Guinea Pig: Mermaid in the Manhole (1988)
Za ginipiggu 4: Manhoru no naka no ningyo
นำแสดง: Shigeru Saiki (The Artist), Mari Somei (The Mermaid), Masami Hisamoto, Tsuyoshi Toshishige
กำกับและเขียนบท: Hideshi Hino
ประเภท: Horror
เรื่องย่อ: จิตรกร ศิลปินผู้หนึ่ง ไปพบกับนางเงือกนอนบาดเจ็บอยู่ในท่อระบายน้ำใต้ดินแถวบ้าน เขานำนางเงือกตัวนั้นกลับมาบ้านด้วย นางเงือกที่เต็มไปด้วยบาดแผล ได้รับบาดเจ็บ ดูท่าทางจะไปไม่รอด แต่จิตรกรผู้นั้นก็พยายามจะรักษาชีวิตของเธอไว้ให้ได้นานที่สุด เขาได้เริ่มวาดรูปนางเงือกตั้งแต่นำเธอขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ ภาพนั้นเต็มไปด้วยความรัก หนังโรแมนติกสยองขวัญระหว่างจิตรกร กับนางเงือกในสไตล์ของ Guinea Pig ที่ห้ามพลาดครับ…
สวีตสยอง…
Hideshi Hino นักวาดการ์ตูน ผู้กำกับจิตเพี้ยน เราคงได้รู้จักเขาตั้งแต่ซีรีย์ Theater of Horror และเป็นที่จดจำในผลงานเรื่อง Guinea Pig : Flower of flesh and Blood คราวนี้ เขาสวมบทจิตรกร นักวาดภาพผู้ซึ่งพบกับสัตว์ครึ่งคน “นางเงือกแสนสวยและสุดเซ็กซี่” ที่ดันมานอนบาดเจ็บปางตายอยู่ในท่อระบายน้ำทิ้ง ของเสีย ความรัก ความห่วงใยได้เริ่มต้นขึ้นระหว่าง คน และสัตว์ครึ่งคน สิ่งที่ Hideshi พยายามถ่ายทอดเรื่องราวความรักของทั้งสอง ผ่านความสยอง แหวะ เลือดสาด ในสไตล์ Guinea Pig นั้น ทำออกมาได้ตรึงผู้ชมดีเหลือเกิน ผมว่า ถ้าทำออกมาในเวอร์ชั่นปกติ ไม่เลือดอาบ แผลแหวะ ผุผอง หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนังรักโรแมนติก ราวกับหนังรักสองภพ อะไรทำนองนั้นได้เลยแหละ
ตามบทความในเว็บไซต์ official ของ Guinea Pig เล่าไว้ว่า เรื่องนี้ เป็นตำนานรักสยองของญี่ปุ่น เหมือนกับที่บ้านเรามี ตำนานรักนางนาก ไอ้มาก ประมาณเดียวกันนั้นเลยก็ว่าได้ มันเหมือนกับว่าเป็นเรื่องเล่าจากรูปภาพวาด ที่มีที่มาที่ไปของจิตรกรผู้ต้องการส่งสารบางอย่าง ที่ทำให้คนดูใช้จินตนาการต่างๆ นานา ขยายความคิด ฟุ้งซ่านออกไปได้เอง โดยที่เจ้าของภาพไม่ต้องมานั่งบอกถึงที่มา…
ตำนานสยองเพี้ยนๆ ในญี่ปุ่นนั้นมีมากมาย จนเราสุดที่จะจินตนาการได้เลยครับ เราจะเห็นจากได้ภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องที่พอเราดูแล้วก็รู้สึกว่า นี่เหรอวะ…ตำนานสยองขวัญของญี่ปุ่น ซึ่งบางทีเราดูแล้วอาจจะกลายเป็น หนังสัตว์ประหลาด หนังฮาๆ ไปได้ แต่เท่าที่ได้ทราบจากเพื่อนชาวญี่ปุ่น (หัวโบราณ) เขาบอกว่า คนโบราณเชื่อถือเรื่องราวเหล่านี้มาก และมันเป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะคนโบราณ ที่จะสร้างเรื่องเล่า ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เอาไว้หลอกเด็กให้เชื่อ เหมือนกับเรื่องเล่าของไทยเรา อาทิ ห้ามตัดเล็บในเวลากลางคืน ห้ามเล่นหมากเก็บในเวลากลางคืน ทำนองนี้เป็นต้น
แต่การได้เสพตำนานของแต่ละชาติ แต่ละประเทศ ก็เหมือนกับได้เรียนรู้วัฒนธรรมโบราณของบ้านเขาเลยนะ…ผมว่า
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: snuff film หนัง guinea pig, ผลงานผู้กำกับ Hideshi Hino, ผู้กำกับ Hideshi Hino, รีวิวหนัง Guinea Pig, รีวิวหนัง Guinea Pig Mermaid in the Manhole (1988), รีวิวหนัง Mermaid in the Manhole, รีวิวหนังโรคจิตญี่ปุ่น, สนัฟฟ์ฟิล์ม, หนังญี่ปุ่นโรคจิต, หนังตระกูล Guinea pig
Guinea Pig: He Never Dies (1986)
Za ginipiggu 3: Senritsu! Shinanai otoko
นำแสดง: Shinsuke Araki (Masatosh Nakamura / Hideshi) Eve (Kyoko), Masahiro Sato (Yoshio)
กำกับและเขียนบท: Masayuki Kuzumi
ประเภท: Short หนังสั้น / Horror / Comedy
เรื่องย่อ: Hideshi หนุ่มออฟฟิศ ผู้ไม่ประสบความสำเร็จอะไรเลยในชีวิต เขาโดนแฟนสาวทิ้ง แถมแฟนสาวผู้นี้ยังไปร่วมหลับนอนกับเพื่อนร่วมออฟฟิศของเขาอีกต่างหาก Hideshi หมดหวังในชีวิต เขาพยายามจะฆ่าตัวตาย แต่ไม่สำเร็จ สิ่งที่เขาคิดได้ในตอนนี้คือ เขาพยายามแก้เผ็ดเจ้าเพื่อนชายตัวแสบที่ไปนอนกับแฟนสาวเขานั้น โดยใช้วิธีโชว์การควักไส้ ควักพุง ให้เจ้าหนุ่มนั้นดู…ฮ่า ฮ่า คิดได้ไงวะ
ข้อเท็จจริงในเว็บ official ของ Guinea Pig Film
หนังเรื่องนี้สร้างจากข้อมูลจริงของทางตำรวจโตเกียว เรื่องเล่ามีอยู่ว่า ตำรวจได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากบุคคลซึ่งดูเหมือนจะเสียสติไปแล้วแจ้งว่า เขาได้พบชิ้นส่วนของเพื่อนตัวเองในอพาร์ทเม้นท์ อยู่เกลื่อนกลาดทั่วพื้นห้องเต็มไปหมด ตำรวจได้รีบเข้าไปดำเนินการ และได้เก็บชิ้นส่วนทั้งหมด ให้ทางหน่วยตรวจพิสูจน์หลักฐาน ข้อเท็จจริงออกมา ปรากฏว่า ชิ้นส่วนทั้งหมดนั้นเกิดจากการกระทำ ด้วยมือขวาของเหยื่อนั้นเอง เป็นเหมือนการฆ่าตัวตายอย่างโหดเหี้ยม เกิดกว่าจะเชื่อได้ว่า ชิ้นส่วนที่หลุดออกมาจากร่างกายนั้น เป็นผลงานการเจาะ ทะลวง กรีด กระซวก ด้วยมือของผู้ตาย ตำรวจสันนิษฐานว่า อาจจะมาจากฤทธิ์ของยาเสพติดที่ทำให้ ผู้ตายไม่เกิดอาการเจ็บปวดในขณะที่กรีดร่างกายของตัวเอง แต่ก็ยังไม่พบหลักฐานในส่วนของยาเสพติด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีอีกสองคดีที่เกิดขึ้นในโลกนี้ คดีแรกเกิดที่บราซิล และอีกคดีเกิดที่อินเดีย ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องในเรื่องของศาสนาทั้งสองคดี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นที่โตเกียว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของศาสนาแต่อย่างใด คดีในโตเกียวปิดลงวันที่ 12 กันยายน 1998 โดยสรุปสำนวนทั้งหมดว่า ขาดพยาน หลักฐานในการยืนยันว่า เหยื่อถูกฆาตรกรรม สำนวนสรุปลงเพียงแค่ว่า “..เป็นการฆ่าตัวตาย..”
