Full Metal Yakuza : Full Metal gokudo (1997)
นำแสดง: Takeshi Caesar, Yasushi Kitamura, Yuichi Minato, Shoko Nakahara, Ren Osugi, Tomorowo Taguchi, Koji Tsukamoto, Tsuyoshi Ujiki
กำกับ: Takashi Miike
เขียนบท: Itaru Era (screenplay) และ Hiroki Yamaguchi (story)
ประเภท: Sci-Fi/Crime/Comedy/Thriller/Action
หนังสุดบ้า เพี้ยน และหลุดไปอีกโลกหนึ่งของ Miike หลังจากปี 96 นาย Miike ออกผลงานสุดบ้าคลั่งใน โลกของยากูซ่าในมุมมองที่เล่นเรื่องราวของชีวิตวัยแรกแย้มของสังคมญี่ปุ่นในเรื่อง Fudoh : The New Generation ต่อมาในปี 97 Miike ออกผลงานที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับยากูซ่าเช่นกัน แต่คราวนี้ กลับนำ จินตนาการบ้าคลั่ง สุดเพ้อฝัน จับมาลงแผ่นฟิล์ม โดยใช้แนวทางเนื้อเรื่องประเภทพวกหนัง Robocop หรือพวก Frankenstein มาทำออกมาเป็น Full Metal Yakuza เรื่องนี้นี่เอง…
Full Metal Yakuza เป็นเรื่องราวของ Kensuke Hagane (รับบทโดย Tsuyoshi Ujiki: ยากูซ่า ห่วยแตก ไม่เอาไหน และไม่มีคุณสมบัติแห่งความเป็นยากูซ่าได้เลย) ยากูซ่ารุ่นน้องที่เกือบโดยยิงตาย หากรุ่นพี่ Tosa ไม่กระโดดเข้ามารับกระสุนแทน หลังจากนั้น Kensuke ถูกนักวิทยาศาสตร์สุดเพี้ยน นำไปสร้างเป็นมนุษย์หุ่นยนต์ ที่มีนิสัยการกินเหล็กเป็นอาหาร มีกระเจี๊ยวลับสัมผัสอันใหญ่มหึมา และมีรอยสักของรุ่นพี่ Tosa อยู่ข้างหลังเป็นเครื่องเตือนใจของ Kensuke อยู่ตลอดเวลา …คุณคงคาดเดาเนื้อเรื่องกันได้แล้วนะครับ หลังจาก Kensuke ถูกแปลงเป็นมนุษย์หุ่นยนต์แล้ว เรื่องราวการแก้แค้นแทนรุ่นพี่ Tosa ก็เริ่มขึ้น…
หนังดำเนินไปแบบไม่หักมุมครับ…เป็นงานของ Miike ที่ไม่ซับซ้อน รุนแรง และโหดร้าย Full Metal Yakuza กลับเป็นงานขำๆ ที่ออกไปในแนวทางตลกร้าย (ในหลายมุขของ Miike) อาทิ แฟนสาวอยากจะฆ่าตัวตายโดยการเดินลงไปในทะเล จะเพื่อเรียกร้องความสนใจจาก Kensuke หรืออย่างไรก็แล้วแต่ แต่เฮียมนุษย์หุ่นยนต์ของเรากลับไม่สนใจ เพราะเฮียแกเป็นหุ่น แกย่อมไร้ความรู้สึกเห็นใจ แฟนสาวละเหี่ยใจ เดินกลับขึ้นมาบนบกเอง ^^ (ประมาณว่า แม่ง ไม่สนใจกูเลย…ฉากหลังจากนั้นก็ดูกันเอาเอง) หรือท่วงท่าสุดแต๋วในการบังตัวหลบกระสุนของมนุษย์หุ่นยนต์ Kensuke (เห็นแล้ว คงร้องเสียงเดียวกัน “ทามปายด้ายยย…) บวกงาน Action สุดมัน และ Sci-Fi ที่ถือว่าใช้ได้เลยในปี 1997 ยุคนั้น…
ใครชอบ Miike เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว หรือเป็นแฟนพันธุ์แท้ของผู้กำกับคนนี้ คงต้องบอกว่า ให้หาเรื่องนี้ มาดูกันครับ ขำมากๆ แต่แฟนหนังโหด แหวะ เลือดสาด โรคจิต แบบ Ichi The Killer, Visitor Q, Audition, Gozu, Fudoh หรือแม้กระทั่งซีรีย์ MPD-Psycho ก็ไม่ควรหยิบเรื่องนี้มาดูหรอกครับ จะพาลผิดหวังและรู้สึกเสียดายเงินเปล่าๆ :,)
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.99 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: รีวิวหนัง cyberpunk, รีวิวหนัง full metal yakuza, รีวิวหนัง Takashi Miike, รีวิวหนัง yakuza, หนัง Cyberpunk, หนัง Takashi Miike, หนังยากูซ่า
Fudoh : The New Generation (1996)
(Gokudo sengokushi)
นำแสดง: Shosuke Tanihara (Riki Fudoh), Kenji Takano (Akira Aizone), Marie Jinno (Jun Minoru), Tamaki Kenmochi (Touko Zenzai), Toru Minegishi (Iwao Fudoh), Miho Nomoto (Mika), Riki Takeuchi (Daigen Nohma), Takeshi Caesar (Akihiro Gondo)
กำกับ: Takashi Miike
เขียนบท: Toshiyuki Morioka ดัดแปลงมาจากการ์ตูนของ Hitoshi Tanimura
ประเภท: Action/Crime
เรื่องย่อ: หัวหน้าใหญ่ยากูซ่าตัดสินใจลงมือฆ่าลูกชายคนโตของตนเอง เพื่อยุติความ บาดหมางกับแก๊งยากูซ่าฝ่ายตรงข้าม และในคืนที่หัวหน้าใหญ่ยากูซ่าลงมือฆ่าลูกชายนั่น เอง มีลูกชายคนเล็กยืนแอบมองพ่อเอาดาบหั่นหัวพี่ชายตัวเองต่อหน้าต่อตา และตั้งแต่นั้น Riki Fudoh ลูกชายคนเล็กสาบานว่าจะล้างแค้นให้กับพี่ชายของเขาเอง…จวบจน Riki เติบใหญ่เป็นนักเรียนไฮสกูล เขารวบรวมยุวชนนักฆ่าสร้างแก๊งยากูซ่าลับขึ้นมา จัดการฆ่า ล้างบางยากูซ่าอาวุโสที่ทำตัวไร้ประโยชน์ให้สิ้นซาก…ความโหดเหี้ยม วิปริต เซ็กส์ อำมหิต และเรื่องราวสุดเพี้ยนมีอยู่ครบครันใน Fodoh : The New Generation ติดตามกันได้…
