One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2
December 15th, 2012 by ฟิล์มสยอง
One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

One Missed Call 2 (Chakushin ari2) (2005)
สายไม่รับ…ดับสยอง 2
นำแสดง: Mimura(Kyoko), Yu Yoshizawa(Naoto), Asaka Seto(Takako), Renji Ishibashi (Motomiya), Peter Ho (You Ting)
กำกับ: Renpei Tsukamoto
เขียนบท: Minako Daira
ประเภท: Horror

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

One Missed Call 2 (2005) สายไม่รับ ดับสยอง ภาค 2

เรื่องนี้ ลุง Takashi Miike ไม่ได้กำกับครับ แต่เป็นผลงานการกำกับของ Renpei Tsukamoto ซึ่งผู้กำกับคนนี้ กำกับหนังมาหลากหลายแนวทางเหลือเกินไม่ว่าจะเป็น Drama, Horror จนถึงหนังวัยรุ่นให้แง่คิดอย่างเรื่อง Dragon Sakura หรือชื่อไทย “นายซ่า ท้าเด็กแนว” หนังทีวีซีรีย์ที่ทางไอทีวีนำมาฉายและเพิ่งจบไปไม่นานนี้เอง ต้องขอชมว่าเขาเป็นผู้กำกับมากความสามารถในหนังหลากหลายรูปแบบ แต่ไม่ถึงเป็นปรมาจารย์หนังคัลต์ในแขนง Horror คุณจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนในหนังของ Takashi กับ Renpei หนังของ Takashi จะกำกับได้ออกมาในมุมมองที่อึดอัด การตัดภาพย้อนไปย้อนมา ไปจนถึงฉากแหวะทั้งการฆ่าไปจนถึงผีในมุมมองของ Takashi ทำออกมาได้รุนแรงและสยอง ในขณะเดียวกัน หนัง Horror ที่ Renpei กำกับนั้นจะมีแนวทางของ Drama หรือ Romantic เข้ามาผสมด้วย (ในทุกเรื่องที่เขาเคยกำกับมา) ใน One Missed Call ภาคสองนี้ก็เช่นกัน ดูไปดูมาจนถึงตอนจบ ยังนึกว่านั่งดูหนัง Romance Drama สุดเศร้าผสม Horror ยังไงยั้งงั้นเลยทีเดียว จะว่าไปแล้วก็เป็นหนัง Horror อีกแบบที่ไม่ค่อยมีผีคลานหน้าขาวยั้วเยี้ยเต็มไปหมดทั้งเรื่อง

ใน One Missed Call 2 แทบจะไม่ค่อยมีฉากเลือดสาด แหวะ สยองเท่าในภาคแรก แต่กลับมีการเล่นบทบาทของตัวละครกับช่วงเวลาได้อย่างน่าสนใจ รวมถึงมุมมองของการ เสียสละ ความรักที่มีให้กันจนยอมตายแทนได้…นี่แหละคือความสามารถของ Renpei

เวลาหนึ่งปีผ่านไป หลังจากที่หลายคนรู้จัก “โทรศัทพ์มรณะ” ผ่านรายการโทรทัศน์ในภาคแรกแล้ว เหตุการณ์กลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ด้วยโทรศัพท์ Missed Call ที่ผู้รับกดรับแล้วต้องเสียชีวิต หนังนำเอานักสืบอาวุโสโมโตมิยะในภาคแรกเป็นตัวละครเชื่อมต่อหนังทั้งสองภาค หนังเริ่มเฉลยข้อสงสัยในภาคหนึ่ง ทั้งเรื่องของยูมิในฉากสุดท้ายที่ถือมืดยืนอยู่ข้างเตียงของพระเอกที่หลายคนคิดว่าเรื่องราวคงจะจบไปด้วยดีแต่อาจจะไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็เป็นได้ จนถึงภูมิหลังทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเด็กผีที่ทำร้ายน้องสาวตัวเอง ตัวหนังพยายามผูกเรื่องให้เห็นที่มาทั้งหมดในภาคแรกไปจนถึงสาเหตุของเรื่องราวความโกรธแค้นทั้งหมดที่มีที่มาจากไต้หวัน ในหมู่บ้านเหมืองแร่ ต้นตอความโกรธแค้นทั้งหมดมีมาจากเด็กคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์รับรู้ว่า “ใครจะตายภายในกี่วัน” ไอ้พรสวรรค์ที่ว่าเนี่ย มันเกิดมาจากว่า ในหมู่บ้านมีโรคระบาด และสาวน้อยคนนี้แหละ พอจะรู้ว่าภายในกี่วันใครจะต้องตาย คนในหมู่บ้านไม่เชื่อเรื่องโรคระบาด กลับไปคิดว่า คำพูดที่ออกจากปากของเด็กคนนี้เป็นคำสาปมรณะที่เมื่อไร สาวน้อยพูดขึ้นมาว่าใครจะตาย แล้วคนคนนั้นจะต้องตายจริง…และนี่แหละคือสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดทั้งภาค 1 และภาค 2 หนังพยายามผูกคนทั้งหมดเกี่ยวเข้าด้วยกัน ให้เห็นว่า หนังมีน้ำหนักในความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครทั้งหมด