ฮากอร์…
หนังสั้นในแบบ Guinea Pig มากันอีกแล้ว ต้องบอกก่อนเลยครับ หนังไม่ได้ใส่ความซีเรียส โหด ทะลุก ในแบบ Guinea Pig : Flower of flesh and blood แต่กลับใส่มุกฮาๆ เข้าไปในเรื่อง (อย่างจงใจ) แต่สิ่งที่ซีรีย์ Guinea Pig ไม่เคยลืมคือ ใส่ความสยองโหด เลือดสาด เสียวไส้ในแบบ Gore เข้าไปให้เราดูด้วยตลอดทั้งเรื่อง ขอขนานนามประเภทหนังใหม่เป็น “ฮากอร์” ครับ..ผมนั่งดูเรื่องนี้กับคุณแม่ยังฮาครับ รับประกันสยองฮาได้เลยย!
โดย ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร
Rating: 2.69 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: snuff film หนัง guinea pig, ผลงานผู้กำกับ Masayuki Kuzumi, ผู้กำกับ Masayuki Kuzumi, รีวิวหนัง Guinea Pig, รีวิวหนัง Guinea Pig He Never Dies 1986, รีวิวหนัง He Never Dies, รีวิวหนังโรคจิตญี่ปุ่น, สนัฟฟ์ฟิล์ม, หนังญี่ปุ่นโรคจิต, หนังตระกูล Guinea pig
Death Proof (2007)
Grindhouse: Death Proof
กำกับและเขียนบท: Quentin Tarantino
นำแสดง:
Zoe Bell (Zoe segment “Death Proof”)
Michael Biehn (Sheriff Hague segment “Planet Terror” และ The Sheriff segment “Thanksgiving”)
Rosario Dawson (Abernathy segment “Death Proof”)
Vanessa Ferlito (Arlene/”Butterfly” segment “Death Proof”)
Marcy Harriell (Marcy segment “Death Proof”)
Eli Roth (Dov segment “Death Proof” และ Tucker segment “Thanksgiving”)
Kurt Russell (Stuntman Mike segment “Death Proof”)
Nicolas Cage (Fu Manchu segment “Werewolf Women of the SS”)
Danny Trejo (Machete segment “Machete”)
ประเภท: Action / Horror / Thriller
Grindhouse หนังควบสองเรื่อง ที่ทำขึ้นมารำลึกถึงโรงหนังในยุค 30’s – 40’s ซึ่งโรงหนังดังกล่าว นิยมฉายหนังจำเพาะหนังแนวโหด รุนแรงสุดขั้ว นู้ดสุดเสียว และที่สำคัญ สไตล์ของโรงหนังเกรดบีพวกนี้ จะฉายควบวนไปตลอดวัน ด้วยไอเดียนี้นี่เอง นาย Tarantino กับ Rodriguez จึงเกิดความคิดที่อยากจะทำหนังสไตล์ยุค 60’s – 70’s ฉายในนาม ‘Grindhouse’ ในความเป็นจริงหนังรุนแรงมากเกินกว่าที่จะฉายตามโรงธรรมดาได้ ทางตัวแทนจำหน่ายจึงได้หั่นท่อนโหดๆ ไปหลายตอนอยู่ ใครสนใจเก็บฉบับ Director Cut ฉบับดีวีดีกันได้ครับ
Deathproof
เรื่องราวของ Stuntman Mike ที่มีรถสังหาร เป็นอาวุธคู่ชีพ สำหรับปลิดชีวิตเหยื่อ โดยการตามล่าพวกหล่อนไปตามถนน แล้วบี้ บี้ บี้ ชน ให้กระจาย นี่แหละ คืออาวุธสุดโหดของ Stuntman Mike ที่มี Kurt Russell แสดงนำ
Deathproof เป็นหนังที่บทพูดในแบบ Girl’s talk มีค่อนข้างเยอะ เพราะเกือบตลอดทั้งเรื่อง คุณจะได้ยินพวกหล่อน สบถ fuck , fuck ,..fuck..อยู่ตลอด ซึ่งบทสนทนาที่ยืดยาวขนาดนี้ อาจจะทำให้คุณเบื่อไปเลยก็เป็นได้ ชวนให้เกิดความรู้สึกเหมือนดูหนังของ Eli Roth เรื่อง Hostel ที่กว่าเกือบชั่วโมงที่ดูเป็นเหมือนหนังวัยรุ่นทั่วไป แต่ภาคหลังกลับกลายเป็นหนังสุดโหดไปได้ยังไง แต่อย่างว่า หนังในสไตล์ของ Tarantino คุณอย่าเพิ่งตัดสินเรื่องราวทั้งหมดไปก่อน ตั้งใจกับบทสนทนาในเรื่อง เพราะมันจะนำคุณไปสู่เนื้อหาที่สนุกสนาน รอพบกับยี่สิบนาทีสุดท้ายของหนังที่เต็มไปด้วยความระทึก ในฉากความเร็ว การไล่ล่า จากผู้ล่า กลายมาเป็น ผู้ถูกล่า จากผู้ถูกล่า กลายมาเป็น ผู้ล่าสุดโหด ตรงจุดนี้ Tarantino ทำให้สนุกสนานเกินคาดจริงๆ
ใน Deathproof ได้ดาราฝีมือดีอย่าง Kurt Russell มาเป็น Stuntman Mike แกเล่นได้ฮาหน้าเครียดดีครับ นอกจากดาราแม่เหล็กอย่าง Russell แล้ว ยังมี Eli มาเป็นนักแสดงรับเชิญด้วย ถึงแม้ผลงานการกำกับของ Tarantino จะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านหนัง Horror เท่าไรนัก แต่ฝีมือการกำกับในหนังอย่าง Pulp Fiction (1994), หนังตระกูล Kill Bill vol. 1&2 (2003, 2004), หนังที่เอางานของ Frank Miller มาสร้างเป็นหนัง Sin City (2005) ไปจนถึงการกำกับซีรีย์ CSI ผลงานเหล่านี้ล้วนแล้วการันตีความสามารถ และชื่อเสียงของเขาได้เป็นอย่างดีครับ ใครเคยประทับใจกับผลงานเหล่านี้แล้ว อย่าพลาด Deathproof หนัง Action / Horror โหดๆ ดิบ ๆ เถื่อน ๆ
Rating: 4.00 / 6.00
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: ผลงานของ Quentin Tarantino, ผู้กำกับ Quentin Tarantino, รีวิวหนัง Death proof, รีวิวหนัง Death proof grindhouse, รีวิวหนัง Grindhouse, รีวิวหนังผลงาน Quentin Tarantino, หนัง Grindhouse
Grindhouse (2007) : Planet Terror
