Manhunter (1986)
Red Dragon | Red Dragon: The Curse of Hannibal Lecter | Red Dragon: The Pursuit of Hannibal Lecter
นำแสดง:William L. Petersen (Will Graham as William Petersen), Kim Greist (Molly Graham), Joan Allen (Reba McClane), Brian Cox (Dr. Hannibal Lecktor), Dennis Farina (Jack Crawford), Tom Noonan (Francis Dollarhyde), Stephen Lang (Freddy Lounds), David Seaman (Kevin Graham), Benjamin Hendrickson (Dr. Frederick Chilton), Michael Talbott (Geehan), Dan Butler (Jimmy Price as Dan E. Butler), Michele Shay (Beverly Katz), Robin Moseley (Sarah), Paul Perri (Dr. Sidney Bloom), Patricia Charbonneau (Mrs. Sherman)
กำกับ: Michael Mann
เขียนบท: Thomas Harris (novel), Michael Mann (screenplay)
ประเภท: Crime / Drama / Horror / Thriller
นักสืบ Will Graham ถูกขอความช่วยเหลือจากหน่วยสืบสวน FBI ให้ช่วยตามจับเจ้า Tooth Fairy หรือไอ้เขี้ยวสยอง โดย นักสืบ Will Graham ต้องเข้าไปขอความช่วยเหลือจาก Dr. Hannibal Lecktor เนื่องจากทางกรมตำรวจ และตัวเขาเองไม่มีเบาะแสหรือร่องรอยใดๆ ในการตามล่าเจ้า Tooth Fairy เลย การสืบสวนสุดเข้มข้นของ Will Graham จึงเริ่มต้นขึ้น…
จากนวนิยายขายดีของ Thomas Harris ชื่อ Red Dragon ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์สืบสวน สอบสวนระทึกขวัญชื่อ Manhunter ซึ่งตอนแรกที่หนังจะออกทางผู้สร้างจะใช้ชื่อ Red Dragon ตามชื่อนวนิยาย แต่ก็มีเหตุทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อ เพราะเกรงว่าชื่อหนังจะไปซ้ำกับหนังอีกเรื่องในช่วงนั้น หนังชื่อ Manhunter จึงออกฉายในปี 1986 ซึ่งบอกกันตามตรงครับ รายได้แป็กเน่าสนิท แต่ได้กล่องและเสียงวิจารณ์ในแง่บวกมานอนปลอบขวัญแทน
Manhunter ปฐมบทของ Hannibal Lector ก่อนเปิดโลกมืดในภาคของ The Silence of the Lambs
Manhunter (Red Dragon) ถือได้ว่าเป็นปฐมบทของหนังตระกูล Hannibal ซึ่งตามฉบับ Manhunter ของผู้กำกับ Michael Mann นั้นไม่ค่อยที่จะเน้นที่ตัว Hannibal Lactor เท่าไรนัก ดังนั้นนี่จึงเป็นข้อแตกต่างสำคัญระหว่าง Manhunter ในปี 1986 เปรียบเทียบกับ Red Dragon ในปี 2002 (16 ปีให้หลัง) และยังรวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมายที่ทำให้หนังเรื่องเดียวกัน แต่ต่างเวลากันนั้น มีความแตกต่างกัน
ใน Manhunter นอกจากบทภาพยนตร์ของ Thomas Harris ที่เรียกได้ว่าสุดยอดแล้วนั้น ผู้กำกับ Michael Mann ที่ในยุคนั้นเขายังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไร แต่หากบอกว่า เป็นผู้กำกับหนังเรื่อง The Insider (1999 – หนัง Thriller/Drama/History ที่มี Al Pacino, Russell Crowe นำแสดงและกวาดรางวัลไปเพียบครับ), Ali (2001 – หนัง Biography ของนักมวยที่ชื่อ Ali ได้ Will Smith รับบทแสดงนำ หนังเรื่องนี้ก็กวาดรางวัลไปเพียบเช่นกัน), Collateral (2004), Miami Vice (2006) คงจะร้องอ๋อกันไปตามๆ กันนะครับ
นอกจากได้ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมแล้ว ยังมีนักแสดงฝีมือดีอย่าง William L. Petersen ที่ตอนนี้หันมาเอาดีรับบทนำในซีรียส์สืบสวนสอบสวนชื่อดัง CSI : Crime Scene Investigation ตามด้วย Brian Cox (Braveheart : 1995, Kiss the girls:1997, The Bourne Identity: 2002, The Ring:2002 และอีกเพียบ) ที่รับบท Hannibal นักแสดงอาวุโสมากฝีมือที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกับ Anthony Hopkins ที่รับบทเป็น ดอกเตอร์แลกเตอร์ในปัจจุบัน แม้ฝีมือและความนิ่งของ Hopkins จะกินขาด แต่ก็ต้องยอมรับครับว่า ภาค Manhunter ทางผู้กำกับ Mann ไม่ได้ตั้งใจจะเน้นเรื่องราวไปที่ Hannibal เท่าไรอยู่แล้ว ดังนั้นบทบาทของ Brian Cox จึงไม่โดดเด่นเท่าที่ควร นอกจากนั้นก็มีดาราดังๆ ร่วมเล่นอีกเพียบครับ ลองดูรายชื่อกันครับ น่าจะพอคุ้นกันได้ไม่ยาก
Manhunter ฉบับ Director’s Cut มีความยาวถึง 2 ชั่วโมงกว่าครับ เรียกว่า ดูกันจุใจจริง ตัวหนังดำเนินเรื่องไปตามเรื่องราวในนวนิยายของ Thomas Harris ครับ ไม่ค่อยมีการดัดแปลงเท่าไร ทาง Michael Mann ให้เกียรติ Harris กันสุดๆ เพราะงั้นความยาวของหนังถึง 2 ชั่วโมงกว่านี้ ต้องตั้งใจดูกันหน่อยครับ รายละเอียดในแต่ละฉากจะเยอะมาก หนังในฉบับที่ Mann กำกับนี้จะดูเรียบๆ นิ่งๆ แฝงความเหี้ยมโหดของ Tooth Fairy ในบางฉากไว้อย่างน่าดู เสียดายที่ฉากโหดๆ ของเจ้าเขี้ยวสยองนั้นน้อยไปหน่อย โทนของหนังก็ออกไปในแนวสมจริง ภาพและสีออกในทางสว่างกว่าฉบับ Red Dragon (2002) ใครสนใจ Manhunter คงต้องตั้งใจดูครับ หนังมีอะไรน่าสนใจเยอะ อย่าเผลอหลับกันไปก่อน ดู Manhunter ฉบับ 1986 จบ แล้วตามด้วย Red Dragon ฉบับ 2002 ต่อครับ จะเห็นภาพของหนังสองยุคอย่างชัดเจนเลยทีเดียว ที่สำคัญหากมีเวลาหานวนิยายของ Thomas Harris มาอ่านด้วยจะยิ่งได้รับอรรถรสสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว…
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: รีวิวหนัง Manhunter 1986, รีวิวหนัง Red Dragon, หนัง Manhunter จาก Red Dragon, หนัง silence of the lambs, หนังของ Hannibal Lactor, หนังสือของ thomas harris
The Machinist (2004)
Maquinista, El | หลอน…ไม่หลับ
นำแสดง: Christian Bale (Trevor Reznik), Jennifer Jason Leigh (Stevie), Aitana Sanchez-Gijon (Marie), John Sharian (Ivan), Michael Ironside (Miller), Larry Gilliard Jr. (Jackson as Larry Gilliard), Reg E. Cathey (Jones), Anna Massey (Mrs. Shrike), Matthew Romero Moore (Nicholas as Matthew Romero), Robert Long (Supervisor Furman), Colin Stinton (Inspector Rogers), Craig Stevenson (Tucker), Ferran Lahoz (Gonzales)
กำกับ:Brad Anderson
เขียนบท: Scott Kosar
ประเภท: Mystery / Thriller / Drama
ใครจำประโยคเด็ดของนาย Reznik บุคคลผู้หลอน…ไม่หลับบ้าง
1: “You…Okay?”
2: “Don’t I look okay?”
1: “If you were any thinner, you wouldn’t exist.”
ประโยคเด็ดในเรื่องที่ช่างติดหูด้วย วลีเสียดสี อดสู สงสาร ในเรื่อง The Machinist หนัง Mystery Thriller ที่ผมคาดว่า ใครได้ดูจบแล้ว คงแบ่งกลุ่มผู้ชมออกเป็นสองกลุ่มอย่างสุดขั้ว นั่นก็คือ หากไม่ชอบสุดๆ ก็ต้องเซ็งเสียดายตังกันสุดๆ สำหรับผมเป็นบุคคลกลุ่มแรกครับ (ออกตัวไว้เลย) เพราะหนังเจ๋งมาก…
เรื่องราวของ เรซนิก หนุ่มวัยกลางคนผู้เผชิญกับภาวะจิตหลอนขั้นรุนแรง ถึงกับไม่สามารถแยกแยะออกได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้น เป็นความจริง หรือ ความลวง?! อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในโรงงานจนเกือบคร่าชีวิตเพื่อนร่วมงานจากอาการหลอนลอยของเรซนิก การปรากฏตัวของคนงานใหม่ที่ไม่มีใครเคยพบเห็น คือ ความพิศวงที่ไม่อาจหาคำตอบได้ มันคือฝันร้ายหลอกหลอนเขาไม่รู้จบ…จะหลีกหนีมันพ้นได้อย่างไร เมื่อเขาไม่เคยหลับใหลแม้แต่วินาทีเดียว!
