The Happiness of the Katakuris (2001)
Katakuri-ke no kofuku
นำแสดง: Kenji Sawada (Masao Katakuri), Keiko Matsuzaka (Terue Katakuri), Shinji Takeda (Masayuki Katakuri), Naomi Nishida (Shizue Katakuri), Kiyoshiro Imawano (Richado Sagawa), Tetsuro Tamba (Ojisan Jinpei Katakuri), Naoto Takenaka (TV Reporter/Singer), Tamaki Miyazaki (Yurie Katakuri), Takashi Matsuzaki (Utanomi)
กำกับ: Takashi Miike
เขียนบท: Ai Kennedy (translation), Kikumi Yamagishi (screenplay)
ประเภท: Comedy / Thriller / Musicle / Horror
หนังสร้างจากต้นฉบับเรื่อง The Quiet Family (1998) หนังเกาหลีที่เขียนบท และกำกับโดย Kim Ji-Woon เจ้าของผลงานหนังสยองเรื่อง A Tale of Two Sisters หนังว่าด้วยเรื่องของครอบครัว Katakuri ที่มีหัวหน้าครอบครัวเป็นพนักงานขายรองเท้าในห้างที่ติดสินใจซื้อ ไปเปิดเกสต์เฮาส์ชื่อ White Lover’s Inn ซึ่งจุดที่พวกเขาไปเปิดที่พักนั้น เป็นจุดที่นักเดินเขา เดินป่าต้องเดินผ่าน และเป็นที่ทำเลทองที่กำลังจะมีถนนมาตัดผ่านหน้าเกสต์เฮ้าส์ ทว่า เรื่องราวมันไม่ได้ง่ายดังที่ฝันไว้ ห้องพักที่เปิดไว้นั้นกลับไม่มีคนมาพักเลย ส่วนพวกที่เข้ามาพัก ก็ดันต้องมามีอันเป็นไรทุกราย เริ่มตั้งแต่แขกรายแรกที่มาฆ่าตัวตายในห้อง และก็มีแขกรายต่อ ๆ ไป เข้ามา ซึ่งก็ต้องมีเหตุให้ต้องจบชีวิตลง สิ่งเดียวที่ครอบครัว Katakuri ทำได้คือ ปกปิดความจริงไม่ให้ตำรวจรู้ เขาจึงต้องเอาศพไปฝังซ่อนเอาไว้ จากหนึ่งศพ ก็เป็นสอง จากสองศพก็เป็นสาม และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องราวในตอนท้ายเป็นอย่างไร คงต้องติดตามดูกันเอาครับ
เทคนิกการทำหนังเรื่องนี้ ลุง Miike งัดมาใช้เพียบครับ ตั้งแต่การใช้ภาพที่สร้างจากตัวการ์ตูนคล้ายแบบพวกปั้นดินน้ำมัน กราฟฟิคภาพการ์ตูนซ้อนภาพจริง การทำ Animation แบบที่เรียกว่า Stop Motion เฟรม ต่อ เฟรม แล้วยิ่งทำ Stop Motion แบบติดกลิ่น Horror ด้วยแล้วเนี่ย มันยิ่งน่าสนใจครับ เรียกว่าคุณจะเห็นได้ตั้งแต่ฉากแรกของหนัง และจะมีให้เห็นตลอดเรื่องครับ น่าสนใจมาก เรียกว่า ทำซ้อนกับภาพจริงได้เนียน และน่าตื่นตาดีเหลือเกิน นอกจากนี้ ก็ยังมีฉากแบบหน้าจอคาราโอเกะ ขึ้น sub ให้ร้องตามกันอีกด้วย
พูดถึงฉากต่างๆ ในเรื่องครับ ลุง Miike ยังทำหนังตามโครงร่างเดิมของหนังต้นฉบับครับ เรียกว่าเป็นโครงเท่านั้นนะ เพราะนอกนั้น รายละเอียดต่างๆ ในหนัง ลุง Miike แก ปรับเปลี่ยนชนิดที่เรียกว่า เป็น Miike ‘s Style ครับ เพราะต้นฉบับ The Quiet Family ไม่ได้ทำเป็นหนังเพลงครับ ยิ่งใน Happiness of the Katakuris ใช้ความเป็น Musicle Movie มาเป็นจุดเด่นของหนังด้วยแล้ว ทำให้ลุง Miike แกต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ ให้เหมาะสมกับตัวหนังไปไม่น้อย ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนครับ ว่าทั้งต้นฉบับ The Quiet Family ของเกาหลีทำไว้ดีอยู่แล้ว ส่วนในเวอร์ชั่นของลุง Miike นำมาทำนั้น ก็ดีในสไตล์ของลุงแกโดยเฉพาะ ทางที่ดี ลองหาหนังทั้งสองเวอร์ชั่นมาดูครับ แนะนำๆ
กลับมาพูดถึงฉากต่างๆ ต่อ Happiness of the Katakuris ไม่ใช่หนังที่มีฉากดุๆ โหด ๆ อย่างที่ลุง Miike เคยทำมาก่อน เพราะฉะนั้นของเตือนไว้ก่อนเลยว่า ผู้ที่ต้องการเสพหนังโหด ให้หลีกทางไปให้ไกล ๆ ครับ ฉากในหนังเรื่องนี้ จะว่าไปเต็มไปด้วยฉากสวย ๆ ภาพสวย ๆ เยอะครับ มุมกล้อง การถ่ายทำ และมีการเติมสีสัน การย้อมสีหนังด้วยกราฟฟิคคอมพิวเตอร์เข้าไปด้วย ฉากเด่นๆ และเด็ด คงไม่พ้น ภาพการเต้นรำอย่างพร้อมเพรียงในสไตล์หนังยุค 60 – 70’s ถ้านึกไม่ออกลองนึกภาพของหนังพวก West Side Story (1961) , Grease (1978) ฉาก Musicle Movie ชนิดพวก Gangster ยกพวกตีกัน แข่งเต้นกัน ก็ยังถูกนำมาใช้ได้ดัดแปลงอย่างกลมกลืม
ฉากอย่างซอมบี้ กับมนุษย์ มาร่วมกัน Dance เพลงประมาณพวกหนังอย่าง West Side Story นั้นก็ขำสุด ๆ สร้างสรรค์ความฮาชนิดไม่หวงวิชา ทำให้พาลนึกถึง Shaun of the Dead และมิวสิควิดีโอของไมเคิล แจ็กสัน เพลงประมาณยุคชุด Thriller ที่มีพวกกลุ่มผีดิบออกมาเต้นในสไตล์ยุค 70’s ผมว่า Miike ตั้งใจล้อเลียนตรงจุดนี้แบบโจ่งครึ่มได้อารมณ์พาเพลินไปกับดนตรีดีแท้ ทำนองเพลงในเรื่องนั้นคุ้นๆ ในหลาย ๆ เรื่องครับ อย่างทำนองของหนังเพลงเรื่อง West Side Story นี่ เด่นมาแต่ไกล เพลงและฉาก ตั้งใจล้อเลียน The Sound of Music (1965) อย่างตั้งใจครับ
หนังเรื่องนี้ได้รางวัล Jury Prize ปี 2004 มาการันตีอีกด้วย
“แฟนภาพยนตร์ของลุง Miike จะพลาดหนังเรื่องนี้ไปได้อย่างไรจ้ะ !!!???!!!”