กำกับและเขียนบท: Robert Rodriguez
นำแสดง: Bruce Willis (Lt. Muldoon segment “Planet Terror”)
Naveen Andrews (Abby segment “Planet Terror”)
Josh Brolin (Dr. William Block segment “Planet Terror”)
Leroy Castanon (Sicko segment “Planet Terror”)
Stacy Ferguson (Tammy segment “Planet Terror”)
Carlos Gallardo (Deputy Carlos segment “Planet Terror”)
Nicky Katt (Joe segment “Planet Terror”)
Rose McGowan (Cherry Darling segment “Planet Terror”
ประเภท: Action / Horror / Sci-Fi / Thriller
Grindhouse หนังควบสองเรื่อง ที่ทำขึ้นมารำลึกถึงโรงหนังในยุค 30’s – 40’s ซึ่งโรงหนังดังกล่าว นิยมฉายหนังจำเพาะหนังแนวโหด รุนแรงสุดขั้ว นู้ดสุดเสียว และที่สำคัญ สไตล์ของโรงหนังเกรดบีพวกนี้ จะฉายควบวนไปตลอดวัน ด้วยไอเดียนี้นี่เอง นาย Tarantino กับ Rodriguez จึงเกิดความคิดที่อยากจะทำหนังสไตล์ยุค 60’s – 70’s ฉายในนาม ‘Grindhouse’ ในความเป็นจริงหนังรุนแรงมากเกินกว่าที่จะฉายตามโรงธรรมดาได้ ทางตัวแทนจำหน่ายจึงได้หั่นท่อนโหดๆ ไปหลายตอนอยู่ ใครสนใจเก็บฉบับ Director Cut ฉบับดีวีดีกันได้ครับ
Planet Terror
เมื่ออาวุธเคมีรั่วไหลจากฝีมือของเจ้านักวิทยาศาสตร์หน้าเลือด ระห่ำ สุดต๋อง เมืองทั้งเมืองต้องลุกเป็นไฟ จากสงครามระหว่างคนกลายพันธุ์ กับ คนจริงๆ…ไม่ต้องเดาพล็อตเรื่องให้เสียเวลาครับ หนังแบบนี้ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปหารับชมกันเองจะดีกว่า
หนังมีดารารุ่นใหญ่อย่าง เฮียบรู๊ซ วิลลิส มาร่วมแสดงด้วย แต่เขาไม่ได้มีบทบาทอะไรมากมาย ไปกว่า มาเป็นเกียรติให้กับ Robert Rodriguez หนุ่มผู้สร้างสรรงานดีมีคุณภาพอย่าง Sin City ที่มีเฮียวิลลิสแสดงนำมาก่อนหน้านั้น นอกจากเฮียวิลลิสที่มาจาก Sin City แล้ว เท่าที่ผมคุ้นๆ หน้า ก็มี Nicky Katt
นอกจากนั้นก็มีนักแสดงฝีมือดีอีกหลายคน อาทิ สาว “Cherry สุดฮอตกับลีลานักเต้นฆ่าขาเดียว” ที่ได้ Rose McGowan สาวสวยมั่กมาก ^^ จาก The Black Dahlia หนัง Crim Thriller Drama ชั้นดี ปี 2006, Freddy Rodriguez คุณน่าจะคุ้นเคยกับเขาคนนี้จาก Poseidon หนังรักเรือร่มฉบับ Action ปี 2006, Josh Brolin หนุ่มรุ่นใหญ่เครางามจาก Into The Blue (2005)
ฉากโหด แปลก แหวกแนว ที่ทำให้เราอมยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง (หนังสยอง หรือหนังตลกฟะ!?!) ในแบบที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นกันในหนังธรรมดาๆ เท่าไรนัก อาทิ ร่วมรักระหว่างพระเอกวายร้าย กับสาวขาเดียว Cherry สุดเซ็กส์ซี่มันช่างเร่าร้อนพิกลเหลือคณา, เจ้าพระเอกวายร้ายเจ้ามอเตอร์ไซด์คันจิ๋ว ยิ่งแล้วกับ…ยี่สิบนาทีสุดท้ายของหนังที่เต็มไปด้วยฉาก Action สุดเพี้ยนของสาวฮอตขาเดียว ‘Cherry’ เมื่อหล่อนถูกสั่งให้เต้นรำด้วยขาข้างเดียว กับขาไม้อีกข้างด้วยความกล้ำกลืน ก่อนที่จะเริ่มต้นความรุนแรงสุดขั้วของหนัง เมื่อหล่อนเปลี่ยนจากขาไม้เป็นขาปืนกลดุ้นเท่าแขนมัดกล้าม ลีลาสาวนักเต้น อะ โก โก หลากหลายท่วงท่า กลายมาเป็นลีลา Action มัน มัน ปนความฮา มัน สยอง ก็เริ่มต้นแบบไร้ที่ติ..ลองไปดูกันเอาเองครับว่าจะมันจริงอย่างว่าหรือเปล่า…
หนังซอมบี้สุดเพี้ยนที่เต็มไปเลือดลีลา Action ลาตินมันสุดตีน และเลือด เลือด เลือด ท่วมจอ!!! ฉากสยอง แหวะ มีทุกรูปแบบที่คุณเคยสัมผัส และไม่เคยสัมผัสมาก่อนครับ อารมณ์บู๊ล้างผลาญ สไตล์คาวบอยแม็กซิกัน ผสมพันธุ์กับอารมณ์ Gore Zombie กลายมาเป็น หนัง Action Horror Sci-Fi พันธุ์สยองผสม ทีเด็ดแห่งปี 2007 เลย!
นอกจากคุณจะได้ดูหนังมันๆ มาทั้งเรื่องแล้ว คุณยังจะได้ดู Fake Trailer Clip หนังสยองที่ทำขึ้นปลอมๆ น่าสัมผัสดูอีกเพียบอาทิ Don’t (ผลงานของ Edgar Wright) , Werewolf Women of the SS(ผลงานของ Rob Zombie), Thanksgiving(โหดโคตร! : ผลงานของ Eli Roth) รับรองความโหด แหวะ สยอง ไปชำเรากันได้เลย!
Rating: 6.66 / 6.66
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: Grindhouse (2007) : Planet Terror, ผู้กำกับ Robert Rodriguez, รีวิวหนัง Grind house, รีวิวหนัง โคโยตี้ แข้งปืนกล, หนัง grind house planet terror, หนัง Robert Rodriguez, หนังของ Robert Rodriguez
GUINEA PIG : Flower of flesh and blood (1985)
นำแสดง: Kirara Yugao, Hiroshi Tamura
กำกับและเขียนบท: Hideshi Hino
ประเภท: Horror/Crime/Snuff Film
หนังอีกเรื่องที่ผู้ปกครองควรพิจารณาและแนะนำ เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ผู้หญิงและคนชราไม่ควรดู!