เด็กในสังคมทุกวันนี้…
โคตรบ้ากับพล็อตเรื่องที่มาจากการ์ตูนที่เต็มไปด้วยความรุนแรงของ Hitoshi Tanimura นาย Miike นำมาถ่ายทอดจินตนาการได้ราวกับอ่านการ์ตูนผ่านแผ่นฟิล์ม “Comic Book Movie” เรื่องที่เน้นหนังแนวเด็กวัยเรียน วัยไฮสกูล วัยหัวเรี่ยวหัวต่อ วัยคึกคะนอง และโปรดปรานความรุนแรง ในเรื่อง ริกิ ฟูโด ลูกชายคนเล็กของหัวหน้า แก๊งยากูซ่าที่เห็นพ่อตัวเองฆ่าพี่ชายของเขากับมือ ก็เกิดความแค้นฝังใจมาตั้งแต่วัยเด็ก ในคืนเดียวกับที่เลือดของพี่ชายเขากองอยู่บนฟูก ริกินำเข็มสักบรรจงจิ้มเลือดพี่ชายตัว เองนำมาสักลงบนร่างกายของเขา ภาพที่แสดงให้เห็นว่า ‘เลือดชำระแค้น’ มันสร้างความ หมองหม่นได้ดีเหลือเกิน พอริกิ เติบโต เขากลายเป็นนักเรียนไฮสกูลมาดขรึม เรียนเก่ง แต่ แฝงความโหดร้ายไว้ใต้ใบหน้าไร้รอยยิ้ม ภาพเนื้อเรื่องปูพื้นให้เราเห็นว่าเด็กนักเรียนทุก คนในโรงเรียนต้องสยบเขา แม้กระทั่งอาจารย์ผู้สอน! ริกิ ฟูโด พยายามสร้างแก๊งเครือ ข่าวยุวชนนักฆ่า โดยเขาเริ่มสอนวิธีการต่างๆ ให้กับเด็กตั้งแต่ประมาณ 6 – 7 ขวบกันเลย ! ใครได้ดูเรื่องนี้คงอดคิดไม่ได้ว่า เด็กอายุราว ๆ 6 – 7 ขวบ ถือปืนวิ่งยิงหัวหน้าแก๊งยากูซ่า ชนิดที่เรียกว่า ยิงกันหัวแบะ เลือดสาด กระจายท่วมทุ่ง หากเกิดขึ้นกันชนิดประจำวันใน สังคมเราจะเป็นยังไงกันเนี่ย แต่ผมว่า Takashi Miike พยายามจะสะท้อนให้เห็นถึง เด็กในสังคมทุกวันนี้ โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่มีวิวัฒนาการ เทคโนโลยี วัฒนธรรมต่างชาติเข้า ถึงได้อย่างรวดเร็วเกิดคาดหมาย…
ยุวชนนักฆ่า ยากูซ่า เซ็กส์ และฉากเด็ดๆ ไม่ควรพลาด!
สมาชิกยุวชนนักฆ่า หรือสมาชิกในแก๊งยากูซ่าของ ริกิ ฟูโด ประกอบไปด้วย…
– สาวผู้ชำนาญการใช้อาวุธ โดยเฉพาะอาวุธปืน…สาวหมวยสุดหวาน น่ารัก ที่เป็นเหมือน มือขวาของริกิ ที่นอกจากจะชำนาญการฆ่าแบบถวายชีวิตแล้ว ยังนิยมปรนเปรอเซ็กส์ให้ กับริกิแบบถวายตัวอีกด้วย
– สาวเซ็กซี่ สุดสวย นมโต มี “จิ๋ม” เป็นอาวุธ…สาวนักเรียนไฮสกูล ที่ทำงานพาร์ทไทม์ เป็นนางระบำโป๊ ใช้จิ๋มพ่นเข็มเป่าลูกดอกจิ้มลูกโป่งโชว์ เธอคนนี้สวย เซ็กซี่ มีหน้าอกเต่งตึง อวบอิ่มถึงใจเหลือเกิน ลีลาการใช้ “จิ๋มพิฆาต” ของเธอนั้นก็ใช่ย่อย มันช่างมีพลังเกินกว่า จะจินตนาการกันได้ เรียกว่า ต้องดูกันเองครับ…โดยเฉพาะฉากที่เธอพ่นเข็มออกมาจาก จิ๋มแล้วมีเลือดพุ่งออกมาด้วย…ในบทเธอพูดว่า “โทษที…วันนี้มีเมนส์!” จ๊ากกก!!… มันสุดยอดมากครับ นอกจากสาวคนนี้จะมีจิ๋มพิฆาตสุดสวาทแล้ว เบื้องหลังของสาวคนนี้ เธอยัง เป็นคนที่มีสองเพศในร่างเดียวกันด้วย ในหนังคุณจะได้เห็นบท Love Scene ร้อนแรงระหว่างสาวสองเพศที่ต้องแสดงบทบาทเป็นเพศชายขย่มกับครูสาวใหญ่ร้อนแรงอย่างถึงพริกถึงขิง (ห้ามพลาดฉากรักสุดอาร์ตวิปริตฉากนี้นะ…มันเจ๋งทีเดียว)
– บรรดาเหล่าเด็กประถม อายุประมาณ 6 – 7 ปี ที่ใช้ปืนคล่องยิ่งกว่าผู้ใหญ่ซะอีก
– นักเรียนไฮสกูลตัวยักษ์ที่มีกระเจี๊ยวเท่าช้าง ยิงประตูไหน จิ๋มวอดวายหมด ไอ้เจ้ายักษ์ผู้เปรียบเสมือนแขนขาให้ริกิ ฟูโด พลังช้างศาลของมันช่างน่ากลัวจริงๆ
– ครูสาวสุดเซ็กซี่ที่มาช่วยริกิ ในช่วงกลางๆ ของเรื่อง ครูผู้ซึ่งมีอดีตสุดหวานกับพี่ชายของริกิ แต่ท้ายสุดครูสาวคนนี้แหละที่กลับชอบความวิปริตร่วมรักกับสาวสองเพศ
แนะนำคร่าวๆ ประมาณนี้ครับ…ฉากวิปริต เซ็กส์สุดขั้วตั้งแต่สาวสองเพศกับครู จนถึงฉากที่ริกิใช้น้องชายฟาดสาวทางประตูหลังในห้องคอมจนหล่อนร้องครวญ คราง ฉากครูผู้ติดหนี้ท่วมตัวไม่สามารถใช้หนี้ได้ ถูกสั่งฟันหัว แล้วนำมาให้เด็กๆ ใช้เป็นลูกบอลเตะเล่น ฉากหัวหน้าแก๊งอาวุโสที่นิยมการหลับนอนกับลูกชายของตนเอง และอีกหลายๆ ฉากที่ไม่ควรพลาดครับ…
หนังรุนแรงสะท้อนสังคม…