หนังต้นทุนต่ำที่ระดับของหนังไม่ได้ต่ำตามลงไปด้วย…ด้วยคุณภาพของหนัง ทั้งนักแสดง ทีมงาน ที่มากมายไปด้วยฝีมือระดับคุณภาพ เริ่มด้วยการทุ่มเทของ Christian Bale นักแสดงชื่อดังจากหนังเรื่อง American Psycho (2000), Batman Begins (2005), The Prestige (2006) ที่ลงทุนลดน้ำหนักตัวเองไปกว่า 60 ปอนด์ จนเหลือแต่โครงกระดูก เหมือนกับคนเป็นโรคนอนไม่หลับมาเป็นปีๆ ซ้ำแล้ว หลังจากการถ่ายทำเรื่องนี้ เขาต้องฟิตตัวเองให้กลายเป็นคนที่มีกล้ามบึกบึนเพื่อที่จะแสดงเป็นเจ้ามนุษย์ค้างคาวใน Batman Begins อีกด้วย
นอกจากนักแสดงแล้ว ใครจะเชื่อว่า ที่ที่เราเห็นในหนังที่ดูเหมือนเป็นหนังสไตล์อเมริกันด้วย มุมกล้อง สถานที่ถ่ายทำ ป้าย และสัญลักษณ์ต่างๆ แต่ที่จริงแล้วเป็นฉากที่สร้างกันใน บาเซโลน่า สเปน สุดยอดครับ ตรงนี้ไม่ธรรมดาเลย การจัดสรรใช้ทุนได้อย่างลงตัว และได้ภาพบรรยากาศที่สมจริงแบบนี้ นับถือ นับถือ
The Machinist เป็นคำตอบของหนังจำพวก Insomnia ได้ดีครับ ทั้งบรรยากาศ ทั้งเนื้อหา การใช้ชีวิต พฤติกรรมการปลดปล่อย และอาการอย่างครบครันของคนหลอนจากการนอนไม่หลับ ใครชอบหนังประเภทนี้ แนะนำให้ลองหา Insomnia (2002), Fight Club (1999), Lost in Translation (2003) และอีกหลายเรื่องเลยครับที่ใช้ theme เกี่ยวกับ Insomnia มาใช้
หนังเรื่องได้รับรางวัลเพียบครับ อาทิ รางวัลชนะเลิศ Best Actor : Christian Bale, Best Cinematography : Xavi Gimenez จาก Sitges – Catalonian International Film Festival ปี 2004 และชนะเลิศอีกหลายรางวัล รวมถึงการเข้าชิงในสาขาต่างๆ อีกด้วย
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies M - O Tagged with: ดูหนังหลอนๆ, รีวิวหนังหลอน, หนัง The Machinist 2004, หนังผลงานของ Christian Bale, หนังหลอน นอนไม่หลับ
Living Hell | Iki-jigoku (2000)
นำแสดง: Hirohito Honda (Yasu), Yoshiko Shiraishi (Chiyo), Rumi (Mami), Kazuo Yashiro (Ken), Naoko Mori (Yuki), Shugo Fujii (Mitsu), Hitoshi Suwabe (Dr. Kurando), Umitarou Nozaki (Sensei), Noboru Mitani (The Professor), Sei Hiraizumi (The Inspector)
กำกับและเขียนบท: Shugo Fujii
ประเภท: Horror
หนึ่งในหนัง Horror ที่ออกสไตล์โรคจิตในแบบญี่ปุ่นที่นำมาแนะนำกันอีกเรื่องครับ เรื่องนี้เป็นผลงานของ Shugo Fujii หนึ่งในผู้กำกับหนังที่อยู่ในยุคกลางของผู้กำกับหนังโหดในญี่ปุ่น ผู้สานต่อความโหดโรคจิตของผู้กำกับยุคก่อน กับสไตล์โครงเรื่องในแบบยุคใหม่ หนังเรื่อง Living Hell หรือ Iki – Jigoku ถึงได้ถูกสื่อบางสาขายกย่องให้ชื่อว่า ‘The Japanese Chainsaw Massacre’
เนื้อเรื่องใน Living Hell บางส่วนบทยังอ่อนครับ สับสนกับการโยงเรื่องแบบไม่ค่อยน่าให้อภัยอยู่บ้าง แต่ก็เอาเหอะครับ มองข้ามส่วนนั้นไปก่อน เพราะเนื้อหาในส่วนที่เข้มข้น กับบทสยองโหดที่น่าติดตามกันตั้งแต่ห้านาทีแรกช่วยให้หนังเรื่องนี้น่าดูมากขึ้นทีเดียว
เรื่องย่อ บวกฉากสยองต้องตา:
Chiyo ย่าโหด กับหลานสาวสภาพแห้งราวศพ สองย่า หลาน ที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ฆาตรกรรมสยองขวัญในบ้านหลังหนึ่ง และทั้งสองก็ไม่มีที่พักอาศัย เรื่องราวสยองเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Chiyo ย่าโหดโรคจิต และหลานสาวเข้าไปอยู่ในบ้านของญาติที่อีกเมืองหนึ่ง ในบ้านหลังนี้ Ken พี่ชายคนโต คอยดูแลบ้านยามที่พ่อของเขาไม่อยู่ อีกทั้งยังต้องดูแลน้องๆ คือ Mami พี่สาวคนรอง และ Yasu หนุ่มพิการ น้องคนสุดท้อง เหตุการณ์สยองขวัญเกิดขึ้นจากพฤติกรรมแปลกประหลาดของสองย่าหลาน เหยื่อรายแรกคือ Yasu ผู้พิการที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว เป็นผู้ประสบเหตุการณ์รายแรก การทรมานจึงเริ่มต้น…
Chiyo ย่าโหด กับหลานสาวเริ่มต้นการทรมาน Yasu หนุ่มพิการ ด้วยวิธีการสุดโรคจิต จับนกของ Yasu หนุ่มพิการมาทำเป็นอาหารให้กินเป็นเมนูแรก เมนูต่อมา เป็นแมลงสาบพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ หลังจากนั้นยังไม่พอ หนังกระหน่ำฉากทรมานต่อด้วยการมัด Yasu ไว้กับเตียง พร้อมทั้งใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าป้องกันตัวของผู้หญิง ช๊อต Yasu นอกนั้นยังไม่พอ ยัยหลานสาวผอมแห้งเอาน้ำราดไปที่ Yasuจ้อนน้อย แล้วย่าโหดก็กระหน่ำช๊อต Yasuจ้อนน้อยอย่างสนุกสนาน!