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: ผลงานผู้กำกับ Takashi Miike, รีวิวหนัง Takashi Miike, รีวิวหนัง The Happiness of the Katakuris (2001), หนัง Takashi Miike, หนัง The Happiness of the Katakuris
Haute tension (2003)
High tension
สับ – สับ – สับ
นำแสดง: Cecile De France (Marie), Maiwenn Le Besco (Alexia), Philippe Nahon (The Killer), Franck Khalfoun (Jimmy), Andrei Finti (Alex’s Father), Oana Pellea (Alex’s Mother), Marco Claudiu Pascu (Tom), Jean-Claude de Goros (Police Captain), Bogdan Uritescu (Gendarme) Gabriel Spahiu (Homme voiture)
กำกับและเขียนบท: Alexandre Aja
ประเภท: Horror / Thriller / Crime
เรื่องย่อ…
“มารี (เซซิลล์ เดอ ฟรองซ์) นักศึกษาสาววัย 20 ปี และ อเล็กซ์ (ไมเว่นน์ เลอ เบสโก้) เพื่อนสนิทของเธอ กับการเดินทางมาพักผ่อนยังบ้านพักที่ฟาร์มของครอบครัวของอเล็กซ์ ในชนบทอันห่างไกล ความเงียบสงบเงียบงันของชนบทกำลังนำไปสู่ประตูของความสยองขวัญ แห่งค่ำคืนนรกของชีวิต มารี, อเล็กซ์ และสมาชิกในครอบครัวของเธอ เมื่อฆาตกรต่อเนื่อง ในคราบของคนส่งของออกอาละวาด และคร่าชีวิตพวกคนเหล่านั้นไปอย่างเลือดเย็น…”
นั่นคือ เรื่องย่อที่เขียนไว้สั้นๆ บริเวณหลังปกซีดีลิขสิทธิ์ที่ทาง ‘เจ-บิ้คส์’ นำลิขสิทธิ์ผลิตหนังเรื่องนี้ออกมาขาย…ใครจะไปรู้ว่า ไอ้หนัง 39 บาทที่ขายอยู่ตามกะบะร้านสะดวกซื้อจะเป็นหนังมีค่าถูกนักดูหนัง และนักสร้างหนังหลายคนยกย่องให้ Haute Tension เป็นอีกหนึ่งหนัง ‘คัลต์’ ที่ต้องติดตามดู
Haute tension (2003)
ตามสูตรหนังสยองที่ใช้ดารานักแสดงน้อย แต่ต้องยอมรับว่านักแสดงแต่ละคนในเรื่องล้วนแล้วแต่แสดงได้เยี่ยม ทั้งอเล็กซ์ และ มารี ทำเอาเรารู้สึกลุ้นไปกับเธอทั้งสอง กอปรกับเสียงประกอบภาพยนตร์ด้วยซาวนด์อิเล็กทรอนิกส์ปั่นป่วนด้วยซาวดน์อินดัสเตรียลจางๆ บวกกับเพลงประกอบจากฝรั่งเศสในยุค 70’s ไปจนถึงดนตรี ambient alter กีตาร์โปร่งจางๆ เสียงร้องหลอนๆ เรียกว่า ดนตรีในหนังเรื่องนี้มีส่วนปลุก ดึง กระชาก อารมณ์ของคนดูอย่างมาก ประกอบกับฉากโหดๆ ที่ใช้มุมภาพราวกับว่าคนดูไปอยู่ในสถานที่จริงด้วยยังไงยังงั้น ภาพตอนกลางคืน (ที่มีอยู่เกือบทั้งเรื่อง) ถูกย้อมด้วยสีเหลืองจัด ดำจัด แดงจัด อยู่ตลอดเรื่อง มีผ่อนคลายอารมณ์ด้วยภาพทิวทัศน์สวยๆ ท้องฟ้าโปร่ง(อยู่บ้าง) เรียกว่า อึดอัด กะไม่ให้หายใจหายคอกันเลย สรุปได้ง่ายๆ ครับ…หนังสยองที่คนขวัญอ่อน เด็ก และสตรีมีครรภ์ไม่ควรชมครับ มีแต่เลือด เลือด เลือดทั้งเรื่อง…สิ่งที่ Aja ทำไว้นอกจากความรุนแรงที่ประเคนให้ในหนังแบบเรท NC-17 ก็ว่าได้นั่นคือ เรื่องราวของจิตเวชที่ทำเอาเราอึ้งในตอนจบที่หักมุมสุดๆ …แฟนหนังซาดิสต์ เลือดสาดพลาดไม่ได้!
Haute Tension หรือชื่ออังกฤษว่า High Tension/Switchblade Romance หนังฝรั่งเศสที่ได้รางวัลชนะเลิศ Catalonian International Film Festival จากประเทศสเปนในสาขา Best Actress (Cecile De France), Best Director (Alexandre Aja), Best Make – Up (Giannetto De Rossi), Grand Prize of European Fantasy Film in Silver (Alexandre Aja) และเข้าชิงรางวัลอีกหลายรางวัล
Aja เริ่มจากหนังสั้นชื่อ Over the Rainbow ในปี 1997 หนังสั้นที่ได้ถูกกล่าวขาน ยกย่องให้เป็นหนึ่งในตำราที่ผู้กำกับรุ่นใหม่ต้องดำเนินตาม จนกระทั่งเขามาสร้างชื่อจาก Haute Tension ในปี 2003 ซึ่งจากหนังเรื่องนี้ที่เขากำกับ ทำให้ชื่อของ Alexandre Aja ติดอันดับผู้กำกับหนังสยองที่ได้ชื่อว่าทำหนังได้โหด ดิบ สมใจจริงๆ จนกระทั่งล่าสุดเขารับหน้าที่กำกับหนังรีเมคอีกสองเรื่องคือ The Hills Have Eyes และ Into The Mirror คงต้องติดตามผลงานของผู้กำกับคนนี้ต่อไปครับ มีอะไรที่มากกว่า “PG-13” ให้ดูแน่นอน!