หากจะมองในแง่ของความเพี้ยน วิปริต โหด รุนแรง นั้น ถือว่า Takashi Miike ทำได้ ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่หากมองถึงหนังรุนแรงที่สะท้อนความเป็นจริงในสังคมนั้น หลายๆ สื่อยกย่องให้หนังเรื่องนี้ขึ้นหิ้งกันไปเลยครับ ในปี 1997 นิตยสาร Time จัดให้หนัง เรื่องนี้เป็นหนึ่งในสิบอันดับหนังยอดเยี่ยมกันเลยทีเดียว นอกจากนี้ หนังเรื่องนี้ยังชนะเลิศ รางวัล Fantasia Section Award สาขา Best Film – Live Action (Takashi Miike) และ International Fantasy Film Special Jury Award : Takashi Miike จาก Fantasporto ปี 1998 อีกด้วย
ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Takashi Miike ห้ามพลาดครับ ส่วนใครนิยมความซาดิสต์ โหด รุนแรง เซ็กส์ และนมกลมกลึงของนักเรียนสาวไฮสกูลผู้มีจิมิพิฆาตเป็นอาวุธล่ะก็ รีบ เสาะหามาดูให้ไวครับ ^^
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: ผลงานผู้กำกับ Takashi Miike, ผู้กำกับ Takashi Miike, รีวิวหนัง Fudoh 1996, รีวิวหนัง Takashi Miike, รีวิวหนังญี่ปุ่นโหด, หนัง Takashi Miike, หนังญี่ปุ่นโหด โรคจิต
From Beyond (1986)
H.P. Lovecraft’s From Beyond
นำแสดง: Jeffrey Combs (Crawford Tillinghast), Barbara Crampton (Dr. Katherine McMichaels), Ken Foree (Buford ‘Bubba’ Brownlee), Ted Sorel (Dr. Edward Pretorius), Carolyn Purdy-Gordon (Dr. Bloch), Bunny Summers (Neighbor Lady), Bruce McGuire (Jordan Fields), Del Russel (Ambulance Driver), Dale Wyatt (Paramedic), Karen Christenfeld (Nurse), Andy Miller (Patient : Strait Jacket), John Leamer (Shock Technician), Regina Bleesz (Bondage Girl)
กำกับ: Stuart Gordon
เขียนบท: Stuart Gordon, H.P. Lovecraft (story)
ประเภท: Horror / Sci-Fi / Fantasy / Suspense
หนึ่งผลงานสุดคลาสสิกของเจ้าพ่อคนเปลี่ยนหัวคน Stuart Gordon จากเรื่องที่สร้างชื่อของเขาในหนังอมตะเรื่อง “Re-Animator (1985)” หรือชื่อไทยว่า “คนเปลี่ยนหัวคน” ทำให้เรื่อง From Beyond (หรือ H.P. Lovecraft’s From Beyond) ถูกนำมาตั้งชื่อไทยว่า “คนเปลี่ยนหัวคน ภาค2” ทั้งๆ ที่เนื้อหาไม่ได้เกี่ยวกันเลย ซึ่งในความจริงแล้ว คงเป็นเพียงการนำชื่อ คนเปลี่ยนหัวคน ที่หลายคนจดจำได้มาตั้งชื่อขายกันอีกรอบ (From Beyond เป็นนวนิยายเรื่องที่สองของ H.P. Lovecraft ที่ Stuart Gordon นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์)
“From Beyond” ว่าด้วยเรื่องราวของ Dr. Edward Pretorious และผู้ช่วยของเขาคือ Dr. Crawford Tillinghast ผู้ซึ่งทำการทดลองกับเครื่อง “Resonator” เครื่องมือทดลองด้วยแนวความคิดที่ว่า กระแสไฟฟ้าจะไปกระตุ้นต่อม ‘Pineal’ ที่สมอง ซึ่ง Dr. Pretorious เชื่อว่าเป็นต่อมกระตุ้นให้เกิดความสุขทางเพศ ไปจนถึงการสร้างจินตนาการสุดล้ำเกินกว่าที่จะคาดเดาได้ จากการทดลองแรกที่ Dr. Tillinghast พบเห็น นั่นก็คือ พยาธิตัวแบนยักษ์ที่ลอยเข้ามาหา สิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้จากการทดลองนี้ คือ การที่ Dr. Tillinghast พบเห็นเหตุการณ์ที่ทำให้ Dr. Pretorious หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ตำรวจเริ่มสืบสวนเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดคิดครั้งนี้ ถึงสาเหตุที่ทำให้ Dr. Pretorious หายสาบสูญไป โดยตั้งข้อหาให้กับ Dr. Tillinghast ว่าเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง
Dr. Tillinghast ต้องทำการพิสูจน์การทดลองอีกครั้ง โดยมีนักจิตวิทยาสาวสุดสวยชื่อ Katherine McMichaels และตำรวจหนุ่มผู้ต้องคอยควบคุมตัวของ Dr. Tillinghast ชื่อ Bubba เป็นผู้ร่วมพิสูจน์เหตุการณ์ทดลองในครั้งนี้
หนัง Horror Sci – Fi ที่เต็มไปด้วยจินตนาการสุดเพี้ยนเหลือล้ำหลุดโลก เหนือความคาดเดา เจิมด้วยอารมณ์ขัน สยอง และเสียวสยิวเร้นลับ ในสไตล์ H.P.Lovecraft ฉากสยองแหวะ การแต่งหน้า ทำแอฟเฟ็คนั้นทำได้ล้ำยุคดี และถือได้ว่าเป็นไฮไลท์สยองเด่นของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ในยุค 80’s