ในวันต่อมาสองย่าหลาน จับ Yasu มัดไว้กับรถเข็น เอาร่างกายของ Yasu ที่นั่งรถเข็นเป็นที่ปาเป้าเล่น ต่อมาหลานสาวแห้ง ใช้คีมกระหน่ำถอนฟันของ Yasu อย่างซาดิสต์สุดโต่ง เป็นการถูกทรมานที่น่าสงสารจริงๆ หลังจากนั้นหนุ่มพิการ Yasu ผู้น่าสงสารใช้เลือดเขียนข้อความใส่กระดาษ พยายามบอกเตือนคนอื่นๆ ในบ้าน ก็ยังไม่วายโดนทรมานต่อ ด้วยวิธีการใช้ฆ้อนปอนด์ทุบมือข้างที่หนุ่มพิการใช้เขียน…ทั้งวัน ทั้งคืนที่ Yasu ถูกทรมานด้วยวิธีสารพัดสุดพิสดาร หลังจากที่ Mami พี่สาวคนรองกลับมาบ้าน ก็โดนไปไม่ใช่น้อย ทั้งโดนไดเป่าผม เป่าด้วยความร้อนจนหน้าตาแหวะสยองไปตาม ๆ กัน นอกจากนี้แล้วยังมีฉากสยองต่อเนื่องให้เราได้ ‘ยี้’ กันทั้งเรื่องครับ ฉากที่เล่าถึงพฤติกรรมการกินของย่าโหดผู้นิยมชื่นชอบการกินลูกกะตาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ก่อนที่จะเริ่มกินเนื้อมนุษย์ก็แหวะได้ไม่น้อย…
ฉากสยองและการแสดงสุดโรคจิต (แสดงได้โรคจิตเข้าขั้นทีเดียว) ของนักแสดงในเรื่องนี้ สอบผ่านเลยครับ ดูมีชีวิตชีวา ไม่ได้เล่นแข็งๆ ไปตามบท ดูกันได้เพลินปนเสียว แบบประมาณว่า เฮ้ย! มันจะทำอะไรกันต่อวะ! ลองติดตามดูได้ตลอดทั้งเรื่องครับ
แฝดสยาม อิน กับ จัน ถูกนำมาเป็นโครงเรื่องหลักสำคัญ…
เรื่องราวกล่าวอ้างอิงถึงแฝดสยามคู่แรกของเรา อิน กับ จัน ในเรื่องโยงใยถึงการทดลองการตั้งครรภ์เพื่อให้ได้แฝดในลักษณะเดียวกันแบบนี้กับ ย่าโหด โดยฝีมือของหมอ Kurando หมอโรคจิตที่เห็นย่าโหดเป็นเพียงสิ่งของ เขาทำอย่างกับย่าโหดเป็นสัตว์ การทดลองสารเคมีต่างๆ นานาถูกนำมาใช้ แต่ใช่ว่า ย่าโหดจะถูกทำไปโดยไม่เต็มใจ ย่าโหดกลับชอบและสนุกสนานอย่างบ้าคลั่งไปกับการทดลองนี้ด้วย การทดลองดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ ย่าโหดมีลูกคนแรกตอนอายุ 43 คิดดูละกันว่า ลูกที่ออกมาจะเพี้ยน และผิดปกติแค่ไหน นอกจากนี้ Ken พี่ชายคนโตสุดเพี้ยนกลับมีความสัมพันธ์กับย่าโหด อย่างที่เราไม่คาดคิด เขาแปลก และมีพฤติกรรมผิดเพี้ยนไปจากมนุษย์ธรรมดา ความโหด โรคจิต ซาดิสต์ มาโซคิสต์ของเขาถูกเผยออกมาเรื่อยๆ พฤติกรรมจิตสุดป่วนเผยออกมาได้อย่างน่ากลัวดีแท้
คงไม่เฉลยเล่าเรื่องทั้งหมดแล้วครับ แค่นี้ก็ปล่อยของไปเยอะแล้ว ตั้งใจดูความสัมพันธ์ระหว่าง Chiyo…Dr. Kurando…และ Ken จะเกี่ยวโยงกันอย่างไร เครือข่ายปีศาจในคราบของมนุษย์นี้แหละที่จะกลืนความรู้สึกของคุณให้ห่อเหี่ยว ลุ้น และหยองไปด้วยกัน
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: ผลงานผู้กำกับ Shugo Fujii, รีวิวหนังโหด, หนัง Living Hell, หนังญี่ปุ่นโรคจิต, หนังญี่ปุ่นโหด
The Letters of Death (2006)
เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย
นำแสดง : มหาสมุทร บุณยรักษ์, ชลลดา เมฆราตรี, กรรชัย กำเนิดพลอย, ศุภกิจ ตังทัตสวัสดิ์, แอนดี้ เขมภิมุก, อโณมา ศรันย์ศิขริน
กำกับ : กพล ทองพลับ
ประเภท :Horror
เรื่องย่อ: เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อชัยวัฒน์ เพื่อนร่วมรุ่นตายไปต่อหน้าต่อตาเสรี เหลือเพียงซีดีที่ชัยวัฒน์ ให้เป็นข้อมูล ในซีดีแผ่นนี้ มีแต่ภาพคนตาย ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนนักเรียนตอนอยู่ ป.6 ห้องเดียวกับเขาทั้งสิ้น แต่น่าแปลกใจคือ ผู้ตายได้รับ “จดหมายลูกโซ่ปริศนา” ทุกคน !!!
เสรีและนาตยาเริ่มสืบหาสาเหตุจากข้อมูลที่มีอยู่ และถ้าไม่สามารถแก้ปริศนาได้ภายในเวลาที่กำหนดในจดหมาย ความตายเท่านั้นที่เป็นคำตอบสุดท้าย ตอนนี้ นาตยา เพื่อนสาวร่วมรุ่นได้รับจดหมายแล้ว และเพื่อนที่เหลืออยู่ ทุกคนก็ได้รับจดหมายเช่นกัน เสรีได้บอกทุกคนเรื่องความตายจากจดหมายปริศนาที่ทุกคนได้รับ แต่ไม่ใครเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง น่าจะเป็นเหตุบังเอิญมากกว่า จนกระทั่งพวกเขาทุกคนได้เผชิญหน้ากับความตายไปทีละคนอย่างไม่มีทางเลือก
การค้นหาคำตอบเริ่มชัดเจน เมื่อพฤกษ์ตั้งข้อสันนิษฐานว่า จดหมายปริศนาน่าจะเกี่ยวข้องกับ “ไอ้แว่น” เพื่อนคนหนึ่งสมัย ป.6 ที่มักถูกเพื่อนๆ แกล้งเสมอ ขณะที่ปมปริศนากำลังจะถูกคลี่คลาย เวลาของพฤกษ์ก็หมดลง เช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆ เหลือแต่เสรีกับนาตยา สองคนสุดท้ายในรุ่น ที่จะต้องแก้ปมปริศนาต่อไป พวกเขาจะสามารถหาคำตอบได้ทันหรือไม่ เพราะเวลาของพวกเขาทั้งสองกำลังจะหมดลงเหมือนกับเพื่อนของเขาอีกในไม่ช้า…….
หนังไทยที่โปรโมตมากมาย…
หนังจาก “เจ้าพ่อผีเมืองไทย ดีเจ ป๋อง กพล ทองพลับ…ดีเจ ป๋อง เดอะ ช็อก…ผู้รู้จริงเรื่องผี ผู้คร่ำหวอดในเรื่องภูตผีวิญญาณมานานร่วม 20 ปี…” และอีกมากมายคำโปรโมตที่ หรืออาจจะเรียกว่า บุคคลที่หากินกับผี ก็คงจะว่าได้ (แซวเล่นนะครับ ^^ หนังจะคุณภาพสนุกสยองดั่งคำยกย่องหรือเปล่า เพื่อนๆ คงต้องไปพิสูจน์เองนะ)…
นอกจากทางค่ายหนัง เอ จี เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จะใช้ชื่อเสียงของผู้กำกับกระพือโปรโมตหนังเรื่องนี้แล้ว ทาง AG ยังใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เล่นกับเรื่องราวความเชื่อของคนไทย กับ “จดหมายลูกโช่” ที่เป็น theme หลักของหนังเรื่องนี้ จนกระทั่งมีคนไม่พอใจถึงกับว่ากันไปถึงเรื่องราวของกฏหมาย ซึ่งทางบริษัทฯ เองก็ออกมาขอโทษเป็นที่เรียบร้อย (หลังจากสร้างกระแสได้อย่างล้นหลาม…จนเรียกว่าคุ้มค่า และยอมโดนด่า) สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามข่าวสาร ผมก็ขอนำข้อความข่าวจากเว็บไซต์ Manager Online มาลงให้อ่านกันบางส่วนครับ
“กลายเป็นปัญหาขึ้นมาอีกจนได้สำหรับวิธีการโปรโมตหนังในบ้านเรา ล่าสุดเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่อง “เดอะ เลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย” ของบริษัทเอจี เอนเตอร์เทนเม้นท์ กำกับโดย “ป๋อง กพล ทองพลับ” ที่ได้มีนักศึกษาส่วนหนึ่งเข้าร้องเรียนไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคภายหลังได้รับจดหมายลูกโซ่มีเนื้อหาใจความในลักษณะที่ว่าจดหมายฉบับที่ว่าเขียนมาจากเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าตนคงจะตายไปแล้วที่จดหมายฉบับนี้มาถึงมือผู้รับ และคนที่ได้รับจดหมายนี้จะต้องเขียนจดหมายส่งต่อไปอีกจำนวน 29 ฉบับ มิเช่นนั้นก็จะต้องจบชีวิตเช่นเดียวกับตน พร้อมกับลงท้ายเป็นรูปลายเส้นภาพแขวนคอและข้อความว่าแล้วเจอกันวันที่ 23 พ.ย….
