดำของแฟรงค์ โดยหารู้ไม่ว่า กำลังจะเผชิญหน้ากับสิ่งที่เลวร้ายที่สุด!
28 Days Later : 28 วันให้หลัง เชื้อเขมือบคน
หนึ่งในหนังที่ชื่นชอบครับ ดูตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉาย และก็ยังไม่ได้หยิบมาเขียนถึงเรื่องนี้สักที พอดีได้ดู Daybreakers เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แม้จะเป็นหนังแวมไพร์ครองโลก แต่ผมว่ามีมุมมองอะไรหลายๆ อย่างที่ดูแล้วเหมือนจะได้รับแรงบันดาลใจจาก 28 Days Later ด้วย เลยได้โอกาสนำหนังเรื่องนี้มาเขียนสักหน่อยครับ
หนังค่อยๆ เดินเรื่องอย่างช้า ๆ ค่อยๆ เปิดเผยถึงที่มาของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และที่มาของตัวละครก่อนที่จะเดินเรื่องแรงๆ เข้าสู่ความน่ารังเกียจขยะแขยงของมนุษย์ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเรื่อง ภาพสะท้อนถึงการกดขี่สตรีเพศ เครื่องมือให้ความบันเทิงใจแก่ผู้ชาย ภาพความเห็นแก่ตัวผุดขึ้นอย่างไม่บันยะบันยังในช่วงท้ายของหนัง สร้างความรู้สึกร่วมเอาใจช่วยนาย Jim ให้รอดพ้น เงื้อมมือของอมุษย์ในคราบของมนุษย์ให้ได้
จริงๆ ผีห่าซอมบี้ไล่ล่ากัดกินมนุษย์นั้นไม่ได้มีความน่ากลัวเลย หากนำมาเปรียบเทียบกับคน คนซึ่งไร้ความเป็นคนอยู่ในตัว ไร้ค่า และไม่มีคุณสมบัติของความเป็นคนหลงเหลืออยู่…ให้ไอ้พวกนี้ตายห่าไป แล้วให้ซอมบี้เดินเพ่นพล่านอยู่ในโลกของเราจะดีเสียกว่า เรายังระมัดระวังตัวได้ เรายังรู้ว่าใครเป็นมิตรใครเป็นศัตรู…
28 Days Later กำกับโดย Danny Boyle ซึ่งก่อนที่จะผลิตผลงานคุณภาพเรื่องนี้ออกมา แกได้ทำหนังเรื่อง The Beach (2000) หนัง Adventure ที่พระเอกลีโอนาโดนำแสดง และถ่ายทำภาพธรรมชาติสวยๆ ในเมืองไทย
สำหรับ 28 Days Later นั้น หลังจากที่ออกมาในปี 2002 หนังก็ตระเวนเข้าชิงรางวัล และกวาดรางวัลมากมายหลายสาขาครับ หนึ่งในภาพยนตร์ดีมีคุณภาพและมีการการันตีจากหลาย ๆ สถาบันภาพยนตร์ หนึ่งในภาพยนตร์ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจและมีอิทธิพลต่อภาพยนตร์ซอมบี้ในยุคปัจจุบันหลายๆ เรื่อง
ใครยังไม่เคยดู หยิบหามาดูได้เลยนะครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies 0 - 9 Tagged with: รีวิวหนังสยอง, หนังซอมบี้, หนังสยอง 28 Days Later, หนังสยองขวัญ