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: นวนิยาย H.P. Lovecraft, ผลงานของ H.P. Lovecraft, ผลงานผู้กำกับ Stuart Gordon, รีวิวหนัง From Beyond, รีวิวหนัง H.P. Lovecraft's From Beyond, หนังคนเปลี่ยนหัวคน
Freeze Frame (2004)
Straight to Video
นำแสดง: Lee Evans (Sean Veil), Sean McGinley (Detective Louis Emeric), Ian McNeice (Forensic Profiler Saul Seger), Colin Salmon (Detective Mountjoy), Rachael Stirling (Katie Carter), Rachel O’Riordan (Mary Shaw), Andrew Wilson (Covert Cameraman), Andrea Grimason (Susan Jasper), Martin McSharry (Sam Jasper), Gabriella Henriette (Moira Jasper), Emily Anthony (Maggie Jasper)
กำกับและเขียนบท: John Simpson
ประเภท: Thriller / Crime / Drama
หนังอังกฤษสุดเจ๋งตั้งแต่บทภาพยนตร์ ภาพ เทคนิกการถ่ายทำ ไปจนถึงผลงานการแสดงของนักแสดงมากฝีมือหลายท่านที่มารับบทบาทในหนัง Thriller Drama ที่ใช้ชื่อว่า Freeze Frame หนังเผ่าพันธุ์อังกฤษผสมไอร์แลนด์ที่ได้รับรางวัลจากหลายสถาบันมารับประกันความระทึก เร้าใจให้ลุ้นกันเฟรมต่อเฟรมกันเลยทีเดียว
เรื่องราวทั้งหมดถูกดำเนินไปด้วยตัวแสดงนำที่ชื่อว่า Sean Veil ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นฆาตรกรสุดโหดโคตรจิตระแวง ผู้ซึ่งต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองด้วยการบันทึกภาพ เหตุการณ์ในชีวิตประจำวันของเขาไว้ตลอด 24 ชั่วโมง บทภาพยนตร์ปูเรื่องราวให้เราได้เห็นชีวิตของ Sean Veil ไปจนถึงช่วงที่ตำรวจเรียกตัวเจ้า Veil ไปสอบสวน และได้มีการนำเอาภาพวิดีโอที่ Veil บันทึกภาพชีวิตประจำวันของเขาไว้ตลอดมาพิสูจน์ให้ตำรวจได้เห็น เป็นหลักฐานการยืนยันว่า เขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุนั้นจริง
Sean Veil จะทำอย่างไร เมื่อหนึ่งในเทปหลายพันม้วนที่เขาเก็บไว้ ซึ่งเป็นเทปที่เป็นหลักฐานว่า เขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุฆาตกรรม นั้นหายไป ! ! ! ความเข้มข้นทั้งเนื้อหา การถ่ายทำ การลำดับภาพ และลีลาการหักมุมของผู้กำกับ John Simpson นั้นไม่ใช่ธรรมดาครับ ใครสนใจหนังอินดี้อังกฤษ ในมาตรฐานคุณภาพชั้นเยี่ยม ต้องลองหามาดู
John Simpson ผู้กำกับหนังหน้าใหม่ที่เคยสร้างชื่อในวงการหนังสั้นมาก่อน และนี่คือภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขากำกับในแบบฉบับเต็ม ซึ่งถือว่าสอบผ่านได้ทั้งคนดูทั่วโลก ไปจนถึงสถาบันภาพยนตร์ต่างๆ ที่การันตีด้วยรางวัลมากมาย ผมคงต้องติดตามฝีมือการกำกับ และการเขียนบทภาพยนตร์ของนาย John Simpson กันต่อไปครับ…ได้ข่าวมาว่า ปี 2007 นี้ นาย Simpson กำลังลงมือถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Amusement หนังสยองสไตล์ Simpson ที่เราต้องมาดูว่า ผลงานลำดับที่สองของเขาจะออกมาเป็นอย่างไร…คงต้องพิสูจน์กันต่อไป!
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: รีวิวหนัง Freeze Frame, รีวิวหนังอังกฤษ
Freeze Me (2000) | Freezer
นำแสดง: Harumi Inoue (Chihiro), Shingo Tsurumi (Kojima), Kazuki Kitamura (Hirokawa), Shunsuke Matsuoka (Nogami), Naoto Takenaka (Baba)
กำกับและเขียนบท: Takashi Ishii
ประเภท: Horror / Erotic Thriller / Drama
เรื่องย่อ: หลังจากหญิงสาวหน้าตาสดใสคนหนึ่ง โดนสามทรชนข่มขืน และบันทึกภาพลงวิดีโอ อัดใส่ซีดี และจำหน่าย ทางไปรษณีย์ Chihiro หญิงสาวผู้ต้องพบเจอกับสิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิต ได้ตัดสินใจจากบ้านเกิดเมืองนอน มาเริ่มต้น ชีวิตใหม่ในโตเกียว ห้าปีผ่านไป เธอกำลังอินเลิฟกับแฟนหนุ่มที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน จนถึงขั้นหมั่นหมายจะมีชีวิตคู่ร่วม กัน แต่ฝันร้ายยังไม่จบสิ้น กลุ่มทรชนตัวแสบได้เดินทางเข้ามายังโตเกียว พร้อมจะทำลายชีวิตของเธออีกครั้ง คนรักที่ เธอกำลังจะแต่งงานด้วยต้องจากไป เมื่อเธอไม่มีอะไรจะเสีย เมื่อเธอถึงขีดสุดของอารมณ์ เธอโต้ตอบด้วยการวางแผน ฆ่าพวกมันทีละคน ทีละคน…
และเธอซ่อนศพพวกมันในตู้เย็น!
ทีมงาน..