ทั้งนี้หลังจากการได้รับการร้องเรียน ในวันนี้(16)ทางผู้บริหารค่ายเอจี เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ โดยนาย “สมศักดิ์ ทรงธรรมากุล” ประธานบริหาร พร้อมด้วยทนายความส่วนตัว และ “ป๋อง กพล ทองพลับ” ในฐานะของผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจึงได้เข้าไปชี้แจงต่อนายนพปฎล เมฆเมฆา ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเป็นที่เรียบร้อยแล้วในช่วงสายที่ผ่านมา โดยบอกว่าจดหมายที่ว่านั้นถูกทำออกมาเพื่อเป็นการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง “เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็นส่งตาย” จำนวนทั้งสิ้น 2,000 ฉบับด้วยกัน เน้นไปที่กลุ่มนักเรียน – นักศึกษา และมิได้มีเจตนาที่จะสร้างความตกใจให้กับผู้รับแต่อย่างใด เนื่องจากจะมีการส่งโปสการ์ดบอกรายละเอียดแนบไปกับจดหมายที่ว่านี้ด้วยทว่าได้เกิดการผิดพลาดต่อการจัดส่งจึงทำให้โปสการ์ดไม่ได้ถูกส่งไปพร้อมกับจดหมายพร้อมกับกล่าวขอโทษในความผิดพลาดดังกล่าว…”
ใครอยากอ่านเต็ม ๆ ก็เข้าไปได้ที่ http://www.manager.co.th/entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9490000141608 ครับ เอาเป็นว่า เพื่อนก็ใช้วิจารณญาณตัวเองดูนะครับ ว่าการกระทำแบบนี้สมควรหรือเปล่า
หนังจำพวกเอะอะก็ตาย…เอะอะก็จะฆ่า
เนื้อเรื่องชี้ไปที่เด็กนักเรียนที่เข้ามาใหม่กลางเทอมคนหนึ่ง โดยถูกแกล้งจากกลุ่มเพื่อนนักเรียนด้วยกัน แกล้งซะจนทำให้เด็กนักเรียนใหม่คนนั้นได้รับอุบัติเหตุตกบันได ชนิดที่เรียกว่า สาหัสจนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อีกต่อไป เด็กนักเรียนใหม่คนนั้นก็มีแต่ความแค้น เกลียดชัง ประกอบกับเด็กน้อยคนนั้นชอบเล่นเกมแฮงค์แมนเป็นชีวิตจิตใจ สุดท้ายจึงจบชีวิตลงพร้อมกับฝังความแค้นลงในจดหมายลูกโช่ พร้อมทิ้งปริศนาให้เพื่อนๆ ในห้อง ป.6 ที่เคยแกล้งเขาได้แก้ไขปริศนานั้นดู
ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว ส่วนตัวผมก็มีเรื่องขำๆ เล็กน้อยมาเล่าให้ฟัง เรียกน้ำย่อย เผื่อผู้ที่ไปชมจะร่วมสังเกตไปกับผมด้วย เริ่มต้นที่…หน้าตาเจ้าเด็กนักเรียนใหม่ที่ตอนสมัยเรียนอยู่ ป.6 ก็น่ารักดีนะครับ แต่พอแกประสบอุบัติเหตุ หรือประสบเคราะห์จากการกลั่นแกล้งของเพื่อน ๆ ร่วมชั้น และโตขึ้นมาชนิดที่เรียกว่า พกความคาดแค้นมาเต็มกระเป๋านั้น หน้าตาแกดูไม่ได้เลยครับ ดูไม่ได้อย่างมากมาก แตกต่างจากเพื่อนร่วมชั้นที่โตขึ้นมานั้น หน้าตา หล่อ สวย เป็นนายแบบ นางแบบสบายๆ ผมว่าการสร้างบุคลิกตัวละครได้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซะขนาดนั้นเนี่ย มันออกจะดูจงใจให้เกิดความแตกต่าง ระหว่าง คน กับ ผี(ที่มีแต่ความแค้น) ช่างไม่สมจริง และน่าขำ(เล็กน้อย) อย่างที่สุด ผมว่าการสร้างหนังจำพวกนี้ไม่จำเป็นต้องสร้างความแตกต่างในเรื่องของหน้าตาของตัวละครในลักษณะนี้ก็ได้ครับ
พระเอก จีน มหาสมุทร (จากภาพยนตร์เรื่อง หมานคร) ของพี่ป๋อง ที่ผมเห็นแกให้สัมภาษณ์ในงานเปิดตัวหนังว่า ต้องพระเอกคนนี้แหละ มีลักษณะในแบบ anti – hero คือลักษณะที่ว่าไม่น่าเป็นพระเอก แต่ก็เป็นพระเอกได้ ผมว่าพระเอกคนนี้มีความสามารถในระดับนึงครับ แต่แกต้องพัฒนาฟิลลิ่งในการเล่นภาพยนตร์จำพวกนี้อีกเยอะครับ เพราะเสียงแก ชวนง่วงนอน(มาก) นิ่ง ราบ เรื่อย เอื่อย ขนาดจุดสุดยอดของเรื่องที่พระเอกจีน ต้องตะโกนให้ นางเอกเก๋ เขียนจดหมายลูกโซ่ต่อนั้น มันยังดูไร้อารมณ์เหลือเกิน…
อย่างที่บอกไปครับ หนังเรื่องนี้เข้าข่าย หนังเอะอะก็ฆ่า เอะอะ เอ็งก็ต้องตายครับ…ซึ่งน้ำหนักในการประพันธ์หนังในเดอะ เล็ตเตอร์ให้เกิดการฆ่าล้างแค้นยกห้องแบบนี้ มันเบาหวิวมากครับ ไม่รู้แค้นอะไรนักหนา จะฆ่ามันล้างโคตร ทำนองนั้นเลย มันเสียดายนักแสดงที่อุตสาห์ตั้งใจมาโปรโมตหนัง มาร่วมแสดงครับ ออกมาฉาก สองฉาก ก็โดนฆ่าซะสยดสยอง หรือพี่ป๋อง ต้องการจะขายหนังในลักษณะ Gore ก็ไม่อาจทราบได้
กลิ่นหนังฝรั่งที่พี่เค้าอาจได้รับอิทธิพลมาก็คุกรุ่นอยู่หลายเรื่อง หนังจำพวกค่อยๆ ตายไปทีละคน ทีลคน ผมว่าเพื่อนๆ คงจะนึกออก ยิ่งหากได้ดูผลงานของพี่ป๋องในเรื่องนี้แล้ว คงจะร้อง ‘อ๋อ’ กันได้ไม่ยาก
ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ “เจ้าพ่อผีเมืองไทย” ผมก็ขอเอาใจช่วยให้พี่ “เจ้าพ่อผี” สร้างผลงานคุณภาพออกมาอีกเยอะๆ นะครับ
..ใครใคร่อยากดูหนังโรง ก็เชิญครับ
..ใครใคร่อยากรอดูหนังแผ่น (ก็แนะนำนะ) ^^
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: The Letters of Death (2006), รีวิวหนังผีไทย, หนังของกพล ทองพลับ, หนังผีพี่ป๋อง, หนังผีไทย, หนังสยองไทย, เดอะเลตเตอร์ เขียนเป็น ส่งตาย
Kekko Kamen 4: Surprise! (2005)
นำแสดง: Shoichiro Akaboshi, Jiro Dan, Noriko Higashide, Aki Hoshino, Kenjiro Ishimaru, Risa Kamimura, Nana Kasai, Misaki Mori, Maki Yamakawa, Joji Yokozawa
กำกับและเขียนบท: Takafumi Nagamine
ประเภท: S&M / Nudity / Comedy
ซูเปอร์ฮีโรหญิงของญี่ปุ่นกลับมาช่วยโลกอีกครั้ง! จากหนังการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่สาวเปลือย (ทั้งตัว) พราวสเน่ห์ มาสู่แผ่นฟิล์มในซีรีส์สุดฮิต Kekko Kamen หนังซูเปอร์ฮีโร่ตระกูลพวกไอ้มด X ไอ้มดแดง ไอ้มดดำ เทือกนั้นแล…แต่นี่เป็นซูเปอร์ฮีโรสาวที่เปลือยตัว กระโดดไปกระโดดมา พร้อมกระบองคู่ในแบบบรู๊ซ ลี (หรือเปล่าวะ?!?)
ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นี้ ทำออกมาในลักษณะของ S&M เบา ๆ ประมาณ พวกตัวร้ายจะนิยมการทรมาน และซาดิสต์เป็นสำคัญ ส่วนใหญ่ในหนังจะออกในโทนสีชมพูสดใส และมีมุขตลกมาให้เราอดอมยิ้มไม่ได้เป็นระยะๆ และที่สำคัญสาวๆ ในเรื่องนั้น คิกขุสุดๆ สดใส น่ารัก และยิ่งนักแสดงที่รับบทบาท Kekko Kamen ด้วยแล้ว หุ่นดีจริงๆ ครับ
ในภาค 4 : Surprise นี้ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดที่ Mangriffon Music Academy ที่ตั้งอยู่ ณ เกาะพิศวงแห่งหนึ่งที่ไม่สามารถระบุที่ตั้งได้แน่นอน เด็กนักเรียนดนตรีสาวๆ ที่นี่ต้องตกอยู่ในสภาวะอันตรายจากครูสอนดนตรี ผู้นิยมการทรมาน และขายเด็กสาวเหล่านี้ แต่ไม่ต้องห่วง…Kekko Kamen ซูเปอร์ฮีโร่สาวสุดสวยได้เข้ามาช่วยเหลือไว้ได้ทัน ภาค 4 เต็มไปด้วยเรื่องราวที่มีทั้งบทเพลงคลาสสิก เพลง Rock & Roll สุดมัน หาดูได้เพลินๆ ครับ^^
หนังแปลกๆ ที่คุณหามาดูได้คลายเครียดดีแท้…
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies J - L Tagged with: Kekko Kamen 4: Surprise, หนังซูเปอร์ฮีโร่หญิงเปลือย
Imprint (2006)
Masters of Horror # 1
นำแสดง: Billy Drago (Christopher), Youki Kudoh (Woman), Michie Ito (Komomo as Michie), Toshie Negishi (Maid), Shimako Iwai
กำกับ: Takashi Miike
เขียนบท: Shimako Iwai (novel), Daisuke Tengan (screenplay)
ประเภท: Horror / Thriller
เรื่องย่อ: “Christopher” นักข่าวชาวอเมริกันที่ตัดสินใจเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อตามหาหญิงคนรัก ที่นั่น…เขาไม่พบผู้หญิงคนนั้น แต่กลับพบหญิงขายบริการช่างจำนรรจาคนหนึ่งแทน เรื่องราวบอกเล่า จากปากของหญิงช่างจำนรรจาเกี่ยวกับ “Komomo” หญิงสาวที่นักข่าวอเมริกันตามหา ถูกบอกกล่าว เล่าอย่างสยดสยองต่อเหตุการณ์ที่ Komomo ต้องพบเจอในซ่องโสเภณี ท่ามกลางหญิงเกอิชาทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ที่แฝงไปด้วยความอำมหิต ริศยา ผ่านใบหน้าอันงดงามของพวกหล่อน เรื่องราวที่ Christopher ได้รับรู้นั้นจะเป็นอย่างไร เขาจะรับกับสิ่งที่หญิงขายบริการบอกเล่าได้หรือไม่ และมีอะไรซ่อนอยู่ภายใต้หน้าตาอันแปลกประหลาดของหญิงจำนรรจาผู้นั้น! พิสูจน์กันใน Imprint ผลงานจากผู้กำกับโหดเพี้ยนที่เราคุ้นเคยกับผลงานของเขาเป็นอย่างดี “Takashi Miike”
Imprint ..ความจริง – ความเท็จ
ลุง Miike บอกเล่าเรื่องราวของญี่ปุ่นในยุคศตวรรษที่ 19 ยุคโบราณที่ประเทศญี่ปุ่นเต็มไปด้วยการกดขี่ทางเพศ หญิงโสเภณี เกอิชา วิธีการลงโทษสุดทรมานที่อุดมไปด้วยความซาดิสต์เหี้ยมโหด ผิดมนุษย์ (ใครชื่นชอบความซาดิสต์ในแบบฉบับการทรมานหลากหลายวิธีสุดเพี้ยนของชาวญี่ปุ่น ขอแนะนำหนัง เรื่อง Shogun’s Sadism หนัง Split สองเรื่องควบ ต้นฉบับความซาดิสต์ที่ห้ามพลาด) หนังเดิน เรื่องด้วยภาพของ Christopher นักข่าวที่กลับมาญี่ปุ่นอีกครั้ง เพื่อตามหาสาวคนรักที่ชื่อ Komomo แต่เนื้อหาความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ Komomo กลับเป็นเรื่องราวของหญิงขายบริการช่างจำนรรจา ผู้มีใบหน้าผิดเพี้ยนไปจากคนธรรมดาจนไม่มีใครกล้าคบหา ที่ทำงานขายบริการในสำนักเกอิชาที่เดียวกันกับ Komomo ลุง Miike วาดลวดลายชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่สลับซับซ้อนตามสไตล์ของลุงแกได้อย่างน่าชื่นชม ด้วยการฉายภาพ ‘เล่าเรื่อง’ ของหญิงบริการช่างจำนรรจา ซ้อนกันระหว่างการเล่าเรื่อง ‘เท็จ’ กับ เรื่อง ‘จริง’ ที่เกิดขึ้น
บทพูดประโยคหนึ่งในหนังเรื่องนี้ของหญิงขายบริการช่างจำนรรจา ที่ว่า …แน่นอน ในสังคมเกอิชาอย่างเรา ๆ มักจะต้องเล่าเรื่องเท็จ ปิดบังความจริงกันอยู่แล้ว…มันเป็นนิสัยของพวกเรา…นี่แหละเป็น theme ที่สำคัญในหนังเรื่อง Imprint ที่ให้เราคอยติดตามกัน…
รวม “ฉากสยอง” ในอดีต…
ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของลุง Miike หลังจากดูเรื่องนี้จบแล้ว คงต้องบอกเลยว่า ‘ลุงแกกลับมาปล่อยของอีกแล้ว…’ มันเป็นบรรยากาศเก่าๆ ราวกับการสังสรรค์ปาร์ตี้รวมรุ่นศิษย์เก่ายังไง ยังงั้น ทั้งอารมณ์ ความรู้สึกในการเดินเรื่อง ฉากสยองแหวะ ฉากการทรมานสุดซาดิสต์ และฉากความเพี้ยน โหด วิตถาร ที่ไม่มีการรอมชอมกันเลย
เราว่าลองไล่ๆ กันดูครับ ว่ามีฉากไหน เป็นยังไงกันบ้าง เริ่มต้นเรื่องลุง Miike ดำเนินเรื่องในแบบอืด ๆ บอกเล่าเหตุการณ์ทุกอย่าง อย่างมีน้ำหนักและลงตัวในชั้นเซียนไปพองาม ก่อนที่จะ ‘ปล่อยของ’ ออกมาในช่วงกลางเรื่องอย่างเมามัน และแกก็ทยอย ‘ปล่อยของ’ ออกมาอีกเป็นระยะๆ ก่อนถึงจุดพีคของหนัง…ผมยกตัวอย่าง ฉากที่มีอารมณ์เก่าๆ ในแบบ Miike ที่ เรา’อยากเห็น’ และ’คุ้นเคย’
– ว่ากันด้วยฉากการทรมานที่เป็นหนึ่งใน theme จุดขายสำคัญในเรื่องกันเลยทีเดียว ในเรื่องการใช้เข็มฝังตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ เล็บมือ ยัน เหงือก! เราคงจะคุ้นเคยกันแล้วกับความโหดแบบนี้ ใน Audition รวมถึง การทรมานอย่างถึงพริกถึงขิงในบางส่วนของความเป็น Ichi The Killer
– เดินเรื่องช้าๆ ในอารมณ์ความเป็น Drama ก่อนที่จะเข้าสูความหม่น จนถึง ดำมืดสนิท ในรูปแบบของ Audition (ไม่แปลกเลยที่อารมณ์จะออกมาเป็นแบบนี้ เนื่องจากลุง Miike ได้ Daisuke Tengan มือฉมังผู้เขียนบทให้ Audition โด่งดังมาแล้ว มาเป็นผู้เขียนบทให้อีกในเรื่องนี้)
– ความบ้าคลั่ง เพี้ยนเหนือมนุษย์ ในความสยองของสไตล์ Miike ที่มักจะนำใช้วิธีการ พูดถึงระหว่าง ความดี และ ความชั่ว ผ่านตัว ‘มนุษย์’ ในความเป็น ‘อมนุษย์’ ในร่างเดียว อย่างใน Imprint ช่วงท้าย ของเรื่องที่เราได้เห็น Miike ใช้ความเป็น “แฝด” นรกอีกตัวที่ติดอยู่กับร่างของหญิงขายบริการช่างจำนรรจา ผมดูถึงตอนนี้แล้ว อดคิดถึง อารมณ์หลุดโลกของผลงานอีกเรื่องของ Miike ไม่ได้ นั่นคือ Gozu (ลองหามาดูกันครับ)
เอาเป็นว่า เล่ากันคร่าวๆ ครับ คงต้องหามาพิสูจน์กันเองครับ ว่าหนังในยุคปัจจุบัน ลุง Miike แกยังคงทำหนังได้ถึงพริกถึงขิงอยู่หรือเปล่า
การกลับมาของ Takashi Miike และทีมงาน…
บ้า เพี้ยน คลั่ง วิปริต วิปลาส และแฝงไปได้ลีลาวิตถารทรมาน ในฉาก “ยี้” ที่มีแฝงอยู่ในหนังเกือบทุก เรื่องของผู้กำกับคนนี้ “Takashi Miike”
ผมคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณของลุง Miike กันให้มากมาย เพื่อนๆ สามารถหาอ่านได้จากรีวิวผลงานของลุงคนนี้ในเว็บได้นะครับ…มาเข้าเรื่องถึงผลงานล่าสุดของลุง Miike ที่ได้มาผ่านสายตาของ แฟนหนังสยองในบ้านเรากันดีกว่า
Imprint เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ 13 เรื่อง ที่ถูกนำไปรวมในทีวีซีรีย์ที่รวบรวมปรมาจารย์ทางด้านหนังสยองไว้ถึง 13 คน 13 เรื่อง ในชุดซีรีย์ที่ชื่อว่า “Master Of Horror” ผลงานไอเดียบรรเจิดของ Mick Garris ผู้ต้นคิด American Horror Television ที่ในหลายๆ เรื่องของซีรีย์นี้ถูกสั่งแบน และถูกสั่งเซ็นเซอร์ในหลายๆ ฉากที่ถูกนำไปฉายในหลายๆ ประเทศอีกด้วย ในผลงานเรื่อง Imprint นี้ ได้ถูกดัดแปลงมาจากนวนิยายสุดสยองของญี่ปุ่นที่ชื่อ Bokee Kyotee หรือ Really Scary และนำมาปรุงบทให้กลายเป็นบทภาพยนตร์สุดบรรเจิดโดย Daisuke Tengan คุ้นๆ กับชื่อของบุคคลคนนี้มั้ยครับ…Daisuke Tengan ก็คือ ผู้เขียนบทหนังเรื่อง Oodishon หรือ Audition หนังสยองอันโด่งดังในบ้านเรา ที่ทำให้ทุกคนต้อง ‘แหยง’ ไปกับสายเปียโนกันไปเลย นอกจากบุคคลเบื้องหลังแล้ว สำหรับบุคคลเบื้องหน้าที่เป็นนักแสดงที่เต็มไปด้วยยอดฝีมืออย่าง Billy Drago ผู้รับบทนักข่าวชาวอเมริกันผู้นี้ ผมว่าหลาย ๆ คนคงจะคุ้น หน้าเฮีย Drago กันอยู่แล้วนะครับ แกเล่นหนังเป็นร้อยเรื่องได้ ล่าสุดเราน่าจะคุ้นกับเฮียแกใน หนังเรื่อง The Hills Have Eyes นักแสดงที่เต็มไปด้วยฝีมือคนนี้ ถ่ายทอด บอกผ่านความรู้สึกใน หนังเรื่อง Imprint ได้อย่างยอดเยี่ยมครับ ใครเป็นแฟนหนังของแก คงต้องติดตามดูให้ได้ นอกจาก Billy Drago แล้วขอแนะนำสาวอีกนางนึงนั่งก็คือ สาวสวย (โคตร) ทรงสเน่ห์ ที่ชื่อ Youki Kudoh ผู้รับบทหญิงลึกลับขายบริการช่างจำนรรจา กับใบหน้าอันผิดเพี้ยนของหล่อน เธอแสดงได้ “จิต” สุดๆ เลยครับในเรื่องนี้ ผิดกับบทบาทก่อนๆ ของเธออย่างในเรื่อง Memories of a Geisha หรืออย่าง Mysteries Train
แค่พูดถึงตัวผู้กำกับ และทีมงาน ก็คงการันตีกันได้เลยนะครับว่า Imprint ไม่ใช่หนังธรรมดาที่ทุกคนคิดว่า ลุง Miike แกหมดไฟทำหนังสยองแหวะสุดซาดิสต์กันไปแล้ว…เรื่องนี้แหละ บอกได้เลยว่า ลุงแก ยังคงมาตราฐานความวิตถารอยู่ไม่เสื่อมคาย….