“Guinea Pig” ซีรีส์โหดเหี้ยมผิดมนุษย์ และมีความสมจริงเกิดกว่าการ แยกแยะออกระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง กับการถ่ายทำจัดฉาก Guinea Pig ประกอบด้วยซีรีส์หลายตอน อาทิ The Devil’s Experiment, Flower of flesh and blood, He Never Dies ตอนที่ผมกำลังจะเสนอคือ ตอน “Flower of Flesh and Blood”
เรื่องราว…
Flower of Flesh and Blood กำกับโดย Hideshi Hino นักเขียน การ์ตูนสยองขวัญชื่อดังของญี่ปุ่น เขานำเรื่อง “Akai Hana” มาทำเป็น หนังที่ฉายเรื่องราวในลักษณะของหนังสั้นกึ่งสารคดี “วิธีการฆ่าหั่นศพ” ของฆาตรกรเลือดเย็น ที่สวมใส่ชุดซามูไร หนังสั้นกึ่งสารดคีที่มีฆาตรกรใน ชุดซามูไรบอกเล่าและกระทำการฆ่าเหยื่อตั้งแต่การให้ยาที่มีความรุนแรงถึง ขนาดที่ทำให้เหยื่อไร้ความรู้สึก แต่ในขณะเดียวกันเหยื่อยังคงเมา งง และมี ลมหายใจอยู่ เจ้าฆาตรกรโหดเริ่มหั่นชั้นส่วนของเหยื่อออกทีละชิ้น ทีละชิ้น ตั้งแต่ แขน ขา ผ่าท้องควักไส้ ไปจนถึงตัดคอ และควักลูกตาเอามาดูดเล่น ราว กับเด็กน้อยได้อมยิ้มช็อกกาจุ๊บจากแม่…โอ้ว…มีแต่เลือดครับ เลือด เลือด และก็ เลือดท่วมจอกันทีเดียว หลังจากเหยื่อถูกตัดเป็นชิ้นส่วนหมดแล้ว ฆาตรกรใน ชุดซามูไรก็พูดต่อหน้ากล้องขอแสดง Collection ชิ้นส่วนมนุษย์ มันเดิน หน้านำกล้องไปที่ห้อง Collection ราวกับพิพิธภัณฑ์ชิ้นส่วนมนุษย์…หัว แขน ขา ลำไส้ มือ ลูกตา เต็มไปด้วยหนอนชอนไชกัดกินอย่างเมามัน ภาพที่ แสดงให้เห็นถึงหนอนตัวอ้วน อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารที่เป็นเนื้อมนุษย์ ช่าง น่าขยะแขยงเสียยิ่งกระไร…ผมคงบรรยายได้ไม่หมดครับ คงต้องไปเสาะหา มาดูกันเอง
นี่คือสนัฟฟ์ฟิล์ม (Snuff Film) แท้หรือเทียม…
ในช่วงต้นของหนังสั้นสารคดีเรื่องนี้ได้กล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้ หลายคนคิดว่า นี่คือสนัฟฟ์ฟิล์มของแท้ (หาอ่านรายละเอียดได้ในบทสัมภาษณ์ในดีวีดี และ ช่วงต้นของหนังก็จะมีบอกเล่าเหตุการณ์ให้ฟังเช่นกัน)
หนังสั้นสารคดีเรื่องนี้เป็นข่าวดังเมื่อถูกนำไปเผยแพร่ในต่าง ประเทศ ตามงานปาร์ตี้และกลุ่มเพื่อนผู้นิยมดูหนังประเภทนี้ หลายคนที่ได้ดู ปักใจเชื่อว่ามันเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นจริง! และยิ่งในหนังเรื่อง 8 MM. ที่มี นิโคลัส เคจแสดงนั้น ตอนหนึ่งในหนัง กล่าวถึงภาพที่มีชายในชุดซามูไรถือ ชิ้นส่วนของร่างกายมนุษย์อยู่ด้วย นั่งคือภาพจากหนังเรื่อง Flower of Flesh and Blood นั่นเอง สิ่งนี้ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้หลายคนเชื่อว่า หนังสั้นสารคดีเรื่องนี้เป็นสนัฟฟ์ฟิล์มแท้!
สิ่งพิสูจน์ความจริง…
ในดีวีดีนี้ ทาง Hideshi Hino ได้เก็บภาพของเบื้องหลังการถ่ายทำไว้ด้วย ซึ่งตรงนี้เอง เป็นหลักฐานพิสูจน์ว่า หนังเรื่องนี้เป็นการจัดฉากสร้างขึ้น มิได้ เป็นสนัฟฟ์ฟิล์มแท้อย่างที่เข้าใจกัน..หลักฐานดังกล่าว ทำให้ โปรดิวเซอร์ Satoru Ogura และ ผู้กำกับ Hideshi Hino พ้นจากข้อกล่าวหาการทำ หนังสนัฟฟิ์ฟิล์ม
Hideshi Hino…
นักวาดการ์ตูนสยองขวัญ (Manga) ชื่อดัง และถูกยกย่องให้เป็นปรมาจารย์ นักวาดการ์ตูนสยอง “คัลต์” คนหนึ่งในญี่ปุ่นด้วย Hideshi Hino เริ่มต้นวาดการ์ตูนออกสู่สาธารณชนครั้งแรก ตอนอายุ 22 ปี ในเรื่อง Tsumetai Ase เขาเป็นแฟนพันธุ์แท้ของผู้กำกับหนังคัลต์อีกคนชื่อ Akira Kurosawa ขณะปัจจุบัน เขาประกอบอาชีพเป็นนักวาดการ์ตูนมาร่วม 30 กว่าปีได้ อันที่จริงผมอยากจะเขียนถึงนักวาดการ์ตูน/ผู้กำกับคนนี้ ตั้งแต่ ได้ดูซีรีส์ Theater of Horror หนังสั้นสุดคัลต์ 6 ตอน ที่ผมเห็นมีเป็นแผ่น ลิขสิทธิ์ออกมาสี่ตอน ใครอยากดูก็ลองหาแผ่นลิขสิทธิ์มาดูกันได้ เอาไว้จะเล่า ประวัติที่น่าสนใจของ Hino ให้ฟังกันวันหน้าครับ
…ใครเคยได้ยิน “สนัฟฟ์ฟิล์ม/Snuff Film” จากที่พูดกัน หรือจากในหนัง หลายๆ เรื่อง และอยากรู้ว่าจริงๆ สนัฟฟ์ฟิล์มเป็นอย่างไร เป็นหนังประเภท ไหน หน้าตาเป็นอย่างไร ผมแนะนำหนึ่งในซีรีส์ Guinea Pig : Flower of Flesh and Blood ให้คุณลองดู ผมว่าซีรีส์เรื่องนี้เป็นสนัฟฟ์ฟิล์มเทียมที่ มีความสมจริงไม่แพ้สนัฟฟ์ฟิล์มแท้เลยครับ!
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: GUINEA PIG : Flower of flesh and blood (1985), snuff film หนัง guinea pig, รีวิว flower of flesh and blood, รีวิวหนัง Guinea Pig, สนัฟฟ์ฟิล์ม, หนังตระกูล Guinea pig
Grub Girl (2006)
นำแสดง: Brittney Skye, Charmane Star, Eva Angelina, Gigi, Teanna Kai, Buster Good, Kurt Lockwood, Talon, Tony T.