หนังเพิ่มความซับซ้อนจากการรับโทรศัทพ์ที่มีเสียงริงโทนมรณะแล้วคนรับจะต้องตายในภาคแรก มาเป็นเรื่องราวที่ว่า ริงโทนที่ดังมาที่โทรศัพท์ไม่จำเป็นต้องเป็นมือถือของตนเอง หากแต่ใครก็ตามที่รับโทรศัพท์ต้องตาย และตรงจุดนี้เอง Renpei นำมาเป็นจุดสำคัญในการพลิกเรื่องตอนจบที่มีการเสียสละชีวิตเพื่อคนรัก

ดูได้เรื่อยๆ ครับ สำหรับภาคสอง เป็นเหมือนหนังเฉลยเรื่องราวใน One Missed Call ทั้งหมด ใครที่หวังจะให้มีฉากผวา ซาดิสม์ สะดุ้งถี่ยิบอย่างในภาคแรก อาจจะต้องผิดหวังกันบ้าง ใครสนใจลองหามาดูได้…

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.50 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 3.0/5 (1 vote cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: , , , ,

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike
December 15th, 2012 by ฟิล์มสยอง
One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

One Missed Call (Chakushin ari)(2003)
สายไม่รับ…ดับสยอง
นำแสดง: Kou Shibasaki (Yumi Nakamura), Shinichi Tsutsumi (Hiroshi Yamashita), Mariko Tsutsui (Mizunuma Marie), Kazue Fukiishi (Natsumi Konishi), Atsushi Ida (Kawai Kenji), Renji Ishibashi (Motomiya Detective), Goro Kishitani (Oka), Yutaka Matsushige (Fujieda Ichiro), Anna Nagata (Okazaki Yoko)
กำกับ: Takashi Miike
เขียนบท: Yasushi Akimoto, Minako Daira
ประเภท: Horror

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

One Missed Call (2003) สายไม่รับ ดับสยอง ผลงานจาก Takashi Miike

“เขาเล่ากันว่า…
มีผู้หญิงคนหนึ่งตาย เพราะความเครียดแค้นชิงชัง…
เธอจะคืบคลานมาหาเราผ่านมือถือ…
จากหน่วยความจำหนึ่งไปสู่หน่วยความจำหนึ่ง…
ไปสู่คนต่อๆ ไป…”

คุณจะรู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้ามีโทรศัพท์ที่ขึ้นชื่อตัวของคุณเองโทรเข้ามา ทิ้งเป็น Missed Call ไว้ และเมื่อคุณกดฟังข้อความนั้น กลับกลายเป็นเสียงของตัวคุณเอง และเป็นเสียงในอนาคตที่เป็นสัญญาณเตือนบอกว่า ‘คุณกำลังจะตาย!’

หนังเริ่มด้วยภาพของการสังสรรค์ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์ของหนุ่มสาวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่กำลังจะจัดทริปไปเที่ยว พร้อมกับการแลกเบอร์มือถือกันไว้ ระหว่างการสังสรรค์โทรศัพท์ของสาวในกลุ่มดังขึ้น พร้อมด้วยเสียงริงโทนที่เธอไม่เคยได้ตั้งเอาไว้ เสียงริงโทนดังจนหยุดไปและขึ้นข้อความ ‘missed call’ – ‘สายที่ไม่ได้รับ’ เมื่อสาวในกลุ่มกดฟังข้อความเสียงนั้น ปรากฏว่าเป็นเสียงของตัวเธอเองที่กำลังประสบความหายนะอยู่ และที่สำคัญข้อความที่ถูกส่งมานั้น ระบุวันที่อีกสามวันข้างหน้า…ความตายเริ่มคืบคลานไปสู่ผู้ที่มีชื่อในโทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องกัน และเมื่อมี Missed Call เข้ามาด้วยเสียงริงโทนสุดสยองนั้นแล้ว เขาผู้นั้นจะต้องตาย!

หลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ หลายคนคงตั้งข้อสงสัยในหลายๆ เรื่อง หรืออาจจะคิดว่าหนังไม่ค่อยมีเหตุผลในเหตุการณ์หลายๆ ตอน ผมก็เป็นคนนึงที่คิดเช่นนั้นเหมือนกัน อย่างแค่ตอนจบที่ยูมิถือมีดยืนอยู่ข้างเตียงของยามาชิตะ พระเอกผู้ซึ่งตามหาความจริง เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับน้องสาวของเขาเองด้วย ยูมิก้มลง และคายลูกอมเม็ดสีแดงกลมโตให้ ยามาชิตะอมลูกอมและยิ้ม ซาวนด์ประกอบก็เปลี่ยนเป็นเพลงดนตรีสดใส ราวกับว่าเรื่องราวร้ายๆ ได้ผ่านพ้นไปแล้วนั้น…หลายคนคงนึกว่าเป็นอย่างงี้หรือเปล่าครับ ถ้าใช่..คุณอาจคิด ผิดครับ หากได้ดู One Missed Call : 2 ที่จะเฉลยข้อกังขา และความข้องใจในหลายๆ เรื่องได้ ยังไงลองหามาดูภาคสองด้วยละกัน

หนังเรื่องนี้ได้นางเอกมากความสามารถ ‘Shibasaki Kou’ เจ้าบทบาทแห่งหนังโคตรโหดอย่าง Battle Royal และพระเอกในเรื่องนี้เราคงคุ้นหน้ากันเพราะเป็นตัวนำในละครซีรีย์ญี่ปุ่นที่ชื่อ GoodLuck ซีรีย์ชื่อดังที่ไอทีวีนำมาฉาย เรียกว่านักแสดงในเรื่องมีส่วนช่วยให้ตัวหนังแข็งแรง และน่าดูมากยิ่งขึ้น

มาดูในส่วนของผู้กำกับหนังเรื่องนี้กันบ้าง…ลุง Takashi Miike ผู้กำกับหนังคัลต์ที่ทำหนังได้โรคจิตไม่เสื่อมคลายมารับหน้าที่กำกับหนังเรื่องนี้ ในเรื่องนี้ MinaKo Daira และ Yasushi Akimoto เขียนบท โดยใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนเรา นั่นคือ โทรศัพท์มือถือ มาเป็นตัวดำเนินเรื่อง ลุง Takashi แกมีเอกลักษณ์ในแผ่นฟิล์มดีครับ ดูแล้วได้อารมณ์ ราวกับมีลายเซ็นบนแผ่นฟิล์มอย่างไงอย่างงั้น สิ่งหนึ่งที่ลุง Takashi ชอบใช้ในหนังของแก คงไม่พ้น เรื่องราวที่มีอดีต เรื่องของการกดขี่เพศหญิง ความสัมพันธ์แบบวิปริตของครอบครัว และเรื่องนี้ก็เช่นกัน “ความรู้สึกแย่ๆ ที่มีต่อแม่” คือ สิ่งที่ยูมิ และผีเด็กที่มีความรู้สึกเดียวกัน การสื่อสารและจิตใต้สำนึกสามารถสื่อเข้าถึงกันได้…ลุง Takashi แกทำหนังเอาคนงงได้ไม่น้อยจากจุดตรงนี้…เรียกว่าหนังมันสามารถจินตนาการออกมาได้หลายรูปแบบครับ ลองคิดเล่นๆ กันไปก่อน และหาภาคสองมาดู น่าจะเฉลยข้อสงสัยหลายๆ อย่างได้ เห็นทางฮอลิวูดมีโครงการจะนำหนังเรื่องนี้มารีเมคกันด้วย คาดว่าถ้าทำออกมาจะเสร็จในปี 2007 นี้ ก็คงเหมือนหนังญี่ปุ่นหลายๆ เรื่องที่ถูกนำไปทำใหม่ในเวอร์ชั่นของฮอลิวูด คงต้องรอติดตามดูกันต่อไปครับ …


“พี่ชายคะ…คนแต่ละคนมีชะตาเป็นของตัวเอง” คำพูดที่เสมือนคีย์เวิร์ดของหนังเรื่องนี้ ก็ว่าได้ครับ…

อัพเดท 15/12/2012: ผมรีวิวหนังเรื่องนี้สักประมาณปี 2006 ได้นะครับ ก่อนหน้านี้ที่เขียนว่ามีข่าวว่าฮอลิวู้ดจะซื้อหนังเรื่องนี้ ก็เป็นไปตามนั้นนะครับ มีการซื้อและทำออกมาในฉบับฮอลิวู๊ดในปี 2008 ที่ผ่านมานี่เอง ใครได้ดูฉบับฮอลิวู้ดแล้ว ก็แสดงความคิดเห็นกันหน่อยครับว่าเป็นยังไงบ้าง เพราะผมยังไม่ได้ดูเลย ไว้มีโอกาสได้ดูจะนำมาเขียนให้ได้อ่านกันต่อไปครับ

โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00


VN:F [1.9.22_1171]
Rating: 4.7/5 (3 votes cast)

Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: , , , , , ,