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.50 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: ซีรีส์ Master of horror, ผลงานผู้กำกับ Takashi Miike, ผู้กำกับ Takashi Miike, หนัง Imprint 2006, หนังสยองขวัญ Imprint
Images In A Convent (1979)
Immagini di un convento
นำแสดง: Paola Senatore, Marina Hedman, Paola Maiolini, Marina Ambrosini, Angelo Arquilla
กำกับและเขียนบท:Joe D’Amato
ประเภท:Erotic / Drama / Horror / Adult / Nunsploitation
เรื่องย่อ: Isabella เด็กสาวที่พ่อของเธอต้องการให้เธอเข้ามาอาศัยอยู่ในคอนแวนต์ เพื่อต้องการหลบหนีจากบางสิ่ง ทำให้ Isabella ต้องกลายเป็น Sister Isabella นางชีจำเป็น..แต่สิ่งที่เธอปรารถนาคือ ความต้องการทางเพศที่ยังคงมีอยู่อย่างโชติช่วงในตัวเธอ ทำให้เธอทำทุกวิถีทางที่จะหนีให้พ้นจากคอนแวนต์แห่งนี้ไปให้ได้…
อยู่มาวันหนึ่ง เกิดมีชายหนุ่มรูปงามมานอนบาดเจ็บอยู่หน้าโบสถ์ เหล่าชีจึงช่วยเหลือนำหนุ่มรูปงามเข้ามารักษาตัวในโบสถ์ เหตุการณ์ทั้งหมดจึงเริ่มต้นขึ้น…เมื่อหนุ่มรูปงามคนนี้ ผู้ซึ่งนางชีต่างลือกันว่า เขาคือลูกชายของซาตานมาจุติ ณ สถานที่ศาสนาแห่งนี้ หรือไม่…
ซึ่งก็เป็นไปตามที่หัวหน้าแม่ชีคาดการณ์ไว้ หนุ่มรูปงามคนนี้เสมือนเป็นตัวแทนของปีศาจร้ายที่เข้ามาทำลายความสงบสุขในคอนแวนต์ เขาเป็นคนที่ Sister Isabella ต้องการตัว แน่นอน…เธอต้องการให้เขาผู้นี้พาเธอหนีออกไปจากคอนแวนต์แห่งนี้
หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายมากมายที่เกิดขึ้น ทำให้ Sister Angella หัวหน้าแม่ชีต้องเชิญหลวงพ่อผู้เชี่ยวชาญด้านการปราบวิญญาณร้าย เข้ามาทำการขับไล่เจ้าปีศาจร้ายออก ไปให้พ้นจากคอนแวนต์แห่งนี้..
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร หลวงพ่อจะขับไล่ปีศาจร้ายออกไปได้หรือไม่ ไฟราคะ กามา ตัณหาจัดที่ซ่อนเร้นในตัวนางชีแต่ละคนจะดับมอดลง หรือจะโชนลุกเผาผลาญกฎเกณฑ์ ข้อบังคับของความเป็นชีไปจนหมดสิ้น ต้องติดตามใน Images In A Convent
ปรารถนาต้องคำสาป…
คอนแวนต์นางชีที่เต็มไปด้วยคำสาป เต็มไปด้วยชีที่มีแต่ตัณหาราคะ และการครอบงำของปีศาจร้าย ฉากหลายฉากในหนังเรื่องนี้ ฉายภาพให้เห็นเด่นชัดกับหนังในแนว Nunsploitation อาทิ
– นางชีใหม่ (Sister Isabella) กำลังนอนฝันถึงการร่วมรักกับชายหนุ่มอย่างเมามัน มีนางชีผู้เต็มไปด้วยตัณหาราคะ (Sister Lainia) อีกคนเข้ามาดู และเล้าโลมเธอ จนกลายเป็นการลักหลับนางชีด้วยกันเอง ฉากร่วมรักลักหลับระหว่างชีกับชีจึงเกิดขึ้นอย่างโจ่งครึ่มอลังการน่าดูเป็นไหนๆ นางชีผู้เต็มไปด้วยตัณหาราคะถูกแม่ชีอาวุโส (Sister Marta) อีกคนจับได้ จึงถูกลงโทษด้วยการโบยอย่างหนัก ก่อนที่เรื่องจะพลิกไปที่ความสัมพันธ์สุดลึกซึ้งที่เกินจะคาดเดาระหว่างนางชีอาวุโส กับ นางชีผู้คลั่งไคล้ในกามา นอกจากนี้ยังมีฉากร่วมรักแบบโคตรเมามันและโจ่งครึ่มระหว่างชีเด็กกับชีอาวุโส ในแบบที่เราไม่คาดคิดในทุกท่วงลีลา…เอาดุ้นไม้แท่งยักษ์มาทำเสมือนของเทียมใช้เป็นดุ้นรักสำเร็จความใคร่ในทุกท่วงท่า ตั้งแต่ท่ามิชชันนารีพื้นฐาน ไปจนถึงท่า Doggy สุดหวิวกันก็มี ชีเล่นท่า 69 ก็ยังมี โอ้ว สุดยอดจริงๆ…
– นอกจากนี้ยังมีฉากโจรป่าข่มขืนนางชี การทำลายล้างความบริสุทธิ์ของนางชีอย่างโหดร้าย โจรป่าสองคนรุมโทรมนางชีอย่างเมามัน การข่มขืนไปกระทุ้งความต้องการของชี ให้หลุดแรงปรารถนาที่มีศาสนากั้น ราวกับว่ามีเทพราคะเข้าสิงร่างหล่อน จนทำให้หล่อนเกิดอารมณ์ใคร่ขึ้นมาอย่างฉับพลันเกินกว่าจะห้ามใจได้ เธอปลดปล่อยและสนุกไปกับการร่วมรักแบบสุดหรรษา ก่อนที่สติจะฉุดรั้งให้เธอคิดได้ว่า “ฉันเป็นนางชีนะ ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง” และเธอก็หนีออกมาได้ตอนที่โจรป่าทั้งสองถึงจุดสุดยอด…
ขอให้ติดตามกันได้ดีครับ มีอีกหลายฉากในเรื่องนี้ที่น่าดูมาก เป็น Erotic Drama เจือ Horror เข้าได้อย่างลงตัว และดุเดือดจัดจ้านในฉากเซ็กส์สุดหยิวของเหล่านางชี…
Joe D Amato ชื่อนี้ที่ต้องจดจำ…
หนังอิตาลี ปี 1979 ผลงานของผู้กำกับ Joe D Amato ผู้กำกับหนังสยองอย่าง Anthropophagus: The Grim Reaper, Beyond The Darkness: Buio Omega, Erotic Nights Of The Living Dead และอีกหลาย ๆ เรื่องที่แฟนหนังสยองคงจะคุ้นเคยกับชื่อของผู้กำกับคนนี้ไม่น้อย ใครที่เคยดูผลงานสยองแบบ Horror เต็ม ๆ ของเขาแล้ว ต้องห้ามพลาด Drama Horror ในแบบ Erotic สุดๆ เรื่องนี้ของเขากันครับ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 4.69 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: ผลงานผู้กำกับ Joe D'Amato, รีวิวหนัง Images In A Convent (1979), หนังนางชี, หนังแนว Nunsploitation
Ichi The Killer / Koroshiya1(2001)
นักแสดง: Tadanobu Asano (Kakihara), Nao Omori (Ichi), Shinya Tsukamoto (Jijii), Paulyn Sun (Karen), Susumu Terajima (Suzuki), Shun Sugata (Takayama), Toru Tezuka (Fujiwara), Yoshiki Arizono (Nakazawa), Kee (Ryu Long), Satoshi Niizuma (Inoue), Jun Kunimura (Funaki)
กำกับ: Takashi Miike
เขียนบท: Sakichi Sato, Hideo Yamamoto (ผลงานการ์ตูน)
ประเภท: Crime/Action/Horror/Thriller
เรื่องย่อ… เมื่อหัวหน้าแก็งก์อันโจหายตัวไปพร้อมกับเงิน 300 ล้านเยน มือขาวของแก็งก์อย่าง คาคิฮาร่า(อาซาโน่) จึงต้องออกสืบเรื่องราวทั้งหมดจนกระทั้งพบว่า หัวหน้าแก็งก์ของเค้าตายแล้วโดยถูกนักฆ่าผู้ลึกลับที่ชื่อว่า “อิจิ” นักฆ่าหน้าละอ่อนที่มีชื่อเดียวกับหมายเลขบนชุดสูท นั่นคือ หมายเลข 1 (Ichi : ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า “1”) ที่เปลือกนอกเป็นเพียงเด็กขึ้ขลาด ท่าทางอ่อนแอ ถูกรังแกมาตั้งแต่เด็ก และไม่มั่นใจในตัวเอง เจ้านักฆ่าคาคิฮาร่า (Kakihara The Killer) จึงต้องออกมาล่าอิจิ (Ichi The Killer) ศึกระหว่างยากูซ่าสุดโหด และนักฆ่าหน้าละอ่อนจึงระเบิดขึ้น