เริ่มด้วยนักแสดงอย่าง Harumi Inoue นางแบบ / นักกีฬาว่ายน้ำ / นักแสดงสาวสวย ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในไอดอล ของชาย หนุ่ม หญิง สาวในญี่ปุ่นที่โด่งดังมากทีเดียว โดยเฉพาะผลงานภาพหวือหวาที่เธอถ่ายนั้น เรียกได้ว่า สะท้าย ใจหนุ่ม และทำให้หญิงสาวทุกคนที่ได้เห็น อิจฉา กับรูปร่างของเธอไปตามๆ กัน Harumi ได้ฝากผลงานการแสดงไว้ หลายเรื่องเหมือนกัน แต่ที่ทำให้เธอโด่งดังสุดๆ ในด้ายผลงานการแสดงนั่นก็คือ เรื่อง Freeze Me เรื่องนี้นี่เอง!.. ใน บทบาทหญิงสาวที่ถูกข่มขืน และฝังรอยความแค้นไว้ลึกสุดใจ แต่ก็ไม่วาย ต้องเผย และปลดปล่อยความแค้นนั้นออกมา การแสดงออกทางสายตา ท่าทาง เรียกได้ว่า สอบผ่านกันไปเลย รวมทั้ง การโชว์รูปร่างอันสวยงามของเธอให้เราได้เห็น กันในเรื่องนี้ แล้วด้วย เรียกว่า เต็มอิ่มครับ
นอกจาก Harumi Inoue แล้ว คงต้องพูดถึง ผู้กำกับ Takashi Ishii ผู้กำกับชื่ออื้อฉาว และโดดเด่น กับผลงาน Erotic Film ของเขาในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะผลงานซีรียส์ Angel Guts ที่ถูกผลิตออกมาหลายต่อหลายตอน นอกจากนี้ เขายังเป็นนักเขียนบทตัวยงในกับหนังหลาย ๆ เรื่องทีเดียว ที่เราน่าจะคุ้นเคยกันก็อย่าง Evil Dead Trap , Gonin และ Flower and Snake การที่ Ishii ได้มากำกับเรื่องนี้ คาดหวังกันได้เลยว่า บทภาพยนตร์ ลีลา ท่วงท่า ในแบบ Art Erotical ที่ Ishii ถ่ายทอดจะต้องถึงพริกถึงขิง อย่างชนิดที่ห้ามวางหูวางตากันเลยทีเดียว และก็ไม่ผิด หวังครับ พิสูจน์กันเอาเองได้เลยในเวอร์ชั่น Uncut ครับ
สัญชาติญาณดิบ…มีอยู่ในตัวเราทุกคน
อย่างที่จั่วหัวกันไว้ครับ คำกล่าวที่บอกว่า “สัญชาติดิบ…มีอยู่ในตัวเราทุกคน”นั้น เรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องที่สื่อให้ผู้ชมเห็นได้ อย่างชัดเจน เมื่อไม่มีอะไรจะเสีย คุณจะไม่ทำอะไรเลย เพื่อให้ทำคุณรอดไปจากอันตรายเชียวเหรอ!?!? Chihiro สาว สวยผู้ฝังความแค้น และรอยปวดร้ายในอดีตไว้ลึกสุดใจ กลับโดนกระทุ้ง แรงแค้น ออกมา เมื่อทรชนผู้ไม่รู้จักพอ ตามมา รังควาน และกดขี่ข่มเหง เห็นเธอเป็นเครื่องมือทางเพศ Chihiro ถามพระเจ้าว่า สิ่งที่เธอทำอยู่นั้น ถูกต้องหรือไม่ การ ให้อภัย หรือ การล้างแค้น จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด!?!! และเธอก็ตัดสินใจ ล้างแค้น!
ภาพที่เราเห็นในหนัง สื่อได้ชัดเจน ถึงอารมณ์ที่ผู้กำกับ Takashi Ishii ต้องการให้เห็น ภาพด้านมืดของผู้หญิงไม่มี ทางสู้คนหนึ่งได้ปรากฏเด่นชัดขึ้น จนเข้าขั้น ที่ว่า “การฆ่าคน เป็นเรื่องธรรมดา” เหมือนการ หั่นผัก หรือ ปอกผลไม้ เธอทำมันทุกครั้งที่อยากทำ จน กลายเป็นว่า “จิตใต้สำนึก” ด้านมืด เข้ามาข่ม “จิตสำนึก” ไว้อยู่หมัด ตัวหนังทำให้เราลุ้น และคอยติดตามจนถึงตอนท้ายของเรื่องที่ว่า
เธอ จะนำตัวของเธอเอง กลับมาสู่ โลกแห่งความจริงได้หรือไม่…
เธอจะหลุดพ้นจากจิตใต้สำนึกความแค้นของเธอได้หรือไม่…
และเธอจะฝังรอยอดีตของเธอไว้ได้ลึกเพียงใด
ลองติดตามดูกันครับ ใครอยากดูหนังในแบบ Psycho Thriller ที่แฝง Erotic / Horror ไว้อย่างเข้มข้น จะเป็น อย่างไรนั้น เรื่องนี้ชัดเจนครับ!
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: ผลงานนักแสดง Harumi Inoue, ผู้กำกับ Takashi Ishii, รีวิวหนัง Erotic Thriller, รีวิวหนัง Freeze Me
The Fog (Remake) (2005)
นำแสดง: Tom Welling (Nick Castle), Maggie Grace (Elizabeth Williams), Selma Blair (Stevie Wayne), DeRay Davis (Spooner), Kenneth Welsh (Tom Malone), Adrian Hough (Father Robert Malone), Sara Botsford (Kathy Williams), Cole Heppell (Andy Wayne)
กำกับ: Rupert Wainwright
เขียนบท: John Carpenter, Cooper Layne
ประเภท: Thriller/Horror/Mystery
หนังรีเมคของ John Carpenter ยุค 80s นำกลับมาทำใหม่โดยผู้กำกับ Rupert Wainwright ผู้เคยฝากผลงานไว้กับ Stigmata (1999) ทีวีซีรียส์ WolfLake ในปี 2001 รวมทั้งทีวีซีรีส์อีกหลายเรื่องที่เป็นผลงานการกำกับของ Rupert การที่ Rupert นำ The Fog หรือ John Carpenter’s The Fog มาทำใหม่ ถือว่าเป็นการกดดันอย่างมาก หนังเดิมที่ John Carpenter ทำไว้ในปี 1980 นั้น เป็นหนังสยองที่ได้รับคำชมมาพอสมควร อีกทั้งยังได้เข้าชิงรางวัล Saturn Award จากสถาบัน Academy of Science Fiction, Fantasy & Horror Films ของสหรัฐในสาขา Best Horror Film และ Best Special Effects มาแล้ว จึงถือว่าเป็นงานหนักของ Rupert มากโข และก็เป็นดั่งคาดครับ…
เรื่องราวของชายสี่คนที่สร้างความหายนะ ก่ออาชญากรรมการโกหก หักหลัง ทำลายเรือซีกราสให้จมดิ่งสู่ใต้ท้องทะเลลึก โดยที่ลูกหลานของชายทั้งสี่ที่ไม่รู้ความจริงนั้น คิดว่าการกระทำเหล่านั้นเป็นการสร้างเมือง สร้างเกาะให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมาถึงปัจจุบัน แต่เหตุการณ์ไม่ได้จบลงเพียงเท่านั้น หลายปีผ่านไป จนรุ่นหลาน วิญญาณร้าย อาฆาตแค้นของกลุ่มคนที่อยู่ในเรือซีกราสยังไม่เคยจางหาย “Blood For Blood” เลือดต้องแลกด้วยเลือด การล้างแค้นจึงเกิดขึ้น ด้วยตัวแทนของ “หมอก”