โดย: ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.60 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: ผลงานผู้กำกับ Alexandre Aja, ผู้กำกับ Alexandre Aja, รีวิวหนัง Haute tension (2003), รีวิวหนัง High Tension, หนัง Haute tension (2003), หนัง High Tension
H (2002)
หั่น เหี้ยม โหด
กำกับและเขียนบท: Jong-hyuk Lee
นำแสดง: Jung-ah Yum (Detective Kim Mi Yun), Jin-hee Ji (Detective Kang Tae Hyun), Ji-ru Sung (Detective Park), Seung-woo Cho (Shin Hyun), Woong-ki Min (Choi Young Jin), Yong Soo Park (Chief Jang), Hyuk Poong Kwon (Captain Lee), Eol Lee (Detective Han Jung-Woo), In-kwon Kim (Huh Young-Taek), Kil-soo Park (Bae Yong-Man), Sun-kyung Kim (Dr. Chu Kyung-sook)
ประเภท: Crime / Thriller / Mystery / Drama
“ฆาตกรอยู่ในเรือนจำ แต่ฆาตกรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงมือต่อเหยื่อเป็นวิธีการเดียวกันที่เกิดขึ้นกับเหยื่อหกรายเมื่อหลายปีก่อน และฆาตกรที่ก่อเหตุก็ยังติดคุกอยู่ในเรือนจำ ทั้งที่เงื่อนงำหลาย ๆ อย่างเชื่อมโยง และชี้ชัดว่าเกี่ยวพันกัน สถานการณ์จะถูกแก้ไขได้ทันท่วงทีหรือไม่ ก่อนที่เหยื่อรายต่อไปจะถูกลงมือ…”
“H” หนังเกาหลีฆาตกรต่อเนื่อง ซ้อนภาพ ให้เราลุ้นต่อจิกซอว์กันตลอดทั้งเรื่อง แม้จะกระทั้งตอนจบก็ยังไม่วายทิ้งปมให้เราได้ลุ้น ได้คิดกันต่อ จะว่าไป “H” ติดกลิ่น และอิทธิพลจากหนังฮอลิวู๊ดดังๆ หลายเรื่องอยู่ครับ อารมณ์มัวแบบ Seven ฟุ้งคละเคล้าไปด้วยพล๊อตในแบบ The Silence of the Lambs หนังโคตรคัลต์หนึ่งในดวงใจนักดูหนังหลาย ๆ คน โดยทัศนะส่วนตัว ผมว่าจริง ๆ ก็ไม่ผิดหรอกครับ ที่การเดินเรื่องจะไปคล้ายกับหนังสองเรื่องที่ผมกล่าวถึงไป แต่การถ่ายทำ มุมกล้อง บางส่วนมันดูช่าง ‘จงใจ’ มากกว่า ‘คล้ายคลึง’ โดยบังเอิญซะมากกว่า อาจจะเป็นการสนองความต้องการที่จะ “Tribute” ต่อหนังทั้งสองเรื่องของผู้กำกับ Lee Jong Hyuk ก็เป็นได้ครับ
ได้ดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรก เมื่อสมัยที่ หนังย้อนยุคซีรียส์เกาหลีชื่อดังเรื่อง แดจังกึม ออกฉาก ดังครับ ดังมาก ๆ หนังแม่ครัววังหลวงเรื่องนี้ หากใครจำได้ คุณคงจะจำพระเอกหน้าตาอบอุ่นคนนี้ได้ “Ji Jin-Hee” หนุ่มสุดเท่ห์ที่ช่วงนั้นดังระเบิดไม่แพ้สาว Lee Yeong-ae (ลี ยอง เอ) สาวสวยผู้พิชิตหัวใจผมได้ตั้งแต่เห็นหล่อนครั้งแรกใน JSA จนถึง Sympathy for Lady Vengeance ก่อนที่จะออกนอกเรื่องไปมากกว่านี้ (พูดถึงสาว ๆ ทีไร…ออกนอกเกาะทุกที) กลับเข้าเรื่อง “H” กันต่อครับ…หนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกของพระเอก Ji Jin Hee เขาเลยแหละครับ การแสดงอาจจะดูเขิน ๆ แข็ง ๆ ไปบ้าง (สาว ๆ คงให้อภัย) แต่ฝีมือการแสดงของนักแสดงชื่อดังคนอื่นๆ อย่าง หนุ่มตี๋ใส Cho Seung-Woo ที่สร้างความประทับใจให้กับหนังเกาหลี Drama หลาย ๆ เรื่อง อย่าง Wanee & Junah, Classic จนถึงหนังให้กำลังใจชีวิตอย่าง Marathon (ชอบเรื่องนี้จริงๆ ) และหนังรักอย่าง Love Phobia ประกอบกับฝีมือของนักแสดงสาว Yum Jung-ah ที่รับบทเป็นแม่เลี้ยงของเด็กสาวตู้สยองสองคนในหนังเรื่อง A Tale of Two Sisters หลาย ๆ คนคงจำสายตาของเธอได้เป็นอย่างดีนะครับ ฝีมือการแสดงของทั้งสองคน ช่วยเสริมส่งให้การแสดงของพระเอก Ji Jin-Hee ลื่นไหลไปได้อย่างดีทีเดียว
หนังเรื่อง “H” อาจทำให้คุณเบื่อบ้างจากการดำเนินเรื่องบางส่วนที่อืดไปนิด (หากไม่ตั้งใจดู อาจหลับได้) แต่ดูจากเนื้อเรื่องโดยรวม การถ่ายทำ โดยเฉพาะการย้อมสีของภาพในบางฉาก ผมว่า “H” ทำออกมาใช้ได้เลยครับ ใครชื่นชอบหนังฆาตกรรม สืบสวน สอบสวนในสไตล์เกาหลี (ปนฮอลิวู๊ด) ไปหามาดูกันได้ครับ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: รีวิวหนังหั่น เหี้ยม โหด, รีวิวหนังเกาหลี H (2002)
Chernobyl Diaries (2012)
เชอร์โนบิล เมืองร้าง มหันตภัยหลอน
กำกับ: Bradley Parker
เขียนบท: Oren Peli
นำแสดง: Jesse McCartney (Chris), Jonathan Sadowski (Paul), Devin Kelley (Amanda), Olivia Taylor Dudley (Natalie), Nathan Phillips (Michael), Ingrid Bolso Berdal (Zoe), Dimitri Diatchenko (Yuri)
ประเภท: Horror
Chernobyl Diaries อำนวยการสร้างและเขียนบทโดย Oren Peli เจ้าพ่อ Paranormal Activity หนังสยองมุมมองผ่านกล้อง Handheld ที่สร้างชื่อมากมายจนปัจจุบันมีออกมาถึงภาคที่ 4 แล้ว (ปีหน้าคงมีภาค 5 ออกมา -_-“) จะว่าไปตั้งแต่ Oren Peli มีชื่อเสียงโด่งดังมา แกหันมาเอาดีในการเขียนบทและอำนวยการสร้างหนังสยองมากมาย ขนาดที่ผมได้ยินชื่อแกจนเอียนกันไปข้าง ตั้งแต่ Insidious (2010), หนังซีรีย์ที่นำมาฉายใน True อย่าง The River, The Lords of Salem (2012) หนังสยองจากผู้กำกับ/นักดนตรี metal นาม Rob Zombie สำหรับ ผู้กำกับ Bradley Parker สร้างชื่อร่วมงานในหนังดังๆ มาแล้ว อาทิ Let Me In (2010), Willard (2003), Fight Club (1999), Lake Placid (1999)