กำกับและเขียนบท: Craven Moorehead
ประเภท: Horror Porn / Gore
จากการ์ตูน Rate XXX ชื่อดังของ Ed Lee ถูก Craven Moorehead ถ่ายทอดลงแผ่นฟิล์มออกมาในสไตล์ Porn / Gore นำแสดงโดยนักแสดงหนังโป๊ชื่อดัง Brittney Skye สาวผู้มีแผลเป็นเต็มตัว เป็นรอยร้าวในอดีตที่ไม่สามารถลบออกไปจากใจได้ เธอจะมาเล่าเรื่องราวของเธอ เรื่องราวอันสุดแสนรันทด หญิงสาวผู้ทำทุกอย่างเพื่อค้นหาความยุติธรรม และล้างแค้นกับสิ่งที่เธอถูกกระทำมาตลอด
เรื่องราวจะออกมาในโทนเดียวกับ Porn of the Dead ครับ ขอยกตัวอย่างในฉากเริ่มต้น ที่เริ่มต้นด้วยภาพของ Grub Girl หรือ Brittney Skye ออกมาพูดเล่าเรื่องผ่านกล้อง ถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เธอเคยประสบพบมาในอดีต เรื่องเริ่มต้นในโรงหมอ เหมือนห้องผ่าศพแพทย์สุดหื่นสองคน ยกร่างของ Grub Girl ที่สภาพดูราวศพ นอนนิ่ง และมีแผลเป็นเ แผลสดเต็มตัวไปหมด สภาพศพโดนหมอหื่นสองคนข่มขืนอย่างเมามันไร้ที่ติ ในระหว่างที่หมอหื่นทั้งสอง กระทำชำเราศพอย่างเมามัน จนน้ำแตกถึงจุดสวรรค์สร้าง เมื่อ Grub Girl ได้น้ำจากสวรรค์ เธอก็ตื่นจากสภาพศพ มาร่วมรักกับหมอต่ออย่างเมามันอีกครั้ง Grub Girl ถูกหมออีกคนจับเธอซอยจนถึงสวรรค์ และฉากสยองก็เกิดขึ้น เมื่อเธอถึงจุดสุดยอด โดยการบิดพวงสวรรค์ขาด เสือดสาด กระจุย ราวกับซอมบี้สาวได้น้ำสวรรค์อย่างเดียวไม่พอ ต้องขอเลือดสดๆ ด้วยอีกที่ เป็นดีกว่า…เอายกตัวอย่างไปสักหนึ่งยกนะครับ ใครอยากดูคงต้องไปเสาะแสวงหากันเอาเอง
ฉากจะตัดไปตัดมาระหว่าง การร่วมรักจนเสร็จกิจ ถึงขั้น กัดกิน พวงสวรรค์ ไปจนถึงขึ้น ควักไส้ ควักพุง กัดกินเครื่องใน อย่างเอาเป็นเอาตาย และก็จะตัดกลับมาที่ภาพของ Grub Girl มาเล่าถึงเหตุการณ์ บ่น กร่น ด่า กับผู้กำกับ Craven ถึงผู้ที่เคยทำให้เธอเจ็บปวดอย่างไม่มีวันให้อภัย
ซาวดน์แทร็กในเรื่อง Grub Girl นี้ มีแทร็กที่ได้เฮีย Danzig นักร้อง นักดนตรี ชื่อดังที่ชื่นชอบหนังสยองเป็นชีวิตจิตใจ เพลงของเขาถูกนำไปใช้ประกอบเพลงภาพยนตร์มากมายหลายเรื่องทีเดียว ในหนังเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันครับ นอกจากเสียงร้องโอดครวญครางชวนสยิวแล้ว อย่าพลาดฟังเสียงเพลงในเรื่องด้วยล่ะ ^^
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: รีวิวหนัง Grub Girl, รีวิวหนังสยองโหด, รีวิวหนังโหด, หนัง Horror Porn Gore
The Great Yokai War (2005)
Yokai daisenso | Hobgoblins & the Great War | Spook Warfare | The Great Hobgoblin War
นำแสดง: Ryunosuke Kamiki (Tadashi Ino as Ryuunosuke Kamiki), Hiroyuki Miyasako (Sata), Chiaki Kuriyama (Agi), Bunta Sugawara (Shuntaro Ino), Kaho Minami (Youko Ino), Riko Narumi (Tataru Ino), Etsushi Toyokawa (Lord Kato Yasunori), Kiyoshiro Imawano (General Nurarihyon as Kiyoshiro Imawano), Mai Takahashi (Kawahime : the River Princess), Masaomi Kondo (Shojo : the Kirin Herald as Masaomi Kondo), Sadao Abe (Kawataro : the River Sprite), Takashi Okamura (Azuki : Bean Washer)
กำกับ: Takashi Miike
เขียนบท: Hiroshi Aramata (นวนิยาย) และ Takashi Miike
ประเภท: Adventure / Fantasy / Comedy / Drama / Horror
หนังรีเมคเรื่อง Yokai Monsters : Spook Warfare ปี 1968 หรือชื่อญี่ปุ่นว่า Yokai Daisenso ผสมผสานกับเนื้อหาในนิยายของ Hiroshi Aramata บวกฝีมือการเรียบเรียง การกำกับชั้นครู ของ Takashi Miike จนออกมาเป็น The Great Yokai War (ใช้ชื่อภาษาญี่ปุ่นเหมือนเดิมคือ Yokai Daisenso)
มาพูดถึงคำว่า “Yokai” กันก่อนครับ จะได้ไม่งงกันว่า ไอ้สงครามที่ว่านั่นมันเกี่ยวกับอะไร Yokai ในภาษาญี่ปุ่น เป็นคำที่ใช้เรียกในตำนานพื้นบ้าน ถึง พวกภูตผี ปีศาจ วิญญาณทั้งร้ายและดี แล้วแต่หนังแต่ละเรื่องจะเอามาสร้างให้มันเป็นปีศาจร้าย หรือดี…อย่างในเรื่องนี้ ก็เป็นพวกภูติผี ปีศาจ ที่ดีครับ (แต่ละตัวนิสัยน่ารักครับ…บางตัวหน้าตาน่ารักด้วย ^^) เพราะงั้น ตามชื่อหนังที่ว่า The Great Yokai War จึงรวบรวมพวกปีศาจในตำนานพื้นบ้านของญี่ปุ่นไว้หมดครบถ้วน (ดูได้จากหน้า Wallpaper ครับ) อาทิเช่น ปีศาจร่ม ผีขาเดียว ปีศาจหิมะ ตระกูลสัตว์ประหลาดทั้งหลาย (เหมือนที่เราเคยอ่านการ์ตูนตอนเด็กๆ นั่นแหละครับ) นั่นแหละ คือ บรรดาพวกที่ถูกเรียกว่า Yokai ครับ