หนังยังคงไว้ซึ่งพล็อตเรื่องเดิมเสมอเป็นการให้ความเคารพแก่ต้นฉบับของ John Carpenter หากแต่ตัวบทที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นไม่ได้สร้างความสะพรึงกลัวให้กับหนังเลยสักนิด เหตุผลของการใช้หมอกเป็นเครื่องมือของการล้างแค้นยังให้เหตุผลไม่มีน้ำหนักเพียงพอ แม้จะได้ผู้กำกับภาพ (Cinematography) ฝีมือดีอย่าง Nathan Hope (ที่มีผลงานชื่อดังอย่างซีรีย์ CSI, หนังสยอง Hellraiser:Inferno) มาช่วยก็ยังไม่ได้สร้างให้หนังเรื่องนี้ดีตามที่คาดหวังไว้
เป็นดั่งคาดครับ..นาย Rupert คงต้องทำการบ้านหนักหน่อยครับ สำหรับการทำหนังรีเมคที่ต้นฉบับเค้าทำไว้ดีแล้ว
โดย ศร-รณ (ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: รีวิวหนังสยอง The Fog, รีวิวหนังสยองขวัญ หมอกมรณะ
Flesheater (1988)
Flesheater: Revenge of the Living Dead | Revenge of the Living Zombies | Zombie Nosh
นำแสดง: S. William Hinzman (Flesheater as Bill Hinzman), John Mowod (Bob), Leslie Ann Wick (Sally), Kevin Kindlin (Ralph), Charis Kirkpatrik Acuff (Lisa), James J. Rutan (Eddie), Lisa Smith (Kim), Denise Morrone (Carrie), Mark Strycula (Bill), Kathleen Marie Rupnik (Julie), Matthew C. Danilko (Tony), David A. Sodergren (Farmer Dave), Tom Madden (Tractor Driver as Tom ‘Where R.U.’ Madden), David Ashby (Harv)
กำกับและเขียนบท : S. William Hinzman
ประเภท: Horror
S. William Hinzman ผู้กำกับ นักแสดง ช่างภาพ ตากล้อง นักเขียนบท ผู้ที่คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์มานับสิบๆ ปี Hinzman กำกับภาพยนตร์อยู่สองเรื่อง หนึ่งในนั้นคือ Flesheater หนังซอมบี้ต้นทุนต่ำที่เขาลงทุนเขียนบทเอง กำกับเอง และแสดงเอง
จากข้อมูลใน IMDb ยังกล่าวอีกว่า Hinzman ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังซอมบี้ของ ลุง George A. Romero โดยเฉพาะในหนังเรื่อง Night of the living Dead ปี 1968 ที่ Hinzman ได้ร่วมแสดงเป็นซอมบี้ด้วย ที่สำคัญ ตัวละคร Flesheater ในเรื่องนี้ ได้แรงบันดาลใจ จากตัวละครซอมบี้ที่เขาแสดงในเรื่อง Night of the Living Dead เท่านั้นยังไม่พอ เขายังใช้ชื่อ Flesheater มาจากชื่อหนังอีกชื่อของ Night of the living dead นั่นก็คือ Night of the Flesheater
แม้ว่า หนังเรื่องนี้จะได้เสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ชนิดที่ว่าไม่ได้ดีเด่น แต่ก็ไม่ได้เน่าเฟะ และจากข้อมูลเบื้องต้นเท่านี้ครับ ทำให้ผมต้องเพียรหาหนังเรื่อง Flesheater มาดู มาแนะนำให้เพื่อนๆ ฟิล์มสยองได้อ่าน ได้ไปหาดูกันครับ
พล๊อตหนังก็เป็นอย่างที่เราคุ้นเคยกับหนังเกรดบี หนังซอมบี้ นั่นคือ กลุ่มเด็กวัยรุ่นรวมตัวกันไปเที่ยวพักตากอากาศและก็ต้องมาเจอเจ้าซอมบี้ผีดิบ กินเนื้อ กินเลือด และแถมยังบ้ากาม บีบเคล้นนม อย่างเมามันอีกด้วย ฮ่าฮ่า ไม่รู้แต่ละคน ถือโอกาสนอกบทหรือเปล่า แต่ดูแล้วก็ได้อารมณ์ฮา ฮา ดีไม่น้อยครับ
Flesheater เป็นหนังซอมบี้ที่มีบทภาพยนตร์ไม่ได้โดดเด่น แถมจะยังดูเพี้ยนๆ ต๊องๆ อีกด้วย ลีลาการแสดงของนักแสดงในเรื่องก็แข็ง (ยิ่งกว่าผีดิบ) ไร้รสชาด แม้กระทั่งบทลีลารัก ฉาก love scene ก็ยังดูไม่เอาไหนอีกต่างหาก แต่ หากใครเป็นคอหนังซอมบี้ ที่นิยมความดิบ Gore แหวะ เลือดท่วมจอ ก็ไม่น่าพลาดครับ Hinzman ไม่ใช่บุคลากรแห่งแวดวงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ไม่มีฝีมือครับ ลองติดตามหามาชำเรากันได้
โดย ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร
Rating: 2.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: Revenge of the Living Dead, Revenge of the Living Zombies, Zombie Nosh, รีวิวหนังซอมบี้ Flesheater (1988)
Final Destination 3 (2006)
นำแสดง: Mary Elizabeth Winstead, Ryan Merriman, Kris Lemche, Amanda Crew, Alexz Johnson, Texas Battle, Jesse Moss
กำกับ: James Wong
เขียนบท: James Wong และ Glen Morgan
ประเภท: Thriller/ Horror / Mystery
ครั้งแรก ความตายพบพวกเขา…
ครั้งต่อมา ความตายเตือนพวกเขา…
และครั้งนี้…ความตายจะจัดการพวกเขาให้จบสิ้น
เรื่องราวเกิดขึ้น 6 ปีหลังเหตุการณ์ในภาคแรก โดยใช้สวนสนุกและรถไฟเหาะเป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก เพื่อเข้าไปสู่โครงสร้างของการโกงความตาย ตามมาตรฐานความสำเร็จที่เกิดขึ้นในภาคแรกและภาคสอง หนังดำเนินเรื่องด้วยภาพที่ถ่ายจากกล้องดิจิตัล Wendy (Mary Elizabeth Winstead) นางเอกสาวและเพื่อนที่กำลังเที่ยวในสวนสนุกกำลังเล่นเครื่องเล่น ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน และเมื่อพวกเขามาถึงเครื่องเล่นรถไฟเหาะตีลังกา Wendy ก็เริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆ ที่ทำให้เธอเห็นถึงเหตุการณ์ในอนาคต เหตุการณ์สยองที่กำลังจะเกิดขึ้นบนรถไฟเหาะ เธอเริ่มโวยวายและบอกให้หยุดเครื่องเล่นนั้นทันที…
….