Chernobyl Diaries เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่น 6 คน มาเปิดซิงกับประสบการณ์สุดแปลกใหม่ในการทัวร์แบบ Extreme Tour นั่นคือ การพาทัวร์โรงไฟฟ้า Chernobyl ณ เมือง Pripyat (พริพยาท) ประเทศยูเครน ซึ่งเป็นสถานที่ต้องห้ามปิดตายหลังจากเกิดเหตุการณ์เตาปฏิกรณ์ระเบิดเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ส่งผลให้มีสารกัมมันตภาพรังสีกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ ทำให้คนงาน สัตว์เลี้ยง สิ่งมีชีวิตที่พักอาศัยในบริเวณดังกล่าวเสียชีวิตจนสถานที่ดังกล่าวกลายเป็นเมืองร้าง เรื่องราวกลับไม่เป็นดังคาดเมื่อรถตู้ที่บรรทุกกลุ่มวัยรุ่นเข้ามานั้นเสีย เรื่องเริ่มเข้มข้นเมื่อพวกเขาเริ่มตระหนักว่า เมืองที่ว่าร้าง ไร้สิ่งมีชีวิตอาศัยนั้น ไม่ได้ร้างจริงอย่างที่ว่า พวกเขาไม่ได้อยู่กันเพียงลำพัง หากแต่ยังมีสิ่งลึกลับน่ากลัวบางอย่างเฝ้าดูพวกเขาในความมืดมาตลอดตั้งแต่พวกเขาได้ย่างกลายเข้ามาในพื้นที่ Chernobyl!
Chernobyl Diaries – เชอร์โนบิล เมืองร้าง มหันตภัยหลอน
เมื่อเป็นงานสร้างของ Oren Peli มีหรือที่เขาจะไม่ขายมุมกล้องแบบ Handheld แน่นอนครับ การเล่าเรื่องของ Chernobyl Diaries ใช้มุมกล้องเสมือนจริงจากกล้องวีดิโอ Handheld ดำเนินเรื่องตั้งแต่ต้นด้วยบรรยากาศสนุกสนาน เต็มไปด้วยความสุขของการเดินทางท่องเที่ยวของวัยรุ่นหนุ่มสาว แล้วค่อยๆ เจือความหดหู่ ลุ้นระทึกใส่เข้าไปในหนังเรื่อยๆ ด้วยภาพและเสียงที่ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่า ‘สิ่งนั้น’ คืออะไร หลายๆ คนที่ดูหนังเรื่องนี้ คงหงุดหงิดที่เห็นคนหกคนดื้นรนอยู่ในสภาพแวดล้อมปิดโดยที่ไม่เห็นว่า สิ่งที่เข้าจู่โจม ทำร้าย หลอกหลอนนั้นคืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร เราคงเห็นเพียงภาพคนวิ่งไปวิ่งมา (รู้เพียงว่า วิ่งหนีหมาหิวโซ ไรงี้^^)
หากแต่มองในอีกแง่มุมในสไตล์ของ Oren Peli ที่ชอบเล่นกับบรรยากาศ ความรู้สึกกดดัน และความเงียบ ผมว่าเรื่องนี้ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ น่าเบื่อ จนพาลให้หลับหรือถึงกับต้องเขวี้ยงแผ่นทิ้งแต่อย่างไร ตัวหนังสร้างความรู้สึกร่วมให้ลุ้นได้มากกว่า Paranormal Activity ภาคหลังๆ ด้วยซ้ำ
ส่วนตัวบทภาพยนตร์นั้นมีส่วนที่ควรปรับปรุงในเรื่องความสั้นกระชับจนห้วนเกินไปในหลายๆ ตอน แต่อย่างว่าครับ หนังสยองขวัญจะเอาเหตุผลอะไรกับมันมากมาย
เอาเป็นว่า Chernobyl Diaries เป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ สร้างความบันเทิงสุดสัปดาห์ได้ครับ
โดย ศร-รณ
Rating: 2.5 / 5.0
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: ผลงานของ Oren Peli, ผลงานผู้กำกับ Oren Peli, รีวิวหนัง Chernobyl Diaries, หนัง Chernobyl Diaries, เชอร์โนบิล เมืองร้าง มหันตภัยหลอน
Gothic Vampires from Hell (2007)
Vampires at Midnight (USA)
Cast: Gina DeVettori (Annastasia Nightshade), Mara Marini (Rayne), Jessica Remmers (Morgana), Agustin Bunuel (Poe), Sariah Bishop (Fawn), Zenova Braeden, Johnny G, Peter Gregg, Monika Mercedes, Michael Anthony Panella (Draven)
Directors: Ford Austin, Rob Walker
Writers: Jeremiah Campbell, Fred Taulbee
Genre: Horror
Tons of fake blood plus ripped flesh mixed with sound like hard rock, ambient, industrial goth metal songs in this film, actually the tittle of this freak film just like the “Battle of the Bands” subject to Vampire ‘s tales.
Annastasia Nightshade, sexy lady who name from the record company “Gothem Records”, is coming in the goth vampiric bar for finding the interesting bands to sign with the record company. That’s the beginning of the blood freak story!
“Gothic Vampires From Hell” is a name of the band that Annastasia choosed to sign with her label. She organized the party to celebrate a new band like Gothic Vampires From Hell. After the party, Draven, who is a leader of the band found something wrong with himself. Finally, he knew that Annatasia is the vampire, also him!