หนัง Psycho Thriller/Horror เน้นแนว Action ที่เกินจริงจากการสร้างด้วยคอมพิวเตอร์กราฟฟิกที่ดูจะตั้งใจให้มันเวอร์ตามแนวต้นฉบับที่เป็นการ์ตูน ต้องบอกไว้ก่อนครับว่า หนังโรคจิต ซาดิสต์ มาโซคิสต์เรื่องนี้ โหดได้เรื่อง…ทั้งฉาก Sex กระทำชำเรา ทุบที ทรมาน ฆ่า เลือด หั่น ชำแหละ มีหมดครบสูตรตามสไตล์ยากูซ่า หากต้องการดูได้อรรถรสเต็มที่ก็ต้องหาหนังที่เป็น Uncut Version ที่เป็นสองแผ่นนะครับ แผ่นหนึ่งจะเป็นหนังแบบไม่เซ็นเซอร์ความยาวสองชั่วโมงนิดๆ ซึ่งถ้าเป็นเวอร์ชั่นลิขสิทธิ์ที่ทำออกขายในไทย จะถูกเซ็นเซอร์ฉากเด็ดๆ เพียบ (เท่าที่ทราบมาจากผู้ที่ดูเวอร์ชั่นลิขสิทธิ์ จะเป็นฉากตัดลิ้น, ฉากทรมานข่มขืนสาว ฉากทำออรัลเซ็กส์ และอีกหลายตอนที่เป็นผลงานของอิจิถูกตัดออกด้วยครับ) อีกแผ่นจะเป็นเบื้องหลัง มีทั้งบทสัมภาษณ์ผู้กำกับ นักแสดง ประวัติของ Takashi Miike , Tsukamoto, Asano มีอยู่อย่างละเอียดครับ ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ ลองติดตามดูได้
ด้านผู้สร้าง:
Takashi Miike คงไม่ต้องสรรเสริญกันแล้วสำหรับผู้กำกับคนนี้ หากใครได้ติดตามอ่านริวิในเว็บนี้ ก็คงจะทราบว่าผลงานเจ๋งๆ ของเขามีอะไรบ้าง ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ Takashi ทำออกมาได้เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนเมื่อเทียบกับผลงานของเขาในเรื่องอื่นๆ
สำหรับ Ichi The Killer นี้ถูกนำมาสร้างจากการ์ตูนผลงานของอาจารย์ Hideo Yamamoto (ในเวอร์ชั่นการ์ตูน animation เฮีย Takashi Miike ก็ไปช่วยพากษ์ในบทของ Kakihara ด้วย) และมีคนมาช่วยเขียนบทอีกคนคือ Sakichi Sato นักเขียนคนนี้สร้างชื่อเอาไว้หลายเรื่องครับ นอกจากเป็นนักเขียนแล้วเขายังเป็นนักแสดงอีกด้วย หนังจำพวกยากูซ่าทั้งหลาย เขามักจะไปแจมๆ ด้วย อย่างหนังฮอลิวู๊ด Kill Bill ภาคแรก, รัก น้อย นิด มหาศาล หรือ Last Life in the Universe หนังฝีมือผู้กำกับเป็นเอก รัตนเรือง เฮีย Sato และ เฮีย Takashi Miike แกก็ดันไปขอแจมเป็นยากูซ่าในเรื่องนี้อีกด้วย (เจ๋งจริง)
สำหรับนักแสดง:
ก่อนอื่นต้องขอพูดยกย่องน้า Shinya Tsukamoto นักแสดง/ผู้กำกับ ที่ Takashi Miike ให้ความยกย่องเป็นการส่วนตัว (ลองหาบทสัมภาษณ์ของ Miike ที่พูดถึง Tsukamoto มาดูกัน) ได้รับเชิญมาแสดงในเรื่องนี้ ในบทของเฮียจีจิ นักสะกดจิตและนักกล้าม (ที่สร้างจากคอมพิวเตอร์) คอยสั่งงานและปั่นหัว อิจิ นักฆ่าหมายเลข 1 มาตั้งแต่เด็ก น้า Tsukamoto แกแสดงหนังและกำกับหนังมาเพียบครับ หนังที่แกเป็นผู้กำกับเอง แกก็แสดงเองด้วย ถือได้เป็นหนึ่งในผู้กำกับหนังคัลต์คนหนึ่งของญี่ปุ่นที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกับผู้กำกับชื่อดัง David Lynch หนังเด็ดๆ ของน้าแกที่มีทั้ง Thriller/Horror มักแฝง Drama เข้าไปในหนังได้อย่างกลมกล่อม (ลองไปหาดูได้ครับ เช่น Tetsuo, Tetsuo II, Vital-เรื่องนี้อาจจะน่าเบื่อหน่อยนะ) มาถึงบทตัวเอก Kakihara รับบทโดย ทาดาโนบุ ฮาซาโน่ ยากูซ่าจอมโหด ซาดิสต์ โรคจิต ชอบการทรมานและถูกทรมานเป็นชีวิตจิตใจ ผมว่าคนไทยน่าจะรู้จัก ฮาซาโน่กันพอสมควรแล้ว ทั้งเรื่อง รัก น้อย นิด มหาศาล (Last Life In the Universe) และ Invisible Waves คงประจักษ์ในฝีมือของหนุ่มคนนี้กันแล้ว
รางวัลเพียบ:
Ichi The Killer ได้รับรางวัลและถูกเสนอชื่อเข้าชิงเพียบครับ:
รางวัลอันดับที่สาม จาก Fant-Asia Film Festival สาขา Fantasia Ground-Breaker Award (Takashi Miike) ปี 2003
ชนะเลิศจาก Fantafestival สาขา Best Special Effects ปี 2002
ชนะเลิศจาก Japanese Professional Movie Award สาขา Best Director (Takashi Miike) และสาขา Best Film ปี 2002
ชนะเลิศจาก Mainichi Film Concours สาขา Best Supporting Actor (Shinya Tsukamoto) ปี 2003
ชนะเลิศรางวัล Jury Award (Takashi Miike) จาก Neuchatel International Fantasy Film Festival ปี 2002
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 5.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: นักแสดง Tadanobu Asano, ผลงานการแสดง Tadanobu Asano, ผลงานผู้กำกับ Takashi Miike, ผู้กำกับ Takashi Miike, หนัง ichi the killer, หนังญี่ปุ่นโหด โรคจิต, หนังสยองญี่ปุ่น
Human Pork Chop (2001)
ซุปเนื้อสาว คาวอำมหิต | Peng shi zhi sang jin tian liang
นำแสดง: Emily Kwan (Grace Li), Yiu-Cheung Lai (Hok), Sai-Wing Yip, Ga Yiu Mok, Saan Lui, Sammuel Leung, Sau Yue Chan, Lan Law, Amanda Lee
กำกับและเขียนบท: Benny Chan Chi Shun
ประเภท: Crime / Horror
หนังเล่าเรื่องแบบย้อนภาพให้เราเห็นเหตุการณ์ ภาพความขัดแย้งระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับคำพูดจากปากของฆาตรกรโดยใช้บทสนทนา การสืบสวนสอบสวนของตำรวจกับฆาตกรโหดฆ่าหั่นศพ ทำให้เราได้เห็นถึงความโหด ดิบ จิต ซึ่งอาจทำให้คุณยี้ได้
เรื่องราวของ Grace หญิงสาวติดยา ขายตัวหาเงินเลี้ยงตัวและลูก จนต้องขโมยเงินจากรุ่นพี่คนหนึ่ง แต่เหตุการณ์ยังไม่จบลงง่ายๆ เมื่อรุ่นพี่ได้ติดตามทวงหนี้แต่ไม่ได้เงินคืนสักที พวกเขาจับ Grace ไปขังและทรมานในแฟล็ตเล็กๆ ที่เป็นที่อยู่ของรุ่นพี่และพรรคพวก การทรมานสารพัดรูปแบบถือกำเนิดขึ้น และสิ่งเดียวที่ Grace จะมาไถ่หนี้ได้ นั่นคือ ชีวิตของเธอ!