….
…
..
ท้ายสุดของเรื่องเธอและเพื่อนๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ต้องกลับมาเผชิญชะตากรรมกันอีกครั้งในรถไฟอีกครั้ง…
คงไม่ขอสาธยายอะไรกันให้มากกความ คิดว่าใครที่เคยดู Final Destination ภาคแรกและภาคสองแล้ว คงจะเดาพล็อตเรื่องออกได้ไม่ยาก ซึ่งจริงๆ แล้วใครเคยดูแค่เพียงภาคแรก หรือภาคสองเพียงอย่างเดียวก็สามารถดูภาคนี้ได้รู้เรื่องโดยไม่ยากเย็น ตัวบทจะกล่าวอ้างอิงถึงเรื่องราวในภาคแรกเพียงเล็กน้อย (เหตุที่กล่าวถึงแต่ภาคแรกเพราะ Wong เป็นคนกำกับในภาคแรกและภาคนี้) ซึ่งถึงจะไม่ได้ดูทั้งสองภาคแรกก็ไม่ได้ทำให้ดูภาคนี้ไม่รู้เรื่อง โดยส่วนตัว ขอบอกเลยว่าผิดหวังกับบทที่แลดูอ่อนมาก (เกินความคาดหมาย) ของ Glen Morgan และ James Wong เรื่องดำเนินไปด้วยความไร้เหตุผล ไร้ชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง กลับขายหนังด้วยความรุนแรง สยอง แหวะด้วยภาพแบบ Gore (ถ้าคนชอบความรุนแรง แหวะ ในสไตล์ของภาคแรกก็คงจะเป็นที่น่าพอใจ) มากจนเลี่ยน ซึ่งถ้าหนังขายบทที่ดี กอปรไปด้วยความรุนแรงในสไตล์ของ Wong ก็น่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ไม่น้อย
หนังที่ว่า นำเอาความรุนแรงมาเป็นจุดขายนั้น ถ้าใครนึกไม่ออกก็อยากจะให้นึกถึงหนังเกรดบี จำพวกถูกทุบหัวแบะ ถูกบี้เละตายคาที่ หรือหนังจำพวกถูกเสียบตาถลนอะไรจำพวกนี้แหละครับ ถ้าใครชอบความรุนแรง ภาพแบบ Gore ก็คงชอบหลาย ๆ ฉากที่ Wong ทำไว้ (ฉากรุนแรง สะใจอยู่ไม่น้อย) ใครที่เป็นแฟนหนังของ Wong อยู่แล้ว ก็ติดตามดูได้ครับ ส่วนใครที่ตั้งความหวังว่า ภาคสุดท้ายของหนังไตรภาคนี้จะทำออกมาได้อย่างสุดยอด ทิ้งทวนความประทับใจสยองแล้วล่ะก็ ลองลดความคาดหวังลงมาหน่อยก่อนที่จะชมหนังภาคนี้ก่อนก็ดีครับ จะได้ไม่เสียความรู้สึก…
โดย ศร-รณ
Rating: 3.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: ผลงานผู้กำกับ James Wong, รีวิวหนังโกงความตาย, หนัง final destination 3, หนังตระกูล final destination, โกงความตาย เย้ยความตาย
Female Market : Imprisonment (1986)
Ryojoku mesu ichiba – kankin
นำแสดง: Kaori Aso (Miki Uchiyama as Kaori Mai), Minako Ogawa (Akiko Saito), Kayo Kiyomoto, Tatsuya Aoki, Nobutaka Masutomi (as Butaka Masutomi), Mami Fujimura, Kume Anzai, Miki Kazahara, Chieko Oda, Noriko Hanai, Yumiko Komiya, Dennis Robertson, Arie Pretty, Tamaki Komiyama, Takahiko Okuyama
กำกับ: Yasuaki Uegaki
เขียนบท: Kazuo ‘Gaira’ Komizu
ประเภท: Horror / Torture / Porno
ผลงานการเขียนบทของยอดฝีมือ Horror Porn / Gore ของญี่ปุ่น Gaira “Famale Market” เป็นผลงานก่อนที่จะสร้างความโด่งดังฮือฮา ใน Guts of a Virgin ทั้งภาค 1 และ 2 ที่รับรองความคลาสสิกในแบบฉบับของ Gaira โดยเฉพาะครับ
เรื่องราวของชีวิตประจำวันของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องเปลี่ยนไป เมื่อเธอถูกจับมารวมตัวกับผู้หญิงอีกหลายคน ในตลาด “ค้ากามมนุษย์”! มิกิ สาวสวยทำงานออฟฟิศธรรมดาทั่วไป ที่ดำเนินชีวิตประจำวันด้วยการตื่นเช้าไปทำงาน ออกกำลังกาย สังสรรกับเพื่อนฝูง ต้องถูกจับตัวไปกลางดึก เมื่อหล่อนตื่นขึ้นมา ก็ต้องพบกับภาพการทรมานหญิงสาว ที่ถูกจับห้อยหัวอย่างทารุณ เธอถูกจับมารวมกับหญิงสาวสวยอีกสี่คน ซึ่งในโกดักค้ามนุษย์แห่งนั้น ยังมีหญิงสาวอีกมากกว่าสิบคน คอยให้บริการอยู่
หนึ่งในลูกค้าบ้ากามแบบไม่มีจำกัดนั่นก็คือ ไอ้มืดเมกัน ที่มีความยาวเยี่ยงม้า ความมหึมาเยี่ยงช้าง การได้รับประทานอาหาร พร้อมกับการทรมานทางเพศกับเหล่าหญิงสาวสาว ขาว หมวยตาโต นั่นคือสิ่งที่ ตลาดค้ากาม แห่งนี้ทำกัน ฉากทรมานทางเพศโหด ๆ มีตั้งแต่ การนั่งกินอาหารสุดหรูบนโต๊ะ และใต้โต๊ะก็มีหญิงบริการทางเพศจัดการเสร็จสรรพกับอาวุธคู่กายของลูกค้าให้ จนถึงการทรมานด้วยเชือก แส้ ไปจนถึงเข็มที่ชาวจีนไว้ใช้รักษาอาการต่างๆ แต่ตลาดค้ากามแห่งนี้กลับนำมันมาใช้ กระตุ้มต่อมอารมณ์ทางเพศของหญิงสาวให้เกิดความปรารถนาในการต้อนรับแขกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ฉากการหนีของหญิงสาวของคน โดยการล่อสมาชิกผู้ค้ากามเข้ามาในห้องขัง พร้อมทำการ oral ให้อยากมีความสุข ก่อนที่จะกัดไอ้จ้อนของพวกมันให้ขาดกระจุย…นี่ไม่ใช่หนัง Gore สุดโหด แต่มันเป็นหนังที่สร้างอยู่บนพื้นฐานของความจริง..โอ้ว ใจเด็ดน่าดูทีเดียว!