The Great Yokai War ถือเป็นหนังยุคใหม่ของ Miike ที่สร้างความตะลึงให้แก่แฟนๆ ไม่น้อย เพราะหากเปรียบเทียบกับหนังในยุค 2000 เหมือนกัน หรือเทียบกับหนังในอดีตที่เขาสร้าง ไม่เน้นความโหดสุดขั้ว ชั่วสุดขีด หรือเพี้ยนออกที่เราไม่คาดคิดแล้ว ก็จะเป็นในแนวของ Drama และ ยากูซ่าในแนวที่เขาถนัด ผมถือว่า The Great Yokai War เสมือนหนังที่ Miike ตั้งใจทำให้เด็กดูเลยครับ เท่าที่เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของเขาตอนที่หนังเรื่องนี้ออกมา (ประมาณปี 2005) เหมือนกับความตั้งใจที่ Miike ต้องการนำนิทานพื้นบ้าน เรื่องเล่า และตำนานต่าง ๆ มาสร้าง ซึ่งช่วงที่หนังออกมาในตอนนั้น ถูกนำไปเปรียบเทียบกับหนังฟอร์มยักษ์ของ Peter Jackson ‘The Lord of the Rings’ กันไปเลย จะว่าไป หลังจากผมดูหนังเรื่องนี้แล้ว ก็ไม่แปลกครับที่ The Great Yokai War จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับ The Lord of the Rings เพราะทั้งบรรยากาศ ยุคสมัย การแต่งตัว ก็มีส่วนคล้ายอยู่เหมือนกัน หากแต่ว่า Miike นำความถนัดของเขาในเรื่อง Fantasy / Horror นำมาผสมผสาน ระหว่างการต่อสู้ในยุคโบราณ (โดยใช้สัญลักษณ์ของ ‘ดาบ’) กับการต่อสู้ในยุคปัจจุบัน และอนาคต (ที่มีการใช้ ลำแสงเลเซอร์ เครื่องจักร และอีกนานัปประการ เป็นสัญลักษณ์) ได้อย่างเข้มข้น และสนุกจริงๆ ครับ
ในหนังเรื่องนี้ ก่อนอื่นต้องให้เครดิตกับทีมงาน ทั้งเกี่ยวกับการลำดับภาพ คอมพิวเตอร์กราฟฟิก แสง สี และเสียง ทำออกมาได้ลงตัว มีความยิ่งใหญ่ อลังการ และดูเนียน อย่างไม่ขัดตากันเลย ระหว่าง ยุคโบราณ ยุคปัจจุบัน และยุคอนาคต ส่วนสำหรับผู้กำกับนั้น หากเราดูโดยไม่รู้ว่า นี่คือผลงานของผู้กำกับคนใดจะเสพหนังได้อย่างอรรถรสสนุกสนานเต็มๆ ครับ (เพราะหากเรารู้ว่านี่คือ ผลงานของ Miike ผู้กำกับคนโปรดแล้ว อาจจะพาลเข้าข้าง ยกยอ เดินตัวเอียงกันไปข้างหนึ่ง ก่อนที่จะได้เสพหนังกันด้วยซ้ำ :p) ยิ่งได้รู้ว่านี่คือ หนึ่งในผลงานของ Miike ด้วยแล้ว เพื่อนๆ ที่ได้ดูก็คงจะแปลกใจครับ เหมือนเป็นอีกเวอร์ชั่นหนึ่งในจินตนาการของ Miike ที่เขาถ่ายทอดมุมมอง ความสนุกสนานของ ‘เด็ก’ ได้อย่างมีกึ๋น เขาใช้เรื่องราวความรัก ระหว่าง ตา หลาน เด็กน้อย กับสัตว์เลี้ยง ที่เป็น ‘Yokai’ หรือ ‘ผี’ อย่างที่ผมกล่าวไปในตอนต้น มันมีทั้งความสนุกแบบ Adventure ไปจนถึง Drama เรียกน้ำตา ผู้ชมที่มีจิตใจแบบเด็กๆ อย่างผม ได้เลย (ฮ่า ฮ่า อันนี้เวอร์ไปหน่อย)
ล่าสุดหนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศ best Cinematography (Hideo Yomamoto) จากงาน Yokohama Film Festival ปี 2006 นี่เองครับ ก็สมควรได้รับแล้วครับ ใครได้ดูหนังแล้ว คงจะไม่ปฏิเสธกับรางวัลที่ได้ ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าจะมีค่ายหนังที่ไหน เอามาฉายตามโรงลิโดบ้านเราบ้างหรือเปล่า ถ้าไม่มี ก็คงต้องดิ้นรนหาแผ่นมาดูกันละคร๊าบบ^^
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: takashi miike film, ผลงานผู้กำกับ Takashi Miike, ผู้กำกับ Takashi Miike, รีวิวหนัง Takashi Miike, รีวิวหนัง The Great Yokai War, หนัง Takashi Miike, หนังผีญี่ปุ่น
Gozu (2003)
นำแสดง: Hideki Sone (Minami), Sho Aikawa (Ozaki), Kimika Yoshino (Female Ozaki), Shohei Hino (Nose), Renji Ishibashi (Boss), Sakichi Sato (Coffee Shop Manager)
กำกับ: Takashi Miike
เขียนบท: Sakichi Sato
ประเภท: Crime/Horror/Comedy/Drama
อีกหนึ่งผลงานของผู้กำกับคุณภาพ Takashi Miike ในปี 2003 หลังจากที่หลายคนรู้จัก Miike กับหนังที่ถูกนำเข้าฉายโรงทั่วโลกในเรื่อง One Missed Call ซึ่งในปีเดียวกันนั้น Miike ออกหนังที่เรียกว่าเป็น V – Cinema หรือหนังที่เป็น Home Ent. เป็นหนังที่ถูกส่งตรงเข้าร้านวิดีโอไม่ลงโรงฉายอีกเรื่องคือ “Gozu” หนังโคตรขำวิปริตจิตหงุดเงี้ยวในสไตล์ Yakuza Horror สุดวิตถาร
เรื่องย่อ…
เรื่องราวของยากูซ่าหนุ่ม Minami (Hideki Sone) ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าแก๊งให้พายากูซ่ารุ่นพี่ Ozaki (Sho Aikawa) ไปฆ่าทิ้งที่เมืองนาโกยา เนื่องจากไอ้เจ้ารุ่นพี่ Ozaki นั้นเริ่มมีพฤติกรรมแปลกประหลาด เพี้ยน หลุดขอบไปด้วยความรุนแรงเกินห้าม อาทิ พฤติกรรม เห็นลูกหมาตัวน้อยน่ารัก เป็น หมายากูซ่านักฆ่า หรือจะเป็นรถแม่บ้านเก่าๆ คันนึง ไอ้เจ้า Ozaki ก็หาว่าเป็น รถที่ถูกออกแบบมาเพื่อฆ่ายากูซ่าโดยเฉพาะ (แม่ง!…คิดไปได้) แต่ระหว่างการเดินทางไป นาโกย่า ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นทำให้ Ozaki เสียชีวิตไปก่อนที่ Minami จะฆ่า…ทว่าเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นระหว่างทางที่ Minami แวะโทรศัพท์ส่งข่าวให้กับหัวหน้าแก๊ง เรื่องราวประหลาด โคตรเพี้ยนเกินกว่าจินตนาการคนธรรมดาจะคิดได้ จึงเริ่มขึ้น…