I think you guys can guess the story from the beginning but that’s not bad at all. This is B-type low budget production. So, don’t hope this kind of the movie like “Interview with the Vampire”..ha ha..If you are the Goth vampiric lovers, you will love this tales, I guess. This is for fans of Vampire, flesh & blood, Sexy girls with sexy scene in the ambient thrilling atmosphere! Enjoy with Annastasia’s act,buddy!
by ศร-รณ (aka Sorn metalthai)
Rating: 2.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: Gothic Vampires from Hell (2007), Vampires at Midnight (USA), vampires movie review
Guts of a Virgin 2
Entrails of a Beautiful Woman
Bijo no harawata (1986)
นำแสดง: Megumi Ozawa (Hiromi), Ayako Ishii, Seira Kitagawa (Yoshimi), Ken Yoshizawa (Yoshioka), Shinji Sekikawa, Kazuhiro Sano, Yoshinari Yoshie, Kimiya Kodagawa
กำกับและเขียนบท: Kazuo ‘Gaira’ Komizu
ประเภท: Horror/ Erotic Gore Flick / Fantasy / Thriller
เรื่องย่อ: เรื่องราวว่าด้วยแก๊งค์ยากูซ่าที่ทำธุรกิจค้าประเวณีส่งสาวไปขายตามมินิลา แอฟริกา ด้วยวิธีให้นาย Hikashi หนุ่มคาสิโนวา หนึ่งในสมาชิกของแก๊งค์ยากูซ่าใช้วิธีการหลอกโดยการไปจีบให้สาวสวยตายใจ สุดท้ายก็เริ่มใช้ยากับเธอ จนเธอต้องตกกลายเป็นทาสของ ยาเสพติด และต้องยอมไปขายตัวในที่สุด ไอ้ยาที่ว่าเนี่ยมันเป็นโคเคนที่ชื่อว่า Angel Rain มีส่วนผสมกระตุ้นให้สาวเกิดอารมณ์ความใคร่ มีความต้องการทางเพศสูงมากกก…(ชนิดยกเดียวไม่เพียงพอ ต้องขอเบิ้ล…)
สาวน้อยผู้หนึ่งต้องตกเป็นเครื่องมือทางเพศของยากูซ่าแก๊งค์นี้ เธอหนีออกมาจากรังของยากูซ่าได้ และเธอได้วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือที่ คลินิกแห่งหนึ่ง มีชื่อว่า “Aquarium Clinic” เป็นคลินิกที่รักษาโรคทางเพศด้วยวิธีการที่เรียกว่า “จิตบำบัด” ด้วยฤทธิ์ยาที่มีต่อสาว น้อยผู้นั้น ทำให้เธอกระทำการอัตวิบากกรรมด้วยการกระโดดตึกตาย ก่อนหน้าที่เธอจะกระโดดตึกตายเธอได้พูดกับ คุณหมอสาวสวย ใน คลินิกแห่งนั้น ทำให้คุณหมอสาวผู้รับฟังเรื่องราวที่น่าสงสารของสาวน้อยผู้นั้น รู้สึกสงสารและอยากช่วยเหลือเธอเป็นอย่างมาก
คุณหมอสาวนักจิตวิทยาจะกระทำการแก้แค้นแทนสาวน้อยผู้จากไปได้อย่างไร การเอาตัวเข้าแรกเป็นสิ่งหนึ่งที่เธอต้องเสียสละ และโคเคน Angel Rain นั้น หากใช้เกินขนาด จะทำให้เกิดปฎิกริยาต่อร่างกายมนุษย์ได้อย่างไรบ้าง คุณจะต้องช็อคกับสิ่งที่ Gaira ผู้กำกับ ประเคนเนื้อหาสุดผิดเพี้ยน และวิปริตใส่ให้แน่นอน…พิสูจน์กันได้ใน Entrails of a Beatiful Woman ครับ…
ฉากต่างๆ …
การดำเนินเรื่องเกือบหนึ่งชั่วโมงเป็นเรื่องราวของการแก้แค้นโดยคุณหมอสาวสวย (โคตรน่ารัก) ที่ยอมพลีกายเข้าไปแก้แค้นให้กับสาวที่ ต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งค์ยากูซ่า ฉากต่างๆ ตั้งแต่เริ่มเรื่อง จะมีทั้งภาพการร่วมเพศอย่างซาดิสต์ ไปจนถึง ภาพที่ฉายความเหี้ยมโหด ของความเป็นยากูซ่า อย่างที่เราเห็นกันในหนังญี่ปุ่นหลายๆ เรื่อง พอมาในช่วงท้ายของเรื่องจะเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยจินตนาการแบบ Horror Sex Fantasy สุดสยึ๋ม น่าสะอิดสะเอียนไม่น้อย ผมคงไม่พูดอะไรมาก เพื่อนๆ ดูภาพประกอบ หรือจะหาหนังมาดูให้กระจ่าง กันไปเลยจะดีกว่าครับ
การกลับมาอีกครั้งของ Gaira ที่ดีกว่าเก่า…
หลังจากที่ผู้กำกับคนนี้ประสบความสำเร็จอย่างไม่ได้คาดคิดกับหนังเรื่อง Guts of a Vergin ภาคแรก ในปีเดียวกัน เขาก็เริ่มทำหนัง ภาคสองทันที โดยที่เนื้อหาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ แต่ theme หลักของเรื่องยังคงนำเรื่องของ Sex เป็นจุดขายอย่างโจ่งครึ่ม…ผมว่า ใน Guts of a Vergin ภาคแรก มีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า เนื้อหาในเรื่องนั้นค่อนข้างอ่อน และเน้นขาย Sex จนเกินไป มาถึงเรื่องนี้ นอกจากนำเรื่อง Sex มาใช้ในหนังแล้ว Gaira ได้เติมเนื้อหาที่มีเรื่องราวสุดผิดเพี้ยน พิสดาร แบบที่คุณไม่คาดฝันมาก่อน ใส่ลงไปใน หนังได้อย่างเข้มข้น และน่าติดตาม มันมีทั้งความเป็น Erotic Gore Flick / Thriller แล้วยังเต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งจินตนาการแบบ Fantasy ผสมความสยอง โหด เหี้ยม ซาดิสต์แบบ Horror คละคลุ้งเต็มไปหมด อยากดูหนังแปลกๆ ติดเรท แหวะๆ มีเรื่องราว ลองหา มาชิมกันได้เลยครับ…