เนื้อเรื่องที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก ออกจะเป็นพล็อตเรื่องที่ไม่ต้องมีการคาดเดา แต่สิ่งที่ Human Pork Chop นำมาขาย คือ หนังที่สร้างจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในเมืองจีน ความโหดร้าย การทรมานสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่เอาหมาตัวน้อยยัดใส่ถุงและเอาฟาดกับกำแพงอย่างโหดราย, โดนบังคับให้หยิบขี้จากโถส้วมมากิน, โดนเอาขี้โป๊ะหน้า, ฉากตบ ตี ต่อยผู้หญิงอย่างไม่ปราณี จนถึงฉากโหด ๆ อย่างตอนที่สับ สับ สับ เหยื่อออกเป็นชิ้นๆ ไปจนถึงเอาท่อนแขน ท่อนขา และหัว! ของเหยื่อไปต้มทำน้ำซุป ทำลายหลักฐาน (แต่เท่าที่ดู ไอ้พวกโรคจิตมันไม่ได้ซดน้ำซุปกินเข้าไปด้วยนะ เหอ เหอ)
ส่วนชื่อไทยที่ว่า “ซุปเนื้อสาว คาวอำมหิต” ที่ทาง Right Beyond ซื้อลิขสิทธิ์มาขาย เนื้อเรื่องมันไม่ได้ชี้เฉพาะไปที่ไอ้ซุปเนื้อสาวอะไรนี่เลย แต่กลับตั้งชื่อแบบนั้นได้ ไม่รู้ทางทีมงานคิดได้ไง… เวอร์ชั่นของ Right Beyond ผมไม่ได้ดูนะครับ แต่คิดว่า น่าจะถูกตัดฉากโหดๆ ไปหลายอยู่เหมือนกัน ลองไปหาดูกันเอาเอง มีหนังอีกเรื่องที่เชื่อมโยงกับ Human Pork Chop นั่นก็คือ There’s a Secret in My Soup ใครเป็นแฟนหนังจีนสไตล์นี้ ก็ไปหาดูกันเอาเองครับ
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 3.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: ซุปเนื้อสาว คาวอำมหิต, รีวิวหนัง Human Pork Chop, หนังจีนสยองขวัญ, หนังจีนโหด
House of Blood(2006)
บ้านนรกกัดดิบ | Chain Reaction
นำแสดง: Christopher Kriesa (Doug), Martina Ittenbach (Alice), Dan van Husen (Paul), Mehmet Yilmaz (Vincenzo), Lisa Sachsenweger (Karen), Jurgen Prochnow (Police Officer), Mariona Grundies (Maria), Jaymes Butler (Steven), Gunter Bender (Ron), Cyrill Geffcken (Cop – shootout), Daryl Jackson (Jimmy), Gerhard Jilka (Phillipp)
กำกับ: Olaf Ittenbach
เขียนบท: Olaf Ittenbach, Thomas Reitmair
ประเภท: Horror
หนึ่งในผู้กำกับหนัง Horror ของเยอรมันที่สร้างชื่อเสียงจนเป็นที่เลื่องลือในตลาดหนังสยองทั่วโลก “Olaf Ittenbach” เริ่มต้นชีวิตการทำหนังควบคู่กับการรับทำสเปเชียลแอฟเฟ็กต์ให้กับหนังในหลายๆ เรื่อง สื่อหลายๆ สื่อพูดถึงเขาในหน้าที่การทำสเปเชียลแอ็ฟเฟ็กต์มากกว่าการรับหน้าที่กำกับหนังซะอีก ดูแล้วแววการทำสเปเชียลแอ็ฟเฟ็กต์น่าจะรุ่งกว่า…
เรื่องย่อ : เมื่อถึงคราวเคราะห์ของดั๊ก คุณหมอแห่งซีแอทเทิล ทำให้ดั๊กต้องประสบกับอุบัติเหตุแบบเดียวกันถึงสองครั้ง นั่นคือการหลบหนีของนักโทษในระหว่างอุบัติเหตุรถคุมนักโทษคว่ำ โดยการถูกคุมตัวไปเพื่อขึ้นไปทางเหนือซึ่งมุ่งสู่แคนาดา โดยนักโทษทั้งสองกลุ่มคุมตัวดั๊กเพื่อนำไปรักษาเพื่อนนักโทษที่บาดเจ็บ ระหว่างทางดั๊กและนักโทษทั้งสองกลุ่มต้องผ่านป่าพิศวงที่ทำให้ทั้งหมดเข้าไปพบกับบ้านของผีดิบ และทั้งสองครั้งดั๊กได้รอดชีวิตออกมา ด้วยการช่วยเหลือของอลิซ ผีดิบสาวที่ควบคุมตัวตนได้ หากแต่ท้ายที่สุดดั๊กเองก็หนีไม่พ้นความตาย…
กังฟูซอมบี้ใน House of Blood
House of Blood เป็นหนังซอมบี้ในแบบบรู๊ซ ลี ชนิดเหาะเหินเดินอากาศ ตีลังกา คล่องแคล่วว่องไว และโหดเหี้ยมไม่แพ้ซอมบี้ในหนังเรื่องอื่นๆ พล๊อตเรื่องเดินช้าจนน่าเบื่อในบางฉาก บางตอนที่ไม่เห็นว่าจำเป็นจะต้องมี การตัดภาพไป มา ระหว่างอดีตกับปัจจุบันไม่ได้ทำให้หนังน่าสนใจเลย กลับทำให้ดูน่าเบื่อมากกว่า ฉากโหดๆ นั้นมีให้เห็นในช่วงตอนท้ายของเรื่องอย่างจุใจ (ในฉบับไม่เซ็นเซอร์) บทภาพยนตร์อยู่ในมาตรฐานแบบฉบับของหนัง Horror แต่ผมว่าไอ้ช่วงท้ายของเรื่องที่ คุณหมอดั๊กตายนั้น มันสุดแสนปัญญาอ่อนซะจนทำให้เสียอารมณ์ในการดู อุตสาห์หลบหนีซอมบี้สุดโหดมาได้ แต่ก็ต้องมาตายแบบปัญญาอ่อน สงสัยผู้กำกับกะปล่อยมุขให้ฮา (หรือเปล่า) แต่มันแป๊กในความรู้สึกของผมจริงๆ
House of Blood (Chain Reaction) หรือบ้านนรกกัดดิบ ทางโรสวีดีโอได้ลิขสิทธิ์นำมาเผยแพร่กันในไทยด้วย (น่าจะหากันได้ง่ายๆ ตามกะบะหนังทั่วไปครับ) แต่ข้อควระวังคือ ทางโรสทำเซ็นเซอร์ซะเวอร์ ชนิดเอะอะก็เซ็นเซอร์ จนทำให้หนังเสียอรรถสรในการรับชมไปเกือบหมดครับ ทั้งๆ ที่ดูภาพโดยรวมแล้ว House of Blood เป็นหนัง Gory ชนิดแหวะ หัวเบะที่น่าดูชมทีเดียว ยิ่งฝีมือการทำสเปเชียลแอ็ฟเฟ็กต์ของ Olaf ด้วยแล้ว ยิ่งน่าสนใจ แต่พอดูฉบับลิขสิทธิ์ของโรสวีดีโอ แล้วต้องบอกเลยครับ หนังหมดความสนุก หมดสเน่ห์แบบ Horror ไปโดยปริยาย เพราะงั้นใครสนใจ ลองหาฉบับที่ไม่เซ็นเซอร์มาดูละกันนะครับ แบบวิซีดีลิขสิทธิ์ที่ผมดูนั่นไม่แนะนำครับ…
โดย ศร-รณ (aka ถั่วเขียว ณ ทุ่งสังหาร)
Rating: 2.00 / 6.00
Posted in Horror Movie Reviews, Horror Movies G - I Tagged with: รายชื่อหนังซอมบี้, รีวิวหนัง House of Blood, รีวิวหนังซอมบี้, หนังซอมบี้