คนทำงาน: นอกจากคนดูหนังในแบบเราๆ จะเชื่อใจในผลงานสุดเพี้ยน วิปริตของผู้กำกับ Takashi Miike แล้ว หนังเรื่องนี้ยังได้ Sakichi Sato มาเขียนบทภาพยนตร์ให้ด้วย นาย Sato คนนี้ ทำงานร่วมกับ Miike ตั้งแต่หนังเรื่อง Ichi The Killer นอกจากนี้เขายังเป็นนักแสดงที่ชอบโผล่ แฝง เข้าไปตามหนังเรื่องต่างๆ อาทิ รัก น้อย นิด มหาศาล หรือ Last Life in the Universe นายคนนี้ก็โผล่เป็นยากูซ่าด้วย หนังเรื่อง Kill Bill ภาค 1 หนังเรื่อง Ichi The Killer และกระทั่งเรื่องนี้ Sato ก็แสดงเป็นผู้จัดการร้านกาแฟที่ดูท่าทางเพี้ยนๆ นั่นด้วย
ฉากโคตรเพี้ยน:
– หมาพุดเดิ้ล (หรือปอมเปอ หรือพันธุ์ไรหว่า) หมาตัวน้อย ที่ถูก Ozaki มองว่า เป็นหมานักฆ่า ถูกส่งมาเพื่อฆ่ายากูซ่า นาย Ozaki เดินไปคว้าหมาตัวน้อย จับเหวี่ยงลงพื้นหลายที ก่อนที่จะ จับเชือกจูงหมาเหวี่ยงขึ้นกลางอากาศฟาดกับกระจกร้านกาแฟตายคาที่…อึ้งไปตามๆ กัน…แม่งโคตรเพี้ยน
– ฉากโรงแรมที่พัก ที่ Minami ไปพัก แล้วดันไปเจอเจ๊เจ้าของ เจ๊แกนมโต อวบอึ๋มผิดผู้หญิงในวัยกลางคนยิ่งนัก เจ๊แกถาม Minami ว่าอยากดูดนมมั้ย จากนั้นเจ๊แกก็ค่อยๆ บีบนมอวบๆ ของแก จนน้ำนมจริงๆ ไหลทะลักออกมา ไปจนถึงฉากที่ Minami เข้าไปในห้องที่เจอเจ๊กำลังบีบนมจากเต้าของแกเองใส่ขวด ตัดกับฉากที่เด็กกำลังดื่มนมจากขวด (โอ้ว…แม่ง อ๊วกจะแตก)
– ฉากการร่วมรักสุดหยิวระหว่าง Minami กับ Ozaki ในคราบของผู้หญิงสวยเซ็กส์ Minami ทิ่มเจ้าน้องชายเข้าไปจนเสร็จกิจ แต่ทว่ามันดึงออกมาไม่ได้ Minami พยายามอย่างสุดความสามารถดึงน้องชายออกมา แต่น้องชายไม่ได้ออกมาอย่างเดียว สิ่งที่ออกมาจากช่องคลอดของสาวสุดเซ็กส์คือ เจ้า Ozaki ยากูซ่ารุ่นพี่ที่มีน้ำเมือกเต็มตัว Miike สอดความฮาเข้าไปตรงที่ ตอนเจ้า Ozaki หลุดออกมาจากช่องคลอด พี่ท่านใส่ซาวนด์เข้าไปดัง “ป๊อก…” เหมือนเปิดฝาขวด แล้วเจ้า Ozaki ก็ไหลออกมาอย่างน่าขยะแขยง…ทำไปด้ายยย~~
– ฉากเซ็กส์ของหัวหน้ายากูซ่า ที่ต้องเอากระบวยตักน้ำเสียบตูด กระตุ้นความเป็นชาย และอีกหลายๆ ฉากเพี้ยน สุดวิตถาร ต้องไปหาดูกันเองนะ
รางวัลความวิปริตที่หลายสาขารับประกันคุณภาพ:
– Sakichi Sato ได้รางวัล Silver Raven สำหรับบทภาพยนตร์จาก Brussels International Festival of Fantasy Film ปี 2004
– ชนะเลิศรางวัล Best visual effects และ Best Film : Takashi Miike จาก Catalonian International Film Festival ประเทศสเปน ปี 2003
– ชนะเลิศรางวัล Best Asian Film และ Jury Award : Takashi Miike จาก Neuchatel International Fantasy Film Festival
ใครชอบหนังฮา โรคจิต ซาดิสต์ วิตถาร (แบบผม) คงไม่พลาดเรื่องนี้กันนะครับ : – )
อ่อ…ผมเคยอ่านเจอ (ขออภัยครับ จำแหล่งข้อมูลไม่ได้จริงๆ)…Miike เคยให้สัมภาษณ์ไว้ด้วยว่า หลังจากหนังเรื่องนี้แล้ว เขาพยายามจะทำหนังที่เบาขึ้น มีความอบอุ่น ประนีประนอม มากกว่าหนังในอดีตที่เขาเคยทำมา เนื่องจากสาเหตุ 9/11 ที่ทำให้ตัวเขาโคตรสะเทือนใจ…อ่อ จะจริงหรือเปล่า ลองติดตามผลงานของเขาเองนะครับ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: yakuza horror movie, ผลงาน takashi miike, รีวิวหนัง gozu, รีวิวหนัง Takashi Miike, รีวิวหนังญี่ปุ่นโรคจิต, รีวิวหนังสยองญ๊่ปุ่น, หนัง Takashi Miike, หนังญี่ปุ่นโรคจิต, หนังญี่ปุ่นโหด, หนังทาคาชิ มิอิเกะ
Ghost Train (2006)
Otoshimono | รางหลอน ซ่อนตาย
นำแสดง: Erika Sawajiri, Chinatsu Wakatsuki, Shun Oguri, Aya Sugimoto, Itsuji Itao, Miyoko Asada
กำกับ: Takeshi Furusawa
เขียนบท: Takeshi Furusawa, Erika Tanaka
ประเภท: Horror
ถึงชื่อเสียงของผู้กำกับ Takeshi Furosawa จะไม่เป็นที่โด่งดัง รู้จักกันในวงการหนังบ้านเรา แต่เขาผู้นี้ก็เคยเป็นผู้ช่วยผู้กำกับของหนังเรื่อง Kairo (ผีอินเตอร์เน็ท) ที่เคยสร้างความหลอกหลอนให้กับผู้ชมชาวไทยมาแล้วในปี 2001 นี่ถือได้ว่าเป็นการกำกับหนังที่มุ่งสู่ตลาดอินเตอร์เรื่องแรกของ Takeshi Furosawa ก็ว่าได้
เรื่องย่อ: หลังเลิกเรียน นานะ (Erika Sawajiri) ได้พบเห็นอุบัติเหตุรถไฟระหว่างทางกลับบ้านโดยเธอไม่คิดเลยว่านั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ประหลาดชวนขนลุก หลังเหตุการณ์วันนั้นน้องสาวของนานะก็หายตัวอย่างลึกลับไปกับรถไฟขบวนปริศนา ส่วนคานาเอะ (Chinatsu Wakatsuki) เพื่อนร่วมชั้นของเธอก็ถูกวิญญาณตามล่าหลังเก็บสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งได้จากบนรถไฟ ความน่ากลัวเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน ทั้งรอยนิ้วมือสีแดง, วิญญาณสาวบนชานชาลาสถานีรถไฟ, คำทำนายของหญิงลึกลับ นานะจึงต้องร่วมมือกับอดีตคนขับรถไฟ (Shun Oguri) เพื่อสืบหาเรื่องราวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสร้อยข้อมือเส้นนั้น ไม่นานพวกเขาก็ค้นพบความจริงชวนสะพรึงเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถไฟขบวนเดียวกันอันเป็นที่มาของความสยองทั้งหมด