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: Guts of a Virgin 2 (1986), ผลงานผู้กำกับ Gaira, ผลงานผู้กำกับ Kazuo 'Gaira' Komizu, รีวิวหนัง Guts of a Virgin 2 (1986), หนังสยองโหด
Guts of a Virgin (1986)
Entrails Virgin | Shojo no harawata
นำแสดง: Saeko Kizuki (Rei), Naomi Hagio (Kazuyo), Megumi Kawashima (Kei), Osamu Tsuruoka (Itomura), Daiki Kato (Asaoka), Hideki Takahashi (Tachikawa), Kazuhiko Goda (A murderer)
กำกับและเขียนบท: Kazuo ‘Gaira’ Komizu
ประเภท: Erotic/Porn/Horror/Gore Flick
เรื่องย่อ: สำหรับ Guts of a Virgin เป็นเรื่องราวของกองถ่ายทำหนังสือแนว Erotic (ประมาณนั้น) หกคน เป็นชายสาม หญิงสาว ออกไปถ่ายทำนอกสถานที่ ขากลับต้องไปเจอหมอกหนาจนต้องหาที่พัก ซึ่งพวกเขาไปเจอสถานที่ร้างแห่งหนึ่ง และจุดเริ่มต้นความสยองก็อยู่ที่นั่น ชายหนุ่มพกอาวุธยาวกว่า 10 นิ้ว พอกโคลนทั้งตัว กำลังจ้องมองชาย 3 หญิง 3 ในที่พักแห่งนั้น แล้วก็เริ่มไล่ล่าฆ่าทีละคน ทีละคน…
เรื่องราวของกามารมณ์ ตัณหา ที่สื่อออกมาในแง่ของความรุนแรง ซาดิสต์ ช่างภาพหนุ่มคะนองนาบ้าเซ็กส์ชื่นชอบการถ่ายภาพของคู่รัก (ซึ่งเป็นทีมงาน และนางแบบหนังโป๊) ขณะร่วมรัก ซึ่งภาพการร่วมเพศเหล่านี้ ทางผู้กำกับพยายามซ้อนกับภาพปัจจุบัน สื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างทีมงานทั้งหมด นอกจากจะมีช่างภาพหนุ่มคะนองนา แล้วยังมีเจ้าของโปรเจ็กต์หนุ่มใหญ่จอมซาดิสต์ และหนุ่มน้อยผู้ช่วยช่างภาพที่ยังมีความดีแฝงอยู่ไม่หมกมุ่นในกาม ส่วนทางฝ่ายหญิงก็จะมีนางแบบสาวผู้ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้รับงาน และเงิน คนที่สองเป็นผู้ติดตามกอง สาวน้อยผู้ไม่เคยเสียความบริสุทธิ์ให้ใคร (…แต่สุดท้ายก็ต้องมาเสียตัวให้กับช่างภาพหนุ่มคะนองนา) และสุดท้ายสาววัยกลางคนที่เป็นแฟนของช่างภาพหนุ่ม ผู้เร้าร้อนในรัก และปรารถนาใน Sex อย่างหมดขั้วหัวใจ…พอจะเห็นภาพกันแล้วนะครับ สำหรับตัวละครทั้ง 6 ตัว ซึ่งพูดง่ายๆ ครับ ท้ายที่สุดแล้ว ก็จับคู่ได้กันหมดครับ (ยกเว้นหนุ่มน้อยผู้ผดุงความยุติธรรม)
ถ้าตัดฉาก Gore สยองซาดิสต์ออก ก็คงจะเป็นหนังโป๊ธรรมดาๆ เรื่องหนึ่งเท่านั้น แต่ผู้กำกับแกจัดความซาดิสต์ สยอง และความแปลกใหม่ในท่วงท่ากามารมณ์เข้าไป ทำให้ได้อรรถรสในการดูเพิ่มขึ้นไม่น้อย ใครยังไม่ได้ดูลองนึกภาพท่า “Pile Driver” ตอนที่เรามวยปล้ำสิครับ เหมือนทำท่า “69” แล้วยกตัวขึ้น เอาหัวทุ่มลงมา แต่นี่ ผู้กำกับแกเอาไปประยุกต์กับท่าร่วมเพศสุดพิสดารได้อย่างเถื่อนน่าดู น่าลองมาก (บรรยายไปอาจไม่เห็นภาพ ลองเสาะหามาดูกัน) นอกจากนี้ยังมีฉากที่เจ้ามนุษย์พวกโคลนกับอาวุธยาว 10 นิ้ว มหึมา คอยตามไล่ล่าทีมงานทั้ง 6 คน ชายสามคนโดนฆ่าอย่างทารุณ แต่หญิงทั้งสามคนโดนอาวุธ 10 นิ้ว ประเคนให้ความสุขก่อนลงมืออย่างโหดเหี้ยม…
ภาคแรกของหนัง “โป๊ แหวะ” ที่ออกจะ “โป๊” มากกว่า “แหวะ” กับผลงานของ Gaira ก่อนที่จะมี Bijo no harawata หรือ Entrails of a beatiful woman (Guts of a virgin2) ในปีเดียวกัน และ Gomon kifujin หรือ Female Inquisitor | Rusted Body : Guts of a Virgin 3 ในปี 1987 ซึ่งอีกสองภาคที่เหลือจะทยอยนำมารีวิวให้ได้อ่านกันในภายภาคหน้า
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.69 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: Guts of a Virgin (1986), ผลงานผู้กำกับ Gaira, ผลงานผู้กำกับ Kazuo 'Gaira' Komizu, รีวิวหนัง Guts of a Virgin (1986), หนังสยองโหด
The Raven (2012)
เจาะแผนคลั่ง ลอกสูตรฆ่า
นำแสดง: John Cusack (Edgar Allan Poe), Luke Evans (Detective Fields), Alice Eve (Emily Hamilton), Brendan Gleeson (Captain Hamilton), Kevin McNally (Maddux), Oliver Jackson-Cohen (John Cantrell), Jimmy Yuill (Captain Eldridge), Sam Hazeldine (Ivan)