การคัดเลือกเหยื่อที่ไม่มีคนสนใจสังคม ผู้ที่ต้องอยู่คนเดียวในคอนโด ไม่มีพ่อแม่ พี่น้อง นี่แหละเป็นคุณสมบัติหลักที่ทำให้หญิงสาวพวกนี้ถูกเลือกมา…นี่เป็นหนังที่เต็มไปด้วยความรุนแรงทางเพศ ฉากโจ่งครึ้มสุดโต่ง แต่ก็ยังมีบางส่วนถูกเซ็นเซอร์ไว้ แต่ไม่ได้น่าเกลียดแต่อย่างใด สิ่งเป็นข้อดีในเรื่องนี้คือ อุทาหรณ์หรือข้อเตือนใจของหญิงสาวที่ควรระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ควรไว้ใจ หรือนิ่งนอนใจกับสิ่งรอบข้าง ไปจนถึงการ “ต่อสู้” ที่ไม่เคยยอมแพ้ หรือหมดหวังกับสิ่งเลวร้าย นี่แหละ คือ สิ่งที่ทุกคนควรตระหนักไว้
ใช่ว่า สิ่งที่เราเห็นในหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้ จะไม่เกิดขึ้นในบ้านเรา สังคมที่มีเพียงเงิน ก็สามารถสนองตัณหาราคะได้นั้น มีอยู่ในทุกคนสังคมทั่วโลก ไม่ต้องไปโทษถึงผู้รับผิดชอบ ผู้มีอำนาจต่างๆ นานา เริ่มต้นที่ตัวเราก่อนครับ แล้วทุกๆ อย่างจะดีขึ้นเอง
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: ผู้กำกับ Yasuaki Uegaki, รีวิวหนัง Female Market Imprisonment 1986, รีวิวหนังสยอง, หนังญ๊่ปุ่นโรคจิต, หนังสยอง ทรมาน, เขียนบท Kazuo Gaira Komizu
Evil Dead Trap 2 (1991)
Shiryo no wana 2
นำแสดง: Youko Nakagima, Rie Kondou, Shirou Sano, Shino Ikenami
กำกับ: Izo Hashimoto
ประเภท: Horror / Porn Psycho
เรื่องย่อ…
หญิงอวบ มีอาชีพเป็นคนฉายหนัง…เธอเป็นคนไม่ค่อยมีเพื่อน ขี้อาย แต่เก็บกด และมี ความวิปริตแฝงอยู่ในจิตใจเข้าขั้นโรคจิต 100% ยามทำงานเธอจะเงียบ เรียบร้อย แต่ หลังจากเลิกงาน เธอต้องออกหาเหยื่อ เหยื่อที่ว่าของเธอคือ หญิงโสเภณี เธอชอบวิธี การฆ่าโดยใช้กรรไกร หรือมีดแหลมคม ควักมดลูกของเหยื่อออก ทรมานให้ตายอย่าง ช้าๆ หญิงอวบคนนี้มีเพื่อนเป็นนักข่าวสาวสวย เพื่อนคนนี้แหละแนะนำให้หญิงอวบได้ รู้จักกับแฟนหนุ่มของตัวเอง นักข่าวสาวที่มีนิสัยแปลกประหลาดยุยงให้หญิงอวบและ แฟนหนุ่มของเขามีอะไรกัน เรื่องราวสุดแสนสับสน อลหม่านเกินกว่าจะคาดเดา สิ่งที่ เกี่ยวข้องอย่างเดียวระหว่าง Evil Dead Trap ภาค 1 และ 2 คือ เจ้า Hideki เด็ก ผีท่าทางประหลาดที่หญิงอวบมักจะเห็นบ่อยๆ ในโรงหนัง (คาดว่าเจ้า Hideki คือ สัตว์ประหลาดจากภาคแรกและเติบโตมาเป็นเด็กผีตนนี้) แล้วเจ้านี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับ คนสามคนนี้ล่ะ…เล่าก็ไม่สนุกครับ ไปหาดูกันเองดีกว่า…
Evil Dead Trap 2
จากความสำเร็จในภาคแรกของ Evil Dead Trap จากต้นสังกัดจึงทำหนังเรื่องนี้ ออกมาเป็นภาคต่อ แต่เรื่องราวจริงๆ นั้น ไม่ค่อยได้เกี่ยวข้องกับภาคแรกเท่าไรครับ อย่างที่เล่าแล้วว่า สิ่งเกี่ยวข้องอย่างเดียวของหนังทั้งสองภาคคือ เจ้า Hideki สัตว์ ประหลาดจากภาคแรก และเติบโตมาเป็นเด็กผีท่าทางประหลาดที่หญิงอวบมักจะตา ฝาดเห็นบ่อย ๆ ในโรงหนัง เนื้อเรื่องในภาคสองเน้นความวิปริตในจิตใจมนุษย์ และ ด้านมืดที่แฝงอยู่ในตัวมากกว่าภาคแรกเยอะครับ (ลักษณะแนวคิดแบบของ Jorg Buttgereit ในหนังเรื่อง Nekromantik) เลือด ไส้ ตับ ไต ดูสมจริงมากกว่าภาคแรก ฉากเซ็กส์ยังคงมีอยู่ในเรื่อง ทั้งฉากระหว่างนักข่าวสาวกับแฟนหนุ่ม และแฟนหนุ่ม ของนักข่าวสาวกับหญิงอวบเห็นแล้วคงเร้าอารมณ์พวกท่านได้ไม่น้อย นอกจากฉาก เซ็กส์แล้ว อยากให้ดูช่วงท้ายๆ ของเรื่องครับ ทำเอาอึ้งอยู่ มันหักมุมอยู่ไม่น้อยครับ
อีกหนึ่งหนังวิปริตที่คอวิปริตน่าจะลองไปหามาดูกันนะ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies D - F Tagged with: ตระกูลหนัง Evil Dead Trap, รีวิวหนัง Evil Dead Trap 2, หนังญี่ปุ่นโรคจิต, หนังผู้กำกับ Izo Hashimoto, หนังสยองโรคจิต