Ghost Train เป็นภาพยนตร์สยองที่แฝงไปด้วย มุมกล้อง และภาพสวยๆ อยู่ในหลาย ๆ ตอน ซึ่งถือได้ว่าเป็นข้อดีข้อหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่กลับเต็มไปด้วยข้อเสีย อาทิ บทภาพยนตร์ที่อ่อนแอไร้น้ำหนักอย่างเหลือเชื่อ และการแสดงของ Erika Sawajiri สาวรุ่นน่ารัก ที่สร้างชื่อจากหนัง Action แฟนตาซีสุดโรแมนติกเรื่อง Shinobi แต่ผมว่ากับการแสดงบทซีเรียสๆ ในหนัง Horror อย่าง Ghost Train เธอยังไม่เข้าถึงบทแบบสุดขีดในหลายๆ ฉากที่ควรจะเป็นครับ นอกจากบท และฝีมือการแสดงแล้ว ผีในเรื่องก็ยังคงเป็นไปตามสูตรสำเร็จเดิมๆ ของหนังผีตลาดญี่ปุ่นทั่วไปอีกด้วย
สำหรับผมแล้ว Ghost Train ถือได้ว่าเป็นหนังผีตลาดๆ ในยุคปัจจุบันที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลยครับ ดูได้เพลินๆ จนถึงขั้นงีบได้โดยไม่รู้ตัว..เหอ..เหอ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: รีวิวหนัง Ghost Train, รีวิวหนัง รางหลอน ซ่อนตาย, รีวิวหนังผี, รีวิวหนังสยองขวัญ, หนังผีญี่ปุ่น
Gong tau (2007)
Gong Tau: An Oriental Black Magic
นำแสดง: Mark Cheng (Officer Rockman Cheung), Maggie Siu (Karpi Cheung), Suet Lam (Officer ‘Brother’ Sum as Lam Suet), Tak-bun Wong (Lam Chiu as Kenny Wong) Yu Gu (Lockman as Kris Gu), Shiu Hung Hui (Wah as Hui Shiu Hung), Pauline Yam (Forensic Doctor), Jay Lau (Lily Chan as Lau Kam Ling), Hak On Fung (Master Clear Sea as Fung Hak On), Zi-Xuan Teng (Elli Lam as Teng Tzu Hsuan), Loi Kwan Kam (Sai Keung as Kam Loi Kwan), Wing-Hong Cheung (Kit as Cheung Wing Hong), Ho Yan Sham (Sally as Sham Ho Yan), Kwun-hong Lee (Uncle Bill as Lee Kwun Hong), Choriatee Algazaratanazin (Bad Guy)
กำกับ: Herman Yau
เขียนบท: Herman Yau & Chun-Yue Lam
ประเภท: Horror / Thriller
“อย่าให้ความรัก กลายเป็นความแค้น อาฆาต ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะถูก Gong tau เข้าครอบงำก็เป็นได้!”
Gong tau (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ไอ้ Gong tau นี่มันหมายความถึง ตัวตุ๊กตามนต์ดำของพวกวูดูอะไรทำนองนั้นหรือเปล่า หรือว่าเป็นมนต์ดำ หรือว่าหมายถึงการโดนสาบ ครอบงำ) หนังฮ่องกงในสไตล์ Thriller ที่มีเรื่องราวของการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ด้วยรสชาดแบบฟิล์มนัวร์ในสไตล์ Seven ประกอบกับอารมณ์ความสยอง กอร์เล็กๆ ไปจนถึง CG เลือดสาดในแบบหนัง Horror ทำให้โดยรวมของหนังเรื่องนี้ น่าจะเป็นที่ถูกใจของคนชื่นชอบหนังสยองบนพื้นฐานอารมณ์ความเป็นหนัง Thriller นะครับ แม้พล๊อตเรื่องจะเป็นอะไรที่ตรงๆ คาดเดาได้ง่าย และไม่สลับซับซ้อน แต่สเน่ห์ของมุมมอง การถ่ายทำ ภาพที่สื่อออกมา รวมถึงภาพความรุนแรงทั้งเรื่องของเซ็กส์ ไส้ ชำแหละ ศพ ที่มีให้เห็นอยู่ทั้งเรื่องเป็นระยะๆ น่าจะสยองตัณหาคนเสพความรุนแรงได้ไม่น้อยครับ
ผลงานของผู้กำกับ และนักเขียนบทฝีมือดี โด่งดังทั้งในเอเซีย และทั่วโลก ผลงานที่สร้างชื่ออื้อฉาวไปทั่วโลก ที่ทำให้เราจำเขาได้ไม่รู้ลืม ก็อย่างหนังเรื่อง The Untold Story หรือ Human Pork Chop หรือ ซาลาเปาเนื้อคน ผลงานสิบกว่าปีที่แล้ว แต่ยังเป็นที่ทรงจำของแฟนหนังสยองไม่รู้ลืม ถ้าให้แนะนำผลงานของ Herman Yau อีกนั้น คงต้องกล่าวถึงซีรียส์ Troublesome Night ที่ถูกสร้างออกมาหลายภาคไม่น้อย (จำไม่ได้แล้วตอนนี้มีออกมาทั้งหมดกี่ภาค) นอกจากนั้นแล้ว หนังอย่าง Ebola Syndrome ในปี 1996 ก็ติดอันดับผลงานสร้างสรรงานสยองในลิสต์ของผมอยู่เหมือนกัน จะว่าไป Herman Yau เป็นผู้กำกับหนังที่มีฝีมือไม่ใช่เฉพาะในแนวทาง Horror เขาสามารถทำหนัง Action ตลก จนถึง Drama ได้อย่างเหนือชั้นอีกเช่นกัน เมื่อหลายปีก่อน ผมยังจำได้ว่า ได้ดูหนังเรื่อง Master Q ภาพยนต์ที่นำการ์ตูนมาสร้าง ซึ่งตอนที่ดูจบ ยังไม่รู้เลยว่านี่เป็นผลงานของ Herman Yau กว่าจะรู้ก็มีโอกาสได้อ่านบทความที่กล่าวถึงผลงานของ Yau ทางอินเตอร์เน็ทเมื่อ 3 – 4 ปีที่แล้วนี่เอง
จะว่าไป ไม่รู้ว่า Herman Yau ได้แรงบันดาลใจในการสร้างเรื่องนี้มาจากอะไรนะครับ อาจจะเป็นหนังลองของ หรือคุณไสยของบ้านเรา (เพราะเห็นกล่าว และมีการถ่ายทำในไทยเราด้วย) หรืออาจจะเป็นนวนิยายของ HP Lovecraft ซึ่งโปรดปรานงานเขียนเชิงมนต์ดำ วูดูเหลือเกิน เอาเป็นว่า ใครอยากลองไปหาดูคุณไสยในสไตล์ที่ Herman Yau ทำ ก็ขอแนะนำเรื่องนี้เลยครับ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: รีวิวหนัง Gong Tau, รีวิวหนังฆาตกรรมสยอง, รีวิวหนังมนต์ดำ, รีวิวหนังสยอง, หนังแนว Seven