กำกับ: James McTeigue
เขียนบท: Ben Livingston, Hannah Shakespeare
ประเภท: Thriller / Mystery / Suspense
ผลงานของผู้กำกับ James McTeigue สั่งสมประสบการณ์กับการเป็นผู้ช่วยผู้กำกับในหนังดังหลายเรื่อง อาทิ Dark City (1998), The Matrix (1999), The Matrix Reloaded (2003), The Matrix Revolutions (2003) จนมาสร้างชื่อกับผลงานการกำกับของตนเองในเรื่อง V for Vendetta (2005) จนมาถึงหนัง Action เลือดสาดใน Ninja Assassin (2009) ล่าสุดปี 2012 เขาได้ปล่อยของอีกครั้งใน The Raven (2012)
เรื่องราวชีวิตของ Edgar Allan Poe (1809 – 1849) กวี นักวิจารณ์ นักเขียนนวนิยายที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนถูกขนานนามว่าเป็นเจ้าพ่อแห่งนวนิยายสยองขวัญ ซึ่งบทกวีที่สร้างชื่อเสียงที่สุดให้กับเขาก็คือบทกวีที่ชื่อว่า The Raven ซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี 1845 ทั้งนี้ James McTeigue ได้หยิบยกชื่อ The Raven มาตั้งเป็นชื่อของภาพยนตร์เรื่องนี้
The Raven เล่าเรื่องราวเหตุการณ์ฆาตกรรมสยองขวัญ ณ เมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐฯ โดยเริ่มจากคดีสังหารแม่ ลูกอย่างโหดเหี้ยม ซึ่งรูปแบบการฆาตกรรมนั้นถูกลอกแบบมาจากเรื่องราวที่ Edgar Allan Poe เขียน (นำแสดงโดย John Cusack) ทางนักสืบ Fields (นำแสดงโดย Luke Evans) จึงได้ขอความร่วมมือให้ Poe เข้าร่วมในการสืบสวนสอบสวนคดีที่เกิดขึ้นด้วย เหตุการณ์เริ่มเข้มข้นเมื่อหนึ่งในเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่องที่ได้แรงบันดาลใจจากฉากฆาตกรรมในเรื่องที่เขียนโดย Poe นั่นคือ Emily หญิงสาวที่ Poe หลงรัก เขาและนักสืบ Fields จึงต้องร่วมมือกันทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหยื่อสาวให้พ้นเงื้อมมือเจ้าฆาตกรต่อเนื่องรายนี้ให้ได้
The Raven เป็นหนังสืบสวนสอบสวนย้อนยุคในสไตล์แบบ Sherlock Holmes หรือ Jack the Ripper ที่ผสมฉากสยองขวัญในรูปแบบการฆ่า สับ โหดแตกต่างกันไป หากพูดถึงการดูเพื่อความบันเทิง The Raven ก็ตอบโจทย์ความเป็นหนัง Thriller สนุก ครบรส ดูได้ไม่น่าเบื่อครับ แต่หากมองถึงตัวบท หรือความสมเหตุสมผล ที่ในช่วงครึ่งแรก The Raven ปูทางทำได้น่าสนใจ น่าติดตาม แต่มาแผ่วในช่วงปลายที่ค่อนข้างจะรวบรัดตัดตอน และไร้เหตุผลในหลายๆ ฉากไปหน่อย
ถึง The Raven จะไม่ได้ใจแฟนหนังที่เคยชื่นชม James McTeigue เมื่อครั้งกำกับเรื่อง V for Vendetta นะครับ แต่ The Raven ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ซะขนาดคุณต้องมองข้ามไม่สนใจจะหยิบหนังเรื่องนี้มาดูกันเลย ใครชอบหนังแนวสืบสวนสอบสอนก็เสาะหามาดูกันได้ตามอัธยาศัยครับ
โดย ศร-รณ
Rating: 3.00 / 5.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies P - R Tagged with: นักเขียนนวนิยายสยองขวัญ Edgar Allan Poe, ผู้กำกับ James McTeigue, รีวิวหนัง The Raven, หนังเจาะแผนคลั่ง ลอกสูตรฆ่า, หนังใหม่ 2012
ATM (2012)
ATM ตู้ กด ตาย
กำกับ: David Brooks
เขียนบท: Chris Sparling
นำแสดง: Brian Geraghty (David Hargrove), Alice Eve (Emily Brandt), Josh Peck (Corey Thompson)
ประเภท: Thriller / Horror
คืนสังสรรค์กับบรรยากาศสนุกสนานในคืนวันคริสต์มาส สองเพื่อนซี้ David และ Corey กำลังเม้าท์กับเพื่อนชายอีกหลายๆ คนอย่างสนุกสนาน เมื่อ David เห็น Emily สาวสวยที่ตนอยากจะจีบใจจะขาดกำลังจะกลับบ้าน เขาจึงไปพูดคุยและขอไปส่งบ้าน ทว่า เจ้า Corey เพื่อนซี้ดันบอกให้ David ไปส่งบ้านตนก่อนที่จะไปส่งบ้านสาว เรื่องขมวดปมแบบไร้เหตุไร้ผลเมื่อเจ้า Corey อยากกินพิซซ่าแต่ไม่มีเงิน จึงขอแวะกดตังส์ก่อน (ซะงั้น) คงไม่ต้องเล่าต่อแล้วนะครับ หนังระทึกสยองขวัญที่มีตัวละครหลักแค่ 3 คน กับฆาตกรที่ยืนจ้องตู้ ATM อีกหนึ่ง ไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องเดา ไม่ต้องคิดมาก ไม่มีหักมุม ทิ้งไว้เพียงปมฉงนให้คนดูงงๆ ก่อนปิดเครื่องเล่น DVD (หรือหากใครไปดูในโรงภาพยนตร์มาแล้วประมาณช่วงกลางปี 2012 ที่ผ่านมา คงเดินออกมาจากโรงแบบงงๆ พร้อมคำบ่นเล็กๆ เป็นแน่!)
