Daybreakers (2009)
วันแวมไพร์ครองโลก
กำกับและเขียนบท: Michael Spierig และ Peter Spierig
นำแสดง: Ethan Hawke (Edward Dalton), Claudia Karvan (Audrey Bennett),Michael Dorman (Frankie Dalton), Harriet Minto-Day (Lisa Barrett), Jay Laga’aia (Senator Turner), Damien Garvey (Senator Westlake), Sahaj Dumpleton (Homeless Vampire), Allan Todd (Businessman), Gabriella Di Labio (Businesswoman), Ben Siemer (Police Officer), Peter Welman (Police Officer)
ประเภท: Sci-Fi / Horror / Thriller / Action
ปีค.ศ. 2019 หลังเกิดโรคระบาดร้ายแรงทำให้มนุษย์เกือบทั้งหมดต้องกลายพันธุ์เป็นแวมไพร์ มนุษย์บางส่วนที่เหลืออยู่ก็ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เพราะถูกเจ้าแวมไพร์ไล่ฆ่า “เลือด” อาหารอันโอชะ เมื่อมนุษย์ใกล้สูญพันธุ์หมดในโลกของแวมไพร์ ภาวะการขาดแคลนเลือดจึงเกิดขึ้น แวมไพร์มากมายต่างหิวกระหายจนก่อให้เกิดความปั่นป่วนวุ่ยวายในสังคม
Edward Dalton (นำแสดงโดย Ethan Hawke) นักวิทยาศาสตร์ผู้วิจัยค้นคว้าหาสิ่งที่มาทดแทนเลือด เพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์ของแวมไพร์ต่อไป เขาเป็นผู้ที่ปฏิเสธการดื่มเลือดมนุษย์เป็นอาหาร และเขาเป็นผู้ที่มีความปรารถนาอยู่ตลอดเวลาในการที่จะกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ซึ่งในที่สุดเขาก็ได้พบกับกลุ่มมนุษย์ผู้รอดชีวิต และหาทางกลับไปสู่ความเป็นมนุษย์ พร้อมทั้งค้นพบตัวยาสำคัญที่จะทำให้แวมไพร์กลับมาเป็นมนุษย์ได้อีกครั้ง
Daybreaker วันแวมไพร์ครองโลก
Daybreaker ผลงานการกำกับของสองพี่น้อง Spierig เล่าเรื่องราวของโลกมนุษย์ที่กลายพันธุ์เป็นแวมไพร์เกือบหมดโลก ไม่วายที่จะเสียดสีด้วยมุมมองของชนชั้นวรรณะที่ถูกแบ่งระหว่างแวมไพร์ชั้นสูงกับชั้นต่ำ ประชดประชันด้วยเรื่องราวของการแก่งแย่ง “เลือด” อาหารอันโอชะระหว่างแวมไพร์กับแวมไพร์ หรือแม้กระทั่งการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ เพื่อให้ได้มาถึงสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องการ บทภาพยนตร์ Action Sci-Fi / Horror เรื่องนี้ ผมว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งทีเดียวครับ มุมมองการประชดประชันเสียดสีสังคมโลกมนุษย์ในปัจจุบันได้ดีเลย เรามองภาพในภาพยนตร์และหวนกลับมามองถึงภาพของสังคมในปัจจุบันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปกับแวมไพร์กระหายเลือด บ้าอำนาจ และกระหายในสิ่งที่ตนต้องการจนลืมความเป็นมนุษย์ปถุชนคนธรรมดา
ถ้ามองในมุมของคนไทยเรา Edward Dalton เป็นตัวแทนของผู้รู้ ผู้ตื่นที่รู้จักความเป็นมนุษย์ รู้จักทางสายกลาง และรู้จักคำว่าพอ Frankie Dalton น้องชายของ Edward และเป็นนายทหารผู้อ่อนแอต้องการกลายพันธุ์เป็นแวมไพร์เพื่อต้องการความแข็งแกร่งให้ตัวเอง ต้องการพลัง ต้องการให้คนชื่นชม แต่ทว่าในท้ายที่สุดก็รับรู้และเข้าใจในเจตนาของพี่ชาย ซึ่งเขาเองก็ยอมเสียสละตัวเองเป็นยารักษาให้แวมไพร์กลับคืนสู่ร่างของมนุษย์อีกครั้ง สำหรับผมแล้วบทภาพยนตร์เรื่องนี้ทำออกมาน่าสนใจดีครับ เสียอย่างเดียวคือตอนจบของเรื่องที่มันปิดการขายแบบง่ายไปหน่อย (บทภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่รู้ว่าได้แรงบันดาลใจจากบทภาพยนตร์ดี ๆ ประชดเสียดสีสังคมและความเห็นแก่ตัวของมนุษย์อย่าง 28 Days Later หรือเปล่านะ)
นอกจากเรื่องบทภาพยนตร์แล้ว ส่วนอื่นๆ ก็ทำออกมาในระดับกลางๆ ครับ ทั้งงาน Action ภาพของโลกในอนาคต หรือมุมมองของแวมไพร์ที่ไม่ได้เอามาบอกเล่าในสไตล์ของแวมไพร์เดิม ๆ ที่เราเห็นทั่วๆ ไป ภาพแหวะ เลือดสาดก็มีอยู่บ้างพอเป็นน้ำจิ้มสำหรับคนชอบเลือด ชอบความรุนแรง
ถ้าอยากเห็นแวมไพร์กัดกันเลือดสาด ในแบบหนังซอมบี้ล้างผลาญก็คงไม่สะใจล่ะครับ แต่หากอยากเสพมุมมองการนำเสนอเนื้อหาผ่านหนังแวมไพร์ครองโลกที่เข้ากันได้ดีกับสังคมโลก หรือแม้แต่สังคมไทยตอนนี้ ก็ไปดูได้เลยครับ สนุก ๆ เพลิน ๆ (ตอนนี้ยังไม่ออกจากโรงภาพยนตร์มั้ง ลองเช็คดูครับ)
ปล: สาวๆ ที่กรี๊ดในความเท่ห์ของเฮีย Ethan Hawke ก็ไม่ต้องคิดมากครับ ไปดูได้เลย พี่เค้ายังเท่ห์เหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00
Powered by Facebook Comments