ATM ตู้ กด ตาย
หนังระทึกขวัญที่มาในรูปแบบของการเล่นลุ้นระทึกในพื้นที่ที่จำกัด เราคงได้เคยเห็นมาแล้วหลายรูปแบบนะครับ งานนี้ Chris Sparling ผู้เขียนบทที่ส่งงานเขียนในหนังเรื่อง Buried (2010) ว่าด้วยเรื่องของตัวเอกที่ถูกฝังในโลงลึก 6 ฟุตใต้ดิน ทำเอาผู้ชมอีดอัดและลุ้นกันไปตามๆ กัน ส่งผลให้ Buried กลายเป็นหนังระทึกขวัญที่หลายๆ คนชื่นชอบ ทว่ากลับมาที่ ATM ชื่อหนังสั้นๆ ง่ายๆ ที่มาด้วยพล็อตจำพวกเดียวกันนี้ เพียงแต่คราวนี้ เขานำตัวเอกของเรื่อง 3 คนอยู่ในพื้นที่ 15 ตารางเมตรกับอารมณ์ระทึกขวัญหวั่นผวาที่จั๋วหัวโฆษณากันในช่วงที่หนังเข้าฉาย
ผิดหวังไม่น้อยครับ โดยเฉพาะหากใครเคยดู Buried มาแล้ว ซึ่งระทึกลุ้นอารมณ์มากกว่า ATM อยู่หลายขุม หลายๆ ส่วนในหนังเรื่องนี้ ทำเอาตัวเอกสามคนของเราดูโง่ พฤติกรรมดูไร้เหตุผลอย่างบอกไม่ถูก บทชวนทะเลาะในช่วงเวลาบีบคั้นที่เหมือนกับต้องการให้แต่ละคนแสดงความเป็นตัวตน ความเห็นแก่ตัว หรือโทษคนอื่นมากกว่าจะยอมรับว่าเป็นความผิดของตัวเองก็ทำออกมาไม่ได้ดีเท่าหนังในแนวๆ นี้ ส่วนคุณฆาตกรที่ไม่แน่ใจว่าคุณเค้าจะมาเที่ยวฆ่าคนบริเวณตู้ ATM เพื่อเหตุผลอันใด เป็นการทดลองกล้องรักษาความปลอดภัย? เป็นความสนุกของคนโรคจิต? เป็นงานอดิเรกชวนฝัน? หรือต้องการจะปล้นเงินในตู้ ATM กันแน่ อันนี้ดูจนจบก็ยังคงหาคำตอบไม่ได้ครับ
ATM หนึ่งในหนังระทึกสยองขวัญประจำปี 2012 ที่น่าผิดหวังไม่น้อย เอาเป็นว่าต้องรอดูผลงานของผู้กำกับ David Brooks ในเรื่องต่อไปกันครับว่าจะเป็นอย่างไร
ส่วนเพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ดู ก็มองข้ามเรื่องนี้ไปก่อนก็ได้ครับ มีหนังสยองใหม่ๆ ในปีนี้ให้ได้เสพกัน เก็บ ATM เข้ากรุไปก่อนได้เลย
โดย ศร-รณ
Rating: 2.00 / 5.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies A - C Tagged with: ผลงานของ Chris Sparling, รีวิวหนัง ATM ตู้ กด ตาย, หนัง ATM ตู้ กด ตาย
Guinea Pig: Mermaid in the Manhole (1988)
Za ginipiggu 4: Manhoru no naka no ningyo
นำแสดง: Shigeru Saiki (The Artist), Mari Somei (The Mermaid), Masami Hisamoto, Tsuyoshi Toshishige
กำกับและเขียนบท: Hideshi Hino
ประเภท: Horror
เรื่องย่อ: จิตรกร ศิลปินผู้หนึ่ง ไปพบกับนางเงือกนอนบาดเจ็บอยู่ในท่อระบายน้ำใต้ดินแถวบ้าน เขานำนางเงือกตัวนั้นกลับมาบ้านด้วย นางเงือกที่เต็มไปด้วยบาดแผล ได้รับบาดเจ็บ ดูท่าทางจะไปไม่รอด แต่จิตรกรผู้นั้นก็พยายามจะรักษาชีวิตของเธอไว้ให้ได้นานที่สุด เขาได้เริ่มวาดรูปนางเงือกตั้งแต่นำเธอขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ ภาพนั้นเต็มไปด้วยความรัก หนังโรแมนติกสยองขวัญระหว่างจิตรกร กับนางเงือกในสไตล์ของ Guinea Pig ที่ห้ามพลาดครับ…
สวีตสยอง…
Hideshi Hino นักวาดการ์ตูน ผู้กำกับจิตเพี้ยน เราคงได้รู้จักเขาตั้งแต่ซีรีย์ Theater of Horror และเป็นที่จดจำในผลงานเรื่อง Guinea Pig : Flower of flesh and Blood คราวนี้ เขาสวมบทจิตรกร นักวาดภาพผู้ซึ่งพบกับสัตว์ครึ่งคน “นางเงือกแสนสวยและสุดเซ็กซี่” ที่ดันมานอนบาดเจ็บปางตายอยู่ในท่อระบายน้ำทิ้ง ของเสีย ความรัก ความห่วงใยได้เริ่มต้นขึ้นระหว่าง คน และสัตว์ครึ่งคน สิ่งที่ Hideshi พยายามถ่ายทอดเรื่องราวความรักของทั้งสอง ผ่านความสยอง แหวะ เลือดสาด ในสไตล์ Guinea Pig นั้น ทำออกมาได้ตรึงผู้ชมดีเหลือเกิน ผมว่า ถ้าทำออกมาในเวอร์ชั่นปกติ ไม่เลือดอาบ แผลแหวะ ผุผอง หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นหนังรักโรแมนติก ราวกับหนังรักสองภพ อะไรทำนองนั้นได้เลยแหละ
ตามบทความในเว็บไซต์ official ของ Guinea Pig เล่าไว้ว่า เรื่องนี้ เป็นตำนานรักสยองของญี่ปุ่น เหมือนกับที่บ้านเรามี ตำนานรักนางนาก ไอ้มาก ประมาณเดียวกันนั้นเลยก็ว่าได้ มันเหมือนกับว่าเป็นเรื่องเล่าจากรูปภาพวาด ที่มีที่มาที่ไปของจิตรกรผู้ต้องการส่งสารบางอย่าง ที่ทำให้คนดูใช้จินตนาการต่างๆ นานา ขยายความคิด ฟุ้งซ่านออกไปได้เอง โดยที่เจ้าของภาพไม่ต้องมานั่งบอกถึงที่มา…
ตำนานสยองเพี้ยนๆ ในญี่ปุ่นนั้นมีมากมาย จนเราสุดที่จะจินตนาการได้เลยครับ เราจะเห็นจากได้ภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องที่พอเราดูแล้วก็รู้สึกว่า นี่เหรอวะ…ตำนานสยองขวัญของญี่ปุ่น ซึ่งบางทีเราดูแล้วอาจจะกลายเป็น หนังสัตว์ประหลาด หนังฮาๆ ไปได้ แต่เท่าที่ได้ทราบจากเพื่อนชาวญี่ปุ่น (หัวโบราณ) เขาบอกว่า คนโบราณเชื่อถือเรื่องราวเหล่านี้มาก และมันเป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะคนโบราณ ที่จะสร้างเรื่องเล่า ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เอาไว้หลอกเด็กให้เชื่อ เหมือนกับเรื่องเล่าของไทยเรา อาทิ ห้ามตัดเล็บในเวลากลางคืน ห้ามเล่นหมากเก็บในเวลากลางคืน ทำนองนี้เป็นต้น
แต่การได้เสพตำนานของแต่ละชาติ แต่ละประเทศ ก็เหมือนกับได้เรียนรู้วัฒนธรรมโบราณของบ้านเขาเลยนะ…ผมว่า
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: snuff film หนัง guinea pig, ผลงานผู้กำกับ Hideshi Hino, ผู้กำกับ Hideshi Hino, รีวิวหนัง Guinea Pig, รีวิวหนัง Guinea Pig Mermaid in the Manhole (1988), รีวิวหนัง Mermaid in the Manhole, รีวิวหนังโรคจิตญี่ปุ่น, สนัฟฟ์ฟิล์ม, หนังญี่ปุ่นโรคจิต, หนังตระกูล